กลุ่มคปท. ร้อง ยธ. สอบราชทัณฑ์ ปฏิบัติต่อ 'ทักษิณ' แบบ VVIP หรือไม่

ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร หลังอ้างมีการอาการป่วย จนทางกรมราชทัณฑ์ต้องย้ายจากเรือนจำ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถูกตั้งคำถาม "เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่" ทำให้วันนี้ มีเครือข่ายนักศึกษาเเละภาคประชาชน รวมตัวไปยื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรม เช่นเดียวกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์



เครือข่ายนักศึกษา-ประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดยนายนัสเซอร์ ยีมะ และนายพิชิต ไชยมงคล ร่วมกันชูป้ายแสดงความไม่พอใจกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร ถูกปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษ จากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเครือข่ายมองว่า "เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ และมองว่าคุกมีไว้สำหรับขังคนจน"



จากนั้นแกนนำได้ยื่นหนังสือถึง นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ กรณีปฏิบัติกับนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังกรณีพิเศษ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การที่กรมราชทัณฑ์เลือกปฏิบัติกับนักโทษในเรือนจำ อาจจะส่งผลให้กรมราชทัณฑ์ตกเป็นเครื่องมือ ให้แก่นักโทษทางการเมืองหรือไม่ โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับมอบหนังสือ



นายพิชิต แกนนำเครือข่าย ระบุว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณ ดูแข็งแรงมาตลอด แต่พอเข้าประเทศและถูกคุมขังไม่ทันข้ามคืน กลับถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ทำให้เกิดคำถามว่า นายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ ส่วนนักโทษคนอื่นที่ล้มป่วยได้สิทธิแบบนี้หรือไม่



ขณะที่ นายสหการณ์ ชี้แจงว่า กรณีนำนายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นอำนาจของเรือนจำตามกฎหมาย เพราะหน้าที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ คือต้องดูแลคุณภาพชีวิตนักโทษ โดยเฉพาะเรื่องเจ็บป่วย ไม่อาจละเลยได้ ส่วนการเอาแพทย์ข้างนอกมาตรวจนั้น ต้องดูว่าตามระเบียบมีอำนาจหรือไม่ แต่ยืนยันว่านาย ทักษิณอยู่ภายใต้ระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เช่นเดียวกับนักโทษคนอื่น ไม่ว่าจะเรื่อง พักโทษและออกจากเรือนจำติดกำไล EM หรือการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนายทักษิณ จะต้องได้รับโทษอย่างน้อย 1 ใน 3 ก่อนเท่านั้น ส่วนหนังสือร้องเรียนที่ให้ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ ทางกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการตรวจสอบให้



รองปลัดกระทรวงยุติธรรม บอกว่า นายทักษิณมีโรคประจำตัวร้ายแรงถึง 4 โรค แต่โรงพยาบาลตำรวจมีศักยภาพเพียงพอที่จะรักษาได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายไปรักษา ที่โรงพยาบาลเอกชน เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจการวินิจฉัยของคณะแพทย์ จะต้องส่งรายงานมายังผู้บัญชาการเรือนจำ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุด ที่จะพิจารณาว่า สมควรย้ายนายทักษิณไปรักษาโรงพยาบาลอื่นหรือไม่



ส่วนประเด็นที่มีประชาชน ต้องการให้เรือนจำและกรมราชทัณฑ์ เผยแพร่ภาพอดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นว่าอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจริง ทางรองปลัดย้ำว่า นายทักษิณเป็นนักโทษ ซึ่งมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่ไม่สมควรถูกเผยแพร่ภาพออกสู่สาธารณะ และตอนนี้ยังเป็นผู้ป่วยด้วย จึงไม่สามารถทำได้



อีกด้านหนึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งเรียกตัวเองว่า "องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน" ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายปกครอง สุวรรณดารา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวน และปฎิบัติการข่าว 3 ของ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด กรณี นายทักษิณ เดินทางกลับบ้านมารับโทษ ซึ่งนายศรีสุวรรณเห็นว่า ควรรีบส่งตัวไปที่ศาล แต่กลับมีขบวนต้อนรับที่สนามบิน มีการอนุญาตให้เข้าห้องพักรับรอง พบปะครอบครัวและมวลชน และเมื่อเข้ากักตัวในเรือนจำพิเศษไม่ถึง 10 ชั่วโมง ก็ถูกส่งตัว ออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งไม่ทราบว่าป่วยจริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ มีการโพสต์ภาพ สุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด นายศรีสุวรรณ บอกว่า ต้องมาตรวจสอบ การทำหน้าที่ของผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ / เรือนจำพิเศษกรุงเทพ / โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และด่านตรวจคนเข้าเมือง เข้าข่ายละเว้น เอื้อประโยชน์ให้กับคนบางคนหรือไม่