เหยื่อแก๊งคอลฯเปิดใจ หลังสูญเงินไปแล้ว 3 ปี สะท้อนระบบแบงก์ไทย ทำโจรได้ใจ

ผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซนเตอร์ สะท้อนปัญหาหลังจากตกเป็นเหยื่อ สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท ให้แก๊งคอลเซนเตอร์มาเป็นเวลา 3 ปี พบว่าขั้นตอนการอายัดบัญชียังเป็นไปอย่างล่าช้า ธนาคารบางแห่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อบัญชีม้า อ้างเหตุผลข้อมูลส่วนตัว ทำให้เหยื่อแต่ละคน กว่าจะได้บัญชีม้าที่โอนไปจนครบทุกแถว ใช้เวลานาน เป็นครึ่งปี และแม้จะมีโทษตาม พรก. ปราบอาชญากรรมออนไลน์ ประกาศใช้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่บัญชีม้าก็ยังเปิดได้เช่นเดิม



เมื่อยังจับตัวการใหญ่แก๊งคอลเซนเตอร์ที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ ตำรวจหลายหน่วยงานบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้เสียหายได้แค่การจับบัญชีม้าแถวแรก ที่ผู้เสียหายโอนไป เพราะหากไม่มีบัญชีม้าแก๊งคอลเซนเตอร์จะทำงานได้ยาก



การจับบัญชีม้ารายวัน จึงเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าการเปิดบัญชีม้ายังเปิดได้อยู่ แม้ จะมีโทษทั้งผู้เปิด และนายหน้าขายบัญชี แต่เหมือนไม่มีใครเกรงกลัวความผิด



จากประสบการณ์ของผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซนเตอร์ผ่านมา 3 ปี มองว่า ธนาคารเป็นจุดอ่อน ให้แก๊งคอลเซนเตอร์เลือกเหยื่อคนไทย เพราะกว่าเหยื่อจะอายัดได้ทุกธนาคาร ที่คนร้ายโอนไปใช้เวลานานเป็นครึ่งปี หรือนานกว่านั้น บางธนาคารก็บอกแค่บัญชีม้าแถวแรก



จึงเห็นว่า พรก. ที่ธนาคารให้ผู้เสียหายโทรศัพท์อายัดได้ ยังไม่ได้ผลแก๊งคอลเซนเตอร์ ใช้เวลาโอนเงินออกจากบัญชีภายในไม่กี่วินาที และออกนอกประเทศไปแล้ว หรือไปยังสกุลเงินดิจิทัล ขณะที่เหยื่อยังต้องวิ่งไปกลับระหว่างโรงพักและธนาคาร เพื่อขอเอกสาร บัญชีม้า ก็ไม่เพียงแต่มีม้าคนไทย แต่ยังมีบัญชีม้าต่างด้าว มาเปิดขายอีกด้วย



ส่วนสถิติคดีถูกหลอกทางออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค.65 - 31.ก.ค.66 แจ้งความไว้มีกว่า 3 แสนคดี อายัดบัยชีกว่า 1แสน 3หมื่น บัญชี ความเสียหายสูงกว่า 4 หมื่น 1 พันล้านบาท