เลื่อนลุกลาม! ปชป. ประชุมเลือกหัวหน้าพรรค "ล่ม" รอบ 2 ลั่น ไม่ได้ล่มโดยธรรมชาติ

การประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ ล่มอีกเป็นครั้งที่ 2 ท่ามกลางกระแสข่าวว่า สส.ส่วนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการจะเข้าร่วมรัฐบาล


บรรยากาศการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ครั้งที่สองประจำปี 2566 เป็นวาระเดิมที่ต่อเนื่องจากการประชุมครั้งที่แล้วคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งนัดหมายประชุมในเวลา 09.30 น. โดยบรรดาแกนนำคนสำคัญของพรรคก็ทยอยมาถึงตั้งแต่ก่อนเวลา ตั้งแต่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน คือ นายชวน หลีกภัย / นายบัญญัติ บรรทัดฐาน /นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ / รวมถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ /และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการ พรรค


แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงกำหนดเริ่มประชุม นาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรค ได้แจ้งว่ามีองค์ประชุมเพียง 210 คน ซึ่งถือว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะตามข้อบังคับพรรคจะต้องมีองค์ประชุม 250 คนขึ้นไป ซึ่งผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ก็ไม่มีทีท่าว่าองค์ประชุมจะครบ


นาวาตรีสุธรรม จึงต้องประกาศเลื่อนการประชุม และจะหารือกำหนดวันพิจารณาเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกครั้ง


จากนั้นสมาชิกส่วนหนึ่งได้แยกย้ายเดินทางกลับ ขณะที่บางส่วนยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประชุมล่มกันอย่างเคร่งเครียด


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยคณะสส.ของพรรค ได้ประกาศประณามกลุ่มสมาชิกพรรคบางกลุ่ม ที่ทำให้การประชุมล่มว่า เป็นพฤติการณ์ เลวทราม ไม่รักษาอุดมการณ์ของพรรค ที่ระบุว่า จะดำเนินการตามวิถีทางประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ ซึ่งการที่องค์ประชุมล่มเป็นครั้งที่ 2 ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เกิดโดย พฤติกรรมของคนบางกลุ่มในพรรค ในฐานะรักษาการ เลขาธิการพรรค ต้องขอโทษสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทั้งความพยายาม ขององค์ประชุมที่ออกจากห้อง/ ไม่ลงชื่อเข้าประชุม / และไปเที่ยวที่ประเทศลาว ซึ่งรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ


ด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกร้องให้สมาชิกพรรค คำนึงถึงพรรคให้มาก รักพรรคให้มากขึ้น เพราะการทำลายองค์ประชุม ไม่มาร่วมประชุม จนประชุมต้องล่มไป ทำให้คนภายนอกมองว่าภายในมีปัญหากัน อย่าทำให้ประชาธิปัตย์แย่ลงไปกว่านี้อีก


ส่วน นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าขั้นตอนต่อไปต้องมีการประชุมคณะกรรมการ บริหารพรรคและหารือกับเลขาธิการพรรค เพื่อกำหนดวันประชุมใหม่ และแม้จะอยู่ในช่วงรักษาการ แต่กรรมการบริหารพรรคยังมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล ในกรณีที่ต้อง ตัดสินใจในเรื่องนี้


ด้านนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นว่า แม้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมที่รักษาการจะยังทำหน้าที่ได้ แต่ก็ยังจำเป็นต้องอาศัยการพูดคุยกัน ของทุกฝ่ายภายในพรรค ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ หรือเลื่อนลอย ซึ่งจะเสียหายต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค เปิดเผยว่าการประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ในแต่ละครั้ง ใช้งบประมาณ กว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณ ที่มาจากภาษี ของประชาชน จึงได้ฝากถึงสมาชิกพรรคว่าขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้มีการนัดประชุมใหม่ ตามข้อบังคับพรรค นายเฉลิมชัย ย้ำด้วยว่ารักษาการกรรมการบริหารพรรค ยังมีอำนาจเต็มทุกประการ ตามระเบียบและข้อบังคับพรรค ให้การประชุมเกิดขึ้น เพื่อเดินหน้าต่อ