ปฏิกิริยาคนการเมือง หลัง เพื่อไทย แยกทาง ก้าวไกล

ปฏิกิริยาหลังพรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งโดยไม่มีพรรคก้าวไกล นายสมชาย แสวงการ สว.ยังไม่เชื่อใจการแถลงของพรรคเพื่อไทย ขณะที่นักวิชาการเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ส่วนเลขาธิการคณะก้าวหน้าระบุ การเมืองไทยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา



นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กให้กำลังใจแกนนำพรรคก้าวไกล ภายหลังมีการสลาย MOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เนื้อหาโดยรวมให้กำลังใจ นายพิธา นายชัยธวัช และพรรคก้าวไกล ว่าไม่มีอะไรต้องเสียใจ เสียหน้า พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียใจที่มองสถานการณ์ระยะสั้น พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียหน้า ตอบใครไม่ได้แม้กระทั่งตอบใจตนเอง ต้องแก้ปัญหาในสิ่งที่พูดไปแบบ "วัวพันหลัก"



ช่วงท้ายนายปิยะบุตรระบุว่า นับแต่ 14 พฤษภาคมจนถึงวันนี้ การเมืองไทยได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สู้ จนกว่า อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน



รองศาสตราจารย์สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์และหัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับ 5 ข้อเสนอถึงพรรคก้าวไกล มีสิทธิชอบธรรมที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของตนอีกครั้ง เพราะเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง โดย สส. พรรคก้าวไกล ต้องลุกขึ้นประท้วงมติรัฐสภาที่ห้ามไม่ให้เสนอชื่อซ้ำ หากประธานดื้อดึงจะเป็นหลักฐานในการกระทำผิด หากเสนอชื่อ พิธา ได้อีก จะชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย หากเสนอชื่อ พิธา ไม่ได้ พรรคก้าวไกลมีความชอบธรรมในการโหวต ไม่เห็นชอบ เพราะไม่เป็นไปตาม MOU และยังย้ำให้พรรคการเมืองที่ตระบัดสัตย์มีต้นทุนที่แพงที่สุดทั้งในวันนี้ และในอนาคต



เดอะอีสาน เรคคอร์ด เผยแพร่ 600 ชื่อร่วมแถลงการณ์ถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และมือที่มองไม่เห็น "อย่าให้ดีลใดๆ ยิ่งใหญ่กว่าดีลกับประชาชน" เรียกร้อง 3 ข้อ ขอให้เคารพฉันทามติของประชาชน สนับสนุนพรรคการเมืองเสียงข้างมาก สมาชิกวุฒิสภาต้องรับฟัง สนับสนุน และทำหน้าที่สะท้อนเสียงของประชาชน และสาม บุคคลที่ไม่เกี่ยวและไม่ยึดโยงกับเสียงแห่งประชาชน โปรดออกจากขบวนการขัดขวางครรลองของประชาธิปไตย



ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ 2สิงหาวันเข้าพรรษา ดูละครโกหกการเมือง ฉีก MOU อ้างสปิริต ปิดสวิต สว.ตบตาเป็นฝ่ายค้านเทียม ถอยรอปรับจังหวะ ปรับ ครม.แก้ 112 ล้มรัฐธรรมนูญ ล้มคดี พร้อมติดแฮชแท็ก ดีลลับฮ่องกง



ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภากล่าวถึงการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรคก้าวไกลว่า เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกว่าดีขึ้น ชัดเจนขึ้น แต่ยังขอความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทยอีกส่วนหนึ่งคือ การที่แถลงว่าไม่แก้มาตรา 112 ไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่ต้องการให้ สว.ลงคะแนนให้ แต่ควรเป็นเหตุผลสำคัญที่จะไม่แก้มาตรา 112 คือปกป้องคุ้มครองสถาบันฯไม่ให้ผู้ใด ละเมิดจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบัน ส่วนที่มีการแถลงว่าจะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็อยากให้มีความชัดเจน ว่าจะต้องไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ในส่วนของสถาบันฯ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่หนักกว่าการแก้ไขมาตรา 112 และ อยากให้นายเศรษฐาเข้ามาอยู่ในห้องประชุมรัฐสภาเพื่อแสดงวิสัยทัศน์หรือแถลงนโยบายที่จะไปทำหน้าที่ต่อในฐานะนายกรัฐมนตรี