ก้าวไกล-เพื่อไทย หารือจัดตั้งรบ. คาดเคาะแคนดิเดตนายกฯได้หลัง 25 ก.ค.

หลังจากเมื่อวานนี้ รัฐสภามีมติเสียงข้างมาก 395 ต่อ 317เสียง ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคก้าวไกล ขึ้นมาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยเห็นว่าผิดข้อบังคับที่ 41 ทำให้วันนี้ทางพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ได้หารือร่วมกันถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล และการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในวันที่ 27 กรกฎาคม นี้ด้วย ซึ่งมีความชัดเจนระดับหนึ่ง ว่า ทางพรรคก้าวไกล พร้อมสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล



นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ หลังหารือกับแกนนำพรรคก้าวไกลและแกนนำพรรคเพื่อไทยว่า มติผู้บริหารพรรคมอบหมายให้พิจารณาว่าเมื่อถึงเวลาการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะทำอย่างไร



ส่วนแนวโน้มชื่อของ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่ภาคธุรกิจเห็นด้วยหากจะเสนอให้โหวตครั้งที่ 3 อาจจะทำให้ภาคเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า นำทุกอย่างมาประกอบกัน แต่การประกาศต้องรอเวลาที่เหมาะสม และพรรคก้าวไกลยังไม่ได้ติดใจอะไร ขอไปดำเนินการภายในพรรคก่อน เพราะจะต้องคุยกันว่า จะส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเมื่อไหร่ นายแพทย์ชลน่าน บอกว่า น่าจะมีความชัดเจน เรื่องชื่อแคนดิเดตนายกฯหลังวันที่ 25 กรกฎาคมนี้



ส่วนประเด็นเรื่อง มาตรา 112 จะเป็นอุปสรรคในการโหวตหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ต้องทำให้มีความชัดเจนมากที่สุด อะไรที่เป็นปัญหาทำให้ไม่ได้เสียงต้องเร่งดำเนินการก่อนที่จะโหวต พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกี่ยวข้องมาตรา 112



ขณะที่พรรคก้าวไกล ในวงประชุม สส.และกรรมการบริหารพรรค นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เพื่อลงมติในหลายประเด็น โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 18.45 น. ที่ผ่านมา สส. ของพรรคได้ทยอยเดินทางกลับ โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ขอให้รอความชัดเจนจาก นายชัยธวัช และยอมรับว่าในที่ประชุมมีการโหวตในหลายประเด็น รวมถึงให้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องของการจะให้พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ รวมไปถึงจะยอมลดเพดาน การแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่



ทั้งนี้ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี โดยที่ประชุมได้เปิดให้สส.แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย รวมถึงยังได้มีการพูดคุยถึงทิศทางหลังจากนี้ ซึ่งยืนยันว่า พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าสู้ต่อ ส่วนผลการประชุม และบทบาทหลังจากนี้จะให้แกนนำพรรคเป็นผู้ชี้แจงอีกครั้ง



อะไรก็ตามหลังประชุม สส.เสร็จได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคต่อทันที เพื่อกำหนดท่าทีก่อนที่จะนำมติ ที่ประชุมไปหารือกับพรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยความคืบหน้าออกมา



ทางด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. พรรคก้าวไกล ก็บอกว่า สำหรับการประชุมในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้จะต้องมีการหารือกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งต้องเป็นไปตามมติ ด้วยการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นมติของ 8 พรรค ไม่ใช่ของพรรคก้าวไกลพรรคเดียว เบื้องต้นยืนยันว่าจะประคองความกลมเกลียว และความแน่นแฟ้นของ8 พรรคร่วมให้แน่นแฟ้นที่สุด