'เศรษฐา' พร้อมชิงนายกฯ ต่อจาก 'พิธา' ลั่นถ้าไม่พร้อมคงไม่มีรายชื่อเป็นแคนดิเดต

นอกจากท่าทีของพรรคเพื่อไทย ผ่านคำให้สัมภาษณ์ของนายภูมิธรรมแล้ว วันนี้ ก็มีท่าทีจากนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศพร้อมลงชิงนายกรัฐมนตรีต่อจากนายพิธา หากพรรคมีมติเสนอชื่อ



นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพูดคุยระหว่างพรร​คเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลในการโหวตนายกฯรอบ 2 ว่า ต้องรอการพูดคุยระหว่าง 2 พรรค แต่ส่วนตัวมองว่าปัญหาปากท้องและปัญหาเศรษฐกิจประชาชนเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าไม่รีบเจรจาและจัดตั้งเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาก็จะเป็นเรื่องใหญ่ และสถานการณ์ก็บีบบังคับให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด



เมื่อถามว่า พร้อมหรือไม่ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ หากนายพิธา ไม่ผ่านการโหวตรอบ 2 นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าไม่พร้อมก็คงไม่มีรายชื่อเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย



เมื่อถามว่า หากสมการตั้งรัฐบาลมีพรรคอื่นเข้ามานอกเหนือจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคพลังประชารัฐ ยังพร้อมจะรับตำแหน่งนายกฯหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเร็วเกินไป วันนี้เป็นเรื่องของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลก่อน



นอกจากความเคลื่อนไหวมาจากฝั่งพรรคเพื่อไทยแล้ว วันนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวมาจาก 1 ใน 8 พรรคร่วม พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยอมรับว่า ได้ติดต่อพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่าพยายามช่วย ให้มีเสียงสนับสนุนมากขึ้นและเพียงพอ โดยการดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่มติของ 8 พรรคร่วม แต่ถือเป็นหน้าที่ในฐานะ 8 พรรคร่วม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ขอนำข้อเสนอเข้าไปหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคคาดว่า น่าจะได้คำตอบภายในเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่ากลุ่มที่ตนเองได้ประสานเป็นกลุ่มเดียวกับที่นายพิธาระบุว่าได้มา 10% ถึง 30% หรือไม่ แต่เท่าที่คุยทั้งสองพรรคอยู่ระหว่างตัดสินใจหากจะมาก็คาดว่าจะมาทั้งหมด



ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมรับว่า พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ได้มาทาบทามขอเสียงให้โหวตให้นายพิธา จริง แต่นาทีนี้ต้องหารือกันภายในพรรค กับผู้ใหญ่ของพรรคด้วย ถึงจุดยืนและแนวทาง คงไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวคนเดียวได้



นายวราวุธ ย้ำจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลง กับแนวทางเรื่องมาตรา 112 การเทิดทูนสถาบัน สิ่งนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ ควบคู่กันไปกับการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และปัญหาของประเทศ



ขณะที่ 8 พรรคร่วม และพรรคที่ถูกทาบทามมองไปที่ วันโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ปรากฏว่า ในวันที่ 19 กรกฎาคม เช่นเดียวกัน คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็ได้กำหนดประชุม โดยมีวาระสำคัญ คือ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา คำร้องที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในกระบวนการพิจารณาคุณสมบัติ ส.ส. ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลฯ มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว ก็จะพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริงตามคำร้อง และหากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้องจริง ก็จะมีคำสั่งให้ผู้ถูกถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน