เลือกตั้งและการเมือง

เปิดใจ 'นิกม์ แสงศิรินาวิน' ผู้โพสต์เปิดปมหุ้นไอทีวี ก่อน 'พิธา' ถูกยื่นสอบ

โดย panwilai_c

10 มิ.ย. 2566

10.5K views

เรื่องราวเบื้องหลังประเด็นหุ้นไอทีวี วันนี้ เป็นการเปิดข้อมูลจากฝั่ง นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้โพสต์ข้อความการถือหุ้นไอทีวีของหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งต่อมามีการยื่นร้องให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วันนี้เป็นการเปิดใจครั้งแรกกับข่าว 3 มิติ ยืนยันว่า ทำหน้าที่แทนประชาชนและผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่มีความหวังจะได้กลับมาทำธุรกิจอีกครั้งหากชนะคดีกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หลังรอคอยมากว่า 16 ปี ไม่ได้หวังผลทางการเมือง



โพสต์ของนายนิกม์ แสงศิรินาวิน เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 ที่ระบุถึงนักการเมืองที่กำลังถือหุ้น itv เตรียมตัวประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำตัว และมอบตัว กกต. พร้อมระบุว่าหัวหน้าพรรคหนึ่งถือ 42,000 หุ้น เป็นข้อมูลแรกที่มีการตรวจค้นพบ หลังนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่นร้องต่อกกต.ให้ตรวจสอบการถือหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในวันที่ 10 พฤษภาคม และมีการเชื่อมโยงทางการเมือง เนื่องจากนายนิกม์ เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2562 และในปี 2566 เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย



นายนิกม์ แสงศิรินาวิน เปิดใจครั้งแรกกับข่าว 3 มิติ เพื่อชี้แจงว่า เหตุที่เขาโพสต์ข้อความแรก เมื่อวันที่ 24 เมษายน สองวันก่อนมีการประชมผู้ถือหุ้นไอทีวีในวันที่ 26 เมษายน เพราะมาทราบข้อมูลหลังได้รับหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นในต้นเดือนเมษายน จึงไปอัพเดทข้อมูลล่าสุดของผู้ถือหุ้นไอทีวี ก็พบชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นอยู่ด้วย จึงเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบกับไอทีวี เพราะเขาเป็นหนึ่งในอดีตผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่ได้รับโอนหุ้นเป็นผู้จัดการมรดกจากแม่ในปี 2549 และในปี 2562 ที่เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ก็ไม่ได้โอนหุ้น จึงรู้ดีว่าอาจจะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังจากนั้นก่อนลงสมัคร ส.ก.และลงสมัคร ส.ส.ในปี 2566 ก็ได้โอนหุ้นไอทีวี ไปแล้ว



นายนิกม์ ชี้แจงว่า หลังเขาโอนหุ้นให้นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่ทำงานด้วยกัน ก็ต้องให้คำแนะนำในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นการประชุมทางอิเล็คทรอนิคส์ และนายภาณุวัฒน์ ก็เป็นผู้ตั้งคำถามว่า ไอทีวียังดำเนินกิจการสื่อหรือไม่ ซึ่งผู้บริหารไอทีวี ตอบว่ายังดำเนินการอยู่ตามวัตถุประสงค์ ตามที่อยู่ในบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน และมีการสอบถามไปด้วยว่า นายพิธา มีหุ้นในไอทีวี หรือไม่ แต่ไม่มีการตอบในที่ประชุม



นายนิกม์ ยืนยันว่า เหตุผลที่ต้องสอบถามว่าไอทีวีจะกลับมาดำเนินกิจการหรือไม่ หลังสิ้นสุดคดีกับ สปน. ก็เพราะผู้ถือหุ้นไอทีวีมีความหวังว่าจะได้รับการเยียวยา หลังถูกยกเลิกสัปทานมากว่า 16 ปี และหวังว่าไอทีวีจะกลับมาเป็นสื่อที่เป็นความหวังของประชาชน และการต่อสู้เพื่อไอทีวีก็เป็นประเด็นหนึ่งที่นายนิกม์ระบุว่า ได้ออกเรียกร้องในช่วงที่อยู่ในอดีตพรรคอนาคตใหม่แล้ว



ส่วนที่มีการตรวจสอบหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย และตามพยานหลักฐานที่มีการตรวจสอบได้ นายนิกม์ จึงขอความเป็นธรรมให้กับผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่ไม่อยากให้ไอทีวีต้องตกเป็นจำเลยทางการเมืองอีกครั้ง



ข้อเท็จจริงในการถือหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และเข้าข่ายขาดคุณสมบัติเพราะเป็นกิจการสื่อหรือไม่ หรือจะรู้อยู่แล้วยังลงสมัคร ที่จะเป็นความผิดตามที่ กกต.จะตรวจสอบ จึงยังเป็นประเด็นที่ต้องพิสูจน์ทางกฏหมาย ท่ามกลางการจับตาของประชาชน เพราะเป็นคดีที่จะมีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาล หลังการชนะการเลือกตั้งมาจากประชาชน

คุณอาจสนใจ

Related News