เลือกตั้งและการเมือง

'วิษณุ' เผย 8 พรรคร่วม คุยข้าราชการได้ แนะให้ทำเงียบๆ อย่าเพิ่งแสดงตัวเป็น รบ. หวั่น ขรก.ลำบากใจ

โดย panisa_p

31 พ.ค. 2566

41 views

ประเด็นทางการเมืองที่ถูกจับตามากที่สุดวันนี้ คือ ความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยวันนี้ว่า พรรคยังไม่สรุปชื่อใคร หลังจากพบว่ามีชื่อ นายแพทย์ชลน่าน นายจาตุรนต์ และนายสุชาติ เป็นตัวเต็งนั่งประธานสภาฯ ขณะที่อีกประเด็นที่สังคมเฝ้าติดตามคือกรณที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ ส.ส. และหากถูกเรื่องการลงชื่อรับรองผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ก็อาจต้องเลือกตั้งซ่อมทั้งประเทศ



นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถูกสื่อมวลชนถามว่า หากว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกศาลวินิจฉัย ขาดคุณสมบัติเพราะถือ หุ้นไอทีวี จะขัดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. จะกระทบการเป็นนายกรัฐมนตรี และจะกระทบการรับรองผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาหรือไม่ โดยนายวิษณุ ระบุว่าขึ้นอยู่ กับว่าผู้ร้องได้ร้องในประเด็นใดบ้าง ถ้าร้องในประเด็นว่าขาดจากการเป็น ส.ส. นายพิธา ก็ยังเป็นนายกฯได้ หรือถ้าร้องว่าขาดจากความเป็นนายกฯ ก็สามารถเป็น ส.ส.ได้



แต่ถ้าผู้ร้อง ร้องทั้ง 2 เรื่อง ศาลก็จะวินิจฉัยทั้ง 2 เรื่อง หรืออาจจะกระทบไปอีกประเด็นคือการรับรองสมาชิกพรรค ดังนั้นจึงอยู่ที่คำร้องว่าจะร้องอย่างไร และระบุว่าสังคมไม่ควร คิดไปไกล เพราะกกต.ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร จึงไม่อยากให้คิดในแง่ร้าย



นายวิษณุยังระบุว่าการที่พูดเช่นนี้ ไม่ใช่แนะนำผู้ร้องว่าต้องร้องอย่างไร เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้ร้อง และศาลก็วินิจฉัยตามคำร้องเท่านั้น และเมื่อถูกถามว่า หากมีการร้องเรื่องสมาชิก พรรคก้าวไกล จะมีผลให้เลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่าหากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องเลือกตั้งซ่อมทั้งประเทศ



นายวิษณุ ยังแสดงความเห็นกรณีว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค จัดตั้งทีมเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ว่า ถือเป็นการเตรียมตัวที่ดี แต่การจะขอข้อมูลหรือความร่วมมือจากข้าราชการประจำ ต้องทำด้วยสันธวไมตรีที่ดี และต้องไม่ทำให้ข้าราชการประจำลำบากใจ เนื่องจากยังมีนายกคนปัจจุบันอยู่ และยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นรัฐบาล โดยเทียบเคียงกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่มีเสียงกว่า 300 เสียง ก็เคยตั้งทีมเปลี่ยนผ่านมาแล้ว และแนวโน้มเป็นรัฐบาลไม่มีเปลี่ยนผัน เพราะไม่มี สว.มาร่วมโหวดด้วย แต่กรณีปัจจุบันมีความแตกต่าง นายวิษณุ ใช้คำว่ารัฐบาลก้าวไกลขอความร่วมมือได้ แต่ต้องเนียนๆ หน่อย



ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่ายังไม่ได้ดูรายละเอียดในตรรกะหรือหลักการที่นายวิษณุกล่าวถึง กรณีที่ต้องเลือกตั้งซ่อมทั่วประเทศ แต่ยืนยันว่า พรรคก้าวไกล เตรียมการรองรับสถานการณ์ไว้ทุกรูปแบบ และพร้อมจะชี้แจงในทุกรูปแบบที่จะออกมา และไม่ต้องการให้ตื่นตระหนกเกินไป



ขณะเดียวกัน ก็ยืนยันว่าการตั้งคณะเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องทำในทุกรัฐบาลประชาธิปไตย อีกทั้งระบุว่าการตั้งคณะทำงาน ยึดตามประเด็นใน MOU ที่จะแก้ปัญหาเป็นที่ตั้ง ไม่ได้ยึดตามความเป็นกระทรวงฯ



ขณะที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ระบุว่าทีมเปลี่ยนผ่าน ไม่ก้าวล่วงการทำงานของรัฐบาลรักษาการปัจจุบัน แต่ทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในรัฐบาล แต่การหาข้อมูลและแสดงความเห็นเป็นไปในกรอบวิถีทางการเมือง นายแพทย์ชลน่าน ยังระบุว่าขณะนี้เพื่อไทย และก้าวไกล ยังมีเวลาพูดคุย เรื่องตำแหน่งประธานสภา โดยไม่มองว่าเป็นโควต้าของพรรคใดพรรคหนึ่ง และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้สรุปชื่อใคร หลังจากก่อนหน้านี้มีชื่อ ทั้งนายแพทย์ชลน่าน นายจาตุรนต์ และนายสุชาติ เป็นแคนดิเดทนั่งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร



ขณะที่อีกความเคลื่อนไหว คือกรณีที่ก่อนหน้านี้นายสนธิญา สวัสดี ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อ 9 เมษายน 2564 กล่าวหาพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง สส. ทำให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ ฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาท ใส่ความด้วยข้อความเป็นเท็จ ซึ่งศาลอาญา พิพากษาเมื่อ 7พฤศจิกายนปีที่แล้ว ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่น โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี



วันนี้นายสนธิญา ส่งหนังสือถึงพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ ใจความส่วนหนึ่งระบุว่ากราบขอประทานโทษ และขออภัยในเหตุการณ์ที่ผ่านมาในทางการเมืองตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2565 ที่เป็นคดีความอยู่ในขณะนี้และถอนเรื่อง ร้องเรียนทั้งหมดที่มีต่อท่านในทุกหน่วยงาน และจะไม่ล่วงเกินท่านต่อไปตลอดชีวิต และยินดีรับใช้ต่อท่านในสิ่งที่เป็น ประโยชน์ ต่อประเทศชาติและประชาชน

คุณอาจสนใจ

Related News