เลือกตั้งและการเมือง

ประธานสภาผู้แทนราษฎร 'ก้าวไกล' กับ 'เพื่อไทย' ยังตกลงกันไม่ได้!

โดย parichat_p

24 พ.ค. 2566

65 views

การจัดตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกล เริ่มส่อเค้าเกิดปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เห็นไม่ตรงกันระหว่างพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย รวมถึงความไม่ไว้ใจพรรคเพื่อไทยในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะการตั้งคำถามจากนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย จนทำให้นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาตอบโต้ ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีการประชุม ส.ส. ยืนยันสนับสนุนพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน สองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่งสัญญานการทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยต่อไป แม้จะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยนางสาวแพทองธาร มาพร้อมบุตรสาว


ขณะที่นายเศรษฐา มาพร้อมกระเป๋าทำงานใบแรกในชีวิต และนามบัตรพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันว่ายังทำงานการเมืองต่อไป และยืนยันว่าสนับสนุนพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ โดยไม่คิดเรื่องตำแหน่งใดๆในรัฐบาล


สำหรับการสัมมนาว่าที่ ส.ส.และ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อให้กำลังใจในการเดินหน้าต่อเพื่อประชาชน และเดินหน้าเป็นรัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 คือพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยระมัดระวังอย่างมากที่ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกัน ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็ต้องถอดบทเรียนผลการเลือกตั้งครั้งนี้ และวางยุทธศาสตร์ในการรีแบรนด์พรรคใหม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังคงเป็นพรรคเพื่อประชาธิปไตย


ส่วนประเด็นร้อนระหว่าง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ที่ไม่พอใจการสวมบทนักข่าวถามถึงจุดยืนพรรคเพื่อไทยกลางวงแถลง MOU พรรคร่วมรัฐบาลของนาวาอากาศตรีศิธา ซึ่งนายแพทย์ชลน่าน ยินดีรับคำขอโทษ แม้จะโกรธถึงขั้นจะชกกันได้และต้องขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณา ระหว่าง 6 เสียงของพรรคไทยสร้างไทย กับ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย เพราะไม่อยากให้กระทบการจัดตั้งรัฐบาล


ขณะที่ น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ยืนยันว่า พรรคไทยสร้างไทย พูดชัดเจนมาโดยตลอด ว่าเรายินดียกมือสนับสนุน ให้พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ได้จับมือกันตั้งรัฐบาล ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล หากต้องการเสียงของไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ติดขัดที่ตนเอง ก็พร้อมลาออกจากพรรคให้ทันที


ส่วนอีกปัญหาที่ส่อเค้าเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล กรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาให้ความเห็นว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล ต้องเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ถูกตอบโต้จากนายอดิศร เพียงเกษ ว่าตามมารยาท เมื่อพรรคก้าวไกล ได้เสียงอันดับ 1 เป็นบริหาร ก็ควรให้พรรคเพื่อไทย ที่ได้อันดับ 2 ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ พรรคก้าวไกลจะกินรวบไม่ได้ ต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ถึงจะไปด้วยกันได้ในทางการเมือง


ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่พรรคก้าวไกล อยากรักษาประเพณีที่พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย เพื่อผลักดันกฎหมายต่างๆ แต่ยังไม่ได้หาข้อสรุปว่าจะเป็นใคร


พรรคก้าวไกล มีแถลงการณ์ยืนยัน 3 วาระที่พรรคก้าวไกลต้องการผลักดันในฐานะ "ประธานสภาผู้แทนราษฎร" ไม่ใช่เพื่อตำแหน่งหรืออำนาจ แต่เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ผลักดันกฎหมายที่กว่า 400 ฉบับที่ถูกตีตกในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและ มีกฎหมายอย่างน้อย 45 ฉบับของพรรคก้าวไกลที่ต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร วาระที่สองเพื่อผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเดินหน้าอย่างราบรื่น และวาระที่สาม พรรคก้าวไกลจะผลักดันหลักการ "รัฐสภาโปร่งใส" และ "ประชาชนมีส่วนร่วม" ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย

คุณอาจสนใจ

Related News