3 วันก่อนเลือกตั้ง แต่ละพรรคหาเสียงเข้ม ชูนโยบายแก้จน-ลดคอร์รัปชัน

บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้ง วันนี้ บรรดาพรรคการเมืองใหญ่ ลงไปหาเสียงในพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค พร้อมย้ำนโยบายจะแก้ปัญหาความยากจน ลดปัญหาคอร์รัปชั่น หากได้เป็นรัฐบาล



พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงที่โรงเรียนวัดพิศาลนฤมิต อ.ร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยพลเอกประยุทธ์ กับประชาชนที่มาฟังปราศรัย ว่า พยายามแก้ปัญหาสินค้าเกษตร ปรับสมดุล ความต้องการตลาด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ ยืนยันจะต้องหาเงินเข้าประเทศให้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง บทบาทและความสำคัญของทหาร ทั้งด้านความมั่นคงและการช่วยเหลือประเทศยามเกิดภัยพิบัติ



จากนั้น ก็เดินทางไปหาเสียงต่อที่ว่าการอำเภอทุ่งสง ก่อนที่จะปิดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายภาคใต้ ที่สนามหน้าเมือง จ. นครศรีธรรมราช



ทางด้านพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หาเสียงที่เชียงใหม่ กล่าวว่า มั่นใจว่าชาวเชียงใหม่จะเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา อธิบายถึงเหตุผลที่ พรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ว่าเป็นกลยุทธ์ของพรรค ที่ต้องมีความระมัดระวังในการเดินไปข้างหน้า ส่วนการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย 12 พฤษภาคม นายเศรษฐา บอกทิ้งท้ายว่า ขอให้รอดู



ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหาร และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่วัดวชิรธรรมสาธิต ซอยสุขุมวิท 101/1 และตลาดอุดมสุข กรุงเทพฯช่วยผู้สมัครของพรรค กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการเดิมพันอนาคตของประเทศ อยากให้ทุกคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราอยากเห็นประเทศเดินไปแบบไหน อยากให้ประเทศเดินหน้า ค่าครองชีพลดลง การทุจริตคอร์รัปชั่นลดลง ก็เลือกพรรคพลังประชารัฐ หรืออยากให้ประเทศถอยหลัง มีการเดินขบวน เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างคน 2 รุ่นเพราะถูกปลุกระดมยุยงปลุกปั่น

​

ส่วนนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 เบอร์ 6 ขึ้นขบวนรถแห่หาเสียงเริ่มตั้งหน้าวัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา ไปตามทางหลวงหมายเลข 226 ถ.เพชรมาตุคลา จนไปถึง ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา



นายสุวัจน์ กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือก พรรคชาติพัฒนากล้าเร่งเดินหน้าพบประชาชน เพื่อเสนอนโยบายเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเป็นหลัก ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ภายใต้สโลแกน ’คนโคราช รักจริงไม่ทิ้งกัน’ และจะปักหลักอยู่กับคนโคราชจนถึงวันเลือกตั้ง