ก้าวไกล จี้ กกต.รับผิดชอบ หลังเลือกตั้งล่วงหน้าวุ่น ซัดจงใจหรือไม่

ท่ามกลางบรรยากาศเลือกตั้งล่วงหน้า ในช่วงเวลาที่เหลือการหาเสียงอีกไม่ถึง 7 วัน วันนี้แต่ละพรรคการเมือง ต่างก็ยังเดินหน้าหาเสียงโค้งสุดท้ายเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงในวันเลือกตั้งใหญ่ 14 พฤษภาคม โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดปราศรัยย่อย ไปหาเสียงที่กระบี่และภูเก็ต



ขณะที่พรรคเพื่อไทย เดินสายหาคะแนนที่ตลาด อตก.ในกรุงเทพฯ ส่วนพรรคก้าวไกล นอกจากกระจายกำลัง ไปหาเสียงที่ระยอง ขอนแก่น และหาดใหญ่แล้ว เลขาธิการพรรค ก็ยังเปิดเผยล่าสุด เรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบปัญหาที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้ และขอให้มีคำตอบว่าจะแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่ถามกลับประชาชนว่า ผิดไปแล้วจะให้กกต.แก้ไขอย่างไร



นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่าความผิดปกติในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ประชาชนร้องเรียน ทั้งการเขียนเขตเลือกตั้งหน้าซองผิด หรือไม่เขียนรหัสที่หน้า ซองบัตร ถือเป็นความผิดพลาดที่ผิดปกติ โดยเฉพาะกกต.ที่มีงบประมาณจัดเลือกตั้งเกือบ 6 พันล้านบาท ที่เป็นเงินภาษีประชาชน แต่ปล่อยให้ผิดพลาดแบบง่ายและสงสัยว่า จงใจกลั่นแกล้งหรือไม่ เช่นการไม่ติดประกาศใบแนะนำตัวผู้สมัครหน้าหน่วยเลือกตั้งให้ครบทุกพรรค โดยเฉพาะผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลที่หายไป



ซึ่งนายชัยธวัช ระบุว่า กกต.ต้องตอบให้ได้ว่า จะรับผิดชอบบัตรลงคะแนนที่อาจเป็นบัตรเสีย ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของกกต.อย่างไร ไม่ใช่ถามกลับประชาชนว่า ผิดไปแล้ว จะให้แก้ไขอย่างไร และย้ำว่้าพรรคก้าวไกลจะดำเนินการทางกฎหมายแน่หาก การเลือกตั้งใหญ่แล้วเกิดความผิดพลาดอีก และวันพรุ่งนี้พรรคก้าวไกล จะแถลงข่าวถึงความผิด ปกติในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ได้รับร้องเรียนมาจากประชาชนทั่วประเทศ



ส่วนการหาเสียงนอกจากค่ำนี้จะเปิดเวที ที่ขอนแก่น และหาดใหญ่แล้ว บ่ายวันนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ไปรณรงค์หาเสียงที่ตลาดสด อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี จากนั้นไปร่วมคาราวานก้าวไกลสายตะวันออกบูรพาไม่แพ้ พร้อมขอให้ชาวระยอง เลือกพรรคก้าวไกล ที่อยู่ร่วมแก้ปัญหากับคนในท้องถิ่น



โดยเฉพาะเรื่อง สิ่งแวดล้อม เช่นกรณีน้ำมันรั่วในทะเล พร้อมกับยกประเด็นการเสนอกฎหมายปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ ที่กำหนด ให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่ง ต้องเปิดเผยข้อมูลการปล่อยสารมลพิษและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้



ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายสุรชาติ เทียนทองผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงที่ตลาดนัดจตุจักร โดยมีนางสาวพิน ทองทา ชินวัตร พร้อมครอบครัวทั้ง สามี และ ลูกสาวฝาแฝดร่วมลงพื้นที่หาเสียงด้วย ขณะที่ผู้ค้าขายในตลาด อ.ต.ก.ส่งเสียงเชียร์ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ป้ญหา เศรษฐกิจ นายเศรษฐา ระบุว่าหมัดเด็ดหรือยุทธศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้ ช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อชนะเลือกตั้ง คือการนำเสนอนโยบายต่อเนื่อง ที่ประเทศชาติบอบช้ำมา 8 ปีแล้ว ซึ่งพรรคได้พิสูจน์มาตลอดตั้งแต่ไทยรักไทย และพลังประชาชน ที่มีนโยบายดีและทำได้มาตลอดโดย



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ และผู้สมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดกระบี่ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยย่อย ขอให้ชาวกระบี่ เลือกผู้สมัครของพรรค และเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ



ก่อนที่จะเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เปิดเวทีปราศรัยที่ลานเวทีกลางสะพานหิน ท่ามกลาง ผู้มารับฟังนับหมื่นคน โดยระบุช่วงหนึ่่งว่า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดภูเก็ตเงียบเหงา แต่ตนได้ตัดสินใจเปิดภูเก็ตเป็นที่แรก เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว และฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ หลังจากนั้นก็่จัดการเอ็กโปร์ จึงขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติมาทำงานต่อ พร้อมกับระบุว่า อย่าให้ใครบอกว่าข้าราชการคือช้างป่วย ถ้าทหาร และข้าราชการเป็นช้างป่วย ประเทศจะมั่นคงอย่างนี้หรือไม่ จึงควรยุติเรื่องความแตกแยกภายในประเทศ



ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค วันนี้เปิดเวทีปราศรัย ที่ท่าเรือปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีเขตเลือกตั้งหมด 3 เขต โดยรองหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งว่าพัทลุงเสียโอกาส 2 ปี ที่ ส.ส.ของพรรคการเมืองไม่ทำหน้าที่ แต่มีการเสียบบัตรแทนกัน จนถูกชี้มูลความผิดจนยุติการเป็น ส.ส. เหลือเพียงนายนริศ ขำนุรักษ์ คนเดียวที่ทำหน้าที่ ส.ส.พัทลุง จากทั้งหมด 3 เขต จึงถึงเวลาที่ชาวพัทลุงต้องเปลี่ยน