กกต.ขีดเส้นตาย 7 วัน พท.แจงที่มา-วงเงิน 62 นโยบายหาเสียง

ความเคลื่อนไหวหลังพรรคเพื่อไทยเสนอนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 1 หมื่นบาท ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดให้พรรคการเมือง ส่งรายละเอียดที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในนโยบายหาเสียงภายในวันที่ 18 เมษายน ส่วนยอดผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั่วโลกมีผู้ลงทะเบียนกว่า 1 แสนคน



นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์พิเศษรายการเปิดอก คุยกับสรยุทธ สุทัศนะจินดา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยืนยันว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปคนละ 1 หมื่นบาท เป็นเหมือนการใส่เงินเข้าไปในมือถือ แล้วกำหนดเงื่อนไขในการใช้ ไม่สามารถนำไปใช้หนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ในหรือนอกระบบ ไม่สามารถนำไปซื้อของออนไลน์ เหล้า บุหรี่ หรือสิ่งอบายมุขอื่นๆ



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย โดยนายกฯได้กล่าวว่า วันนี้หน่วยงาน ด้านเศรษฐกิจก็ได้มาชี้แจงในคณะรัฐมนตรีเรื่องวินัยการเงินการคลังของประเทศ และขอให้ระมัดระวังเรื่องสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ แต่ขณะนี้ถือว่าหลายอย่างดีขึ้นบริหารจัดการได้ดี



ทั้งนี้ นายกฯ ไม่ได้วิจารณ์ถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยโดยตรง แต่บอกว่า การจะทำอะไรใหม่ ต้องคำนึงถึงทรัพยากรที่มีอยู่ เพราะถ้าทำมากเกินไป สิ่งที่ทำอยู่เดิมก็จะสูญเสียไป อะไรที่เคยได้ ก็จะไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนต้องการอะไรที่หวือหวาก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ก็ย้ำให้ระวังความเสียหายขนาดใหญ่ที่จะตามมา



ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ระบุว่าได้มีหนังสือแจ้งไปยังพรรคเพื่อไทย ว่านโยบายหาเสียงที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินที่พรรคได้มีการแจ้งมานั้น ยังมีรายการที่ดำเนินการไม่ครบถ้วนตามมาตรา 57 วรรคหนึ่ง คือ ขาดที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ และวงเงินที่ต้องใช้ในการดำเนินการ รวมทั้งสิ้น 62 นโยบาย โดยให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการแก้ไข รายการดังกล่าวให้ครบถ้วนถูกต้อง และแจ้งกลับมายังสำนักงาน กกต.ภายใน 7 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ



นอกจากนี้ เลขา กกต.ยังได้มีหนังสือแจ้งถึงหัวหน้าทุกพรรคการเมือง เรื่องการกำหนดนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง เน้นย้ำให้พรรคการเมืองต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยกรณีการกำหนดนโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงิน ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรา 57 โดยต้องมีรายการอย่างน้อย

1.วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ดำเนินการ

2.ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย

3.ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย



โดยพรรคการเมืองต้องระบุรายละเอียดดังกล่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ และแจ้งต่อ กกต.จึงให้พรรคการเมืองแจ้งรายละเอียดดังกล่าวต่อสำนักงาน กกต.ภายในวันที่ 18 เมษายนนี้



ส่วนยอดลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่และสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ทั้ง 94 แห่งทั่วโลก สรุปยอดผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั้งสิ้น 115,139 ราย