เลือกตั้งและการเมือง
ไทยประชุมประเทศเพื่อนบ้าน ถกแก้ฝุ่น PM2.5 'สุดารัตน์' บินลาว เสนอตั้งคณะทำงานร่วม
โดย panwilai_c
7 เม.ย. 2566
110 views
ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 กำลังเป็นปัญหาข้ามพรมแดน โดยเฉพาะไทย ลาว และเมียนมา ส่งผลให้วันนี้ นายกรัฐมนตรี นัดประชุมด่วนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับนายกรัฐมนตรีลาวและเมียนมา สร้างความร่วมมือในการแก้ปัญหาร่วมกันทันที ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย บินตรงไป สปป.ลาว หารือรัฐมนตรีกสิกรรมและป่าไม้ พบว่ามีปัญหาเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่ตั้งเป้าแก้ไขให้ได้ภายใน 3 ปี โดยจะตั้งคณะทำงานร่วมกันทันทีหากได้เป็นรัฐบาล
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุพันธ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย เข้าพบ นายเพชร พรมภิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว เป็นการส่วนตัว ที่กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อหารือถึงปัญหาหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักกับประชาชนใน สปป.ลาว และไทย และรุนแรงหนักในปีนี้ ทั้งไทยที่หลายจังหวัดตามแนวชายแดนภาคเหนือและภาคอีสาน มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน
และใน สปป.ลาว ปีนี้ก็ได้รับผลกระทบหนัก สาเหตุมาจากปัญหาคล้ายกันเรื่องการเผาป่า และการเกษตร ซึ่งลาว กำลังเร่งแก้ไขปัญหาทั้งการดับไฟป่า และการปรับพฤติกรรมในการปลูกป่า เพิ่มคาร์บอนเครดิต รวมถึงการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า ต้องการมาติดตามปัญหาด้วยตัวเอง และทำให้มั่นใจว่านโยบายของพรรคไทยสร้างไทย หากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้เห็นผลภายใน 3 ปี โดยการประสานความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน อย่าง สปป.ลาว จะต้องตั้งคณะกรรมการร่วม JC มาทำงานร่วมกันในทันที นอกจากสนับสนุนการดับไฟป่าในระยะเร่งด่วนแล้ว ในระยะยาวต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกรให้ใช้เครื่องมือไถกลับแทนการเผา ซึ่งอาจจะออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ส่วนพื้นที่เขาลาดชัน ต้องแก้ไขเรื่องสิทธิที่ดิน เปลี่ยนการทำไร่ให้ปลูกพืชยืนต้นแทน อาจเสนอให้รายได้เกษตกร 2,000 บาทต่อไร่ ต่อปี และยกระดับความร่วมมือไปในภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก
นายสุพันธ์ เปิดเผยด้วยว่า การจัดตั้งสถาบันคาร์บอน เทรด เครดิต จะช่วยขายคาร์บอนเครดิต ได้ประโยชน์ทั้งไทยและเพื่อนบ้าน รวมถึงเกษตรกรจะได้ปลูกพืชที่เป็นประโยชน์กับสิ่งแวดล้อม
ขณะที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดการประชุมสามฝ่าย ระหว่าง นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และพลเอกอาวุโส มิน ออง ไลง์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อร่วมหาทางแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ซึ่งไทยต้องการผนึกกำลังอย่างใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีลาว ชื่นชมนายกรัฐมนตรีไทยที่มีบทบาทเด่นในเรื่องนี้
โดยลาวเห็นด้วยที่จะร่วมมือกับไทยและในะระดับอาเซียน เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษข้ามแดน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเมียนมา ก็พร้อมให้ความร่วมมือ เนื่องใจากระดับปัญหาปีนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึงร้อยละ 93 ซึ่งไทยสนับสนุนข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน และแผนปฏิบัติการเชียงรายที่ทำมาตั้งแต่ปี 2565 สามารถลดจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ภาคเหนือลงร้อยละ 81 และเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธุ์ ที่ผ่านมา ไทยมีหนังสือถึงสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อขอให้ประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขงผนึกกำลังแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาค
นอกจากนี้ยังต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมุลและดำเนินการด้านกฏหมายของแต่ละประเทศเพื่อควบคุมต้นเหตุของปัญหา และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างเครือข่ายการวัดดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศในอนุภูมิภาคนี้ รวมถึงมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสทันที