เลือกตั้งและการเมือง

เปิดมุมมอง 'มิ่งขวัญ' ตั้งเป้าลดราคาเบนซิน-ดีเซล ยันทำได้จริง ไม่ขายฝัน

โดย panwilai_c

23 มี.ค. 2566

62 views

หลังจากเปิดตัวเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ออกมาประกาศนโยบายพลังงาน ตั้งเป้าให้ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลลดลง กลายเป็นจุดขายของพรรคพลังประชารัฐ ที่นายมิ่งขวัญ ยืนยันว่า ทำได้จริงและไม่ขายฝัน หากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะทำเรื่องนี้ทันที และราคาน้ำมันจะลดลงให้เห็นจริงในเวลา 1 ปี



นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เปิดตัวทักทายด้วยการยืนยันว่าเป็นเพียงสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค หรือเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หลังจากมีขุนพลเศรษฐกิจ ทั้งนายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อยู่กับเต็มพรรค



บทบาทที่เคยระบุไว้ในวันแถลงข่าวเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อกรรมการบริหารพรรคมีมติเสนอชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงรายชื่อเดียว ก็ยืนยันยันว่าไม่ได้ติดใจ และเคารพมติพรรค โดยใช้เวลากว่า 2 เดือนในการคิดค้นนโยบายพลังงานที่เปิดตัวด้วยการประกาศลดราคาน้ำมันเบนซินลดลงลิตรละ 18 บาท และ ดีเซล ลิตรละ 6 บาท จนสร้างความฮือฮาว่าจะเป็นไปได้จริงหรือแค่ขายฝัน



นายมิ่งขวัญ ยืนยันว่า การลดราคาน้ำมันทำได้ จากฐานราคาน้ำมันเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ จากราคาน้ำมันเบนซิน ลิตรละ 44 บาท สามารถลดลงได้ 18 บาท 7 สตางค์ให้เหลือ 25 บาท 99 สตางค์ ส่วนราคาน้ำมันดีเซล จากลิตรละ 34 บาท จะให้ลดลง 6 บาท 30 สตางค์ เหลือ บาท โดยวิธีการจะลดภาษีสรรพสามิต ภาษีมหาดไทย และกองทุนน้ำมัน เป็นต้น อาจทำให้เสียรายได้ไปกว่า 36,000 ล้านบาท แต่พบว่าจะมีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ที่ไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกลับมากว่า 2 แสนล้านบาท โดยไม่ต้องเสียเงินงบประมาณ



นายมิ่งขวัญ ยืนยันว่านโยบายนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไฟเขียวแล้ว และหากพลเอกประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี การประชุมครม.นัดแรกจะทำทันที และจะมีมาตรการรองรับการทำนโยบายที่จะให้ราคาน้ำมันลดลงในระยะเวลา 1 ปี เช่น เปลี่ยนการอิงราคาน้ำมันมาที่ไทย การตั้งกรรมการตรวจสอบราคาให้ประชาชนมีส่วนร่วม และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในจุดยืนเพื่อประชาธิปไตย เพราะการมาร่วมพรรคพลังประชารัฐ เพราะไม่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว และพลเอกประวิตร ประกาศพร้อมก้าวข้ามความขัดแย้งนำประเทศไทยสู่ประชาธิปไตยที่ประชาชนต้องการ

คุณอาจสนใจ