'ชูศักดิ์' จ่อยื่น กกต. เอาผิด 'สนธิญา' หลังยื่นคำร้องยุบ 'พรรคเพื่อไทย' หลายครั้ง ชี้เข้าข่ายแจ้งเท็จ

ความเคลื่อนไหวการเมืองวันนี้ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อาจกระทำผิดเข้าข่ายขัดกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค ขณะที่ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย เตรียมยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้เอาผิดนายสนธิญาเช่นกัน ส่วนวันยุบสภาที่เชื่อมโยงไปถึงวันเลือกตั้งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน



ที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวยุบสภาฯ ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่มีการพูดถึง แต่นายวิษณุได้ร่วมวิเคราะห์เรื่องวันเลือกตั้งว่า อยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด การแบ่งเขตวันเลือกตั้งเสร็จวันไหน รวมทั้งเงื่อนเวลา 45-60 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด



ประเด็นอยู่ที่ยุบสภาฯ วันไหน เดิมที่คิดว่าวันที่ 7 พ.ค. อยู่บนสมมติฐานที่คิดว่า มันได้เวลา 60 วัน แต่ถ้าไปถึงวันที่ 14 พ.ค. ก็ต้องดูว่าอยู่ในกรอบเวลาหรือไม่แต่ต้องอยู่บนหลักเลือกตั้งวันอาทิตย์



ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องการยุบสภาว่าใกล้แล้ว



ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งวันนี้ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้ายื่นคำร้อง 2 ฉบับ ขอให้ตรวจสอบกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยบนเวทีพรรคเพื่อไทย แม้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งกลับมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยและเสนอนโยบายพรรค ด้อยค่า ด่าบุคคลอื่นตลอดมา



ส่วนข้อร้องเรียน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสนธิญากล่าวหาว่า นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ระหว่างการปราศรัยใหญ่ 3 จุดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ของการเมือง ที่มีอดีตรัฐมนตรี วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ตลอดจนกลุ่มองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา และพรรคเพื่อไทย เป็นแกนเดียวกันที่จะนำไปสู่ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ อาจเข้าข่ายขัดกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง



กรณีที่ นพ.ชลน่าน บอกว่ามี อดีตรัฐมนตรีวีรศักดิ์ และกลุ่ม อบจ. บุคคลอื่นเหล่านั้นเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ที่ไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพรรคเพื่อไทย เพราะมาตรา 28 บัญญัติห้ามพรรคการเมืองให้บุคคลเข้าไปชักจูง ครอบงำ ชี้นำ ส่วนมาตรา 29 บัญญัติห้ามบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองเข้าไปครอบงำ ควบคุม ชี้นำ รวมถึงขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 72 และทั้งสองข้อหาก็นำไปสู่มาตรา 92 (3) ที่สามารถดำเนินการไปถึงการยุบพรรคได้



ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงถึงกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี ยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย ว่าข้อกล่าวอ้างของนายสนธิญา ไม่เข้าองค์ประกอบใดๆ ตามข้อกฎหมายที่กล่าวอ้าง ที่จะถือว่าพรรคเพื่อไทยกระทำการอันฝ่าฝืนต่อกฎหมายพรรคการเมืองและรัฐธรรมนูญ และพรรคเห็นว่านายสนธิญา ได้ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทยมาแล้วหลายครั้ง โดยมิได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ครบถ้วนและถูกต้องเสียก่อน

พรรคจึงเห็นว่าการกระทำของนายสนธิญาอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 101 ของกฎหมายพรรคการเมืองที่บัญญัติว่า



"ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น" ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยื่นคำร้องขอให้ กกต.ดำเนินการสืบสวนไต่สวนและเอาผิดนายสนธิญาต่อไป