'โรม' เปิดหลักฐาน 'ส.ว.อุปกิต' ยื่นทรัพย์สินเท็จ ด้าน รทสช.ยันเช่าตึกตามกม. ไม่เกี่ยวจีนเทา

แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่า การเช่าพื้นที่ที่ทำการพรรค ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พรรคและนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนสีเทา ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดหลักฐานใหม่ตั้งข้อสังเกต ว่า ส.ว.อุปกิต อาจเข้าข่ายยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ต่อ ป.ป.ช. หรือไม่ กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ว่าได้ขายกิจการโรงแรมในประเทศเมียนมา ก่อนเข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภา



นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงเปิดหลักฐานใหม่ ตั้งข้อสังเกต ว่า ส.ว.อุปกิต อาจเข้าข่ายยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ต่อ ป.ป.ช. หรือไม่ กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สิน อ้างว่าได้ ขายกิจการโรงแรมในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ไปก่อนเข้ามาเป็น ส.ว.



โดยที่โรงแรมดังกล่าว เป็นการทำธุรกิจร่วมกันกับ นายทุน มิน ลัต และเป็นโรงแรมที่เปิดเพื่อเป็นคาสิโนใกล้ชายแดนไทย



นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบดูรายการบัญชีทรัพย์สิน ที่ ส.ว.อุปกิต แจ้งไว้กับ ป.ป.ช. มีการระบุข้อมูลสัญญาซื้อขายโรงแรม ให้กับบุคคล ที่ชื่อ นายชาคริส เมื่อปี 2562 โดยขายใน ราคา 8 ล้าน 1แสน 5 หมื่น ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 250 ล้านบาทไทย



แต่สัญญาดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากล เช่น ขายแบบยกกรรมสิทธิ์ทั้งหมดให้กับคนๆเดียว มีการแสดงยอดเงินในบัญชีว่าซื้อขาย 8 ล้าน 1แสน 5 หมื่น ดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่มีการยืนยันว่าเงินมาจาก นายชาคริส จริงหรือไม่



ส่วนเรื่องที่ ถูก ส.ว.อุปกิต ฟ้องหมิ่นประมาท นายรังสิมันต์ บอกว่า พร้อมสู้คดี ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นการทำหน้าที่ ส.ส. ซึ่งข้อมูลหลักฐานใหม่ ทั้งหมดจะยื่นให้ ป.ป.ช. ภายในสัปดาห์นี้



ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม อภิปรายในสภา พาดพิงพรรคเกี่ยวข้องกับทุนสีเทาว่า พรรคจำเป็นต้องรักษาเกียรติยศของพรรค เพราะได้ชี้แจงแล้วว่า ได้เช่าพื้นที่ทำการพรรคอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และพรรคได้แจ้งแล้วว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของอาคาร ไม่ได้ถูกดำเนินคดีอะไร



ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรรมาธิการยังไม่ได้มีการพิจารณา จริยธรรมของ ส.ว. ที่ถูกอภิปรายพาดพิงในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งตามกระบวนการแล้ว กรรมการจริยธรรมจะพิจารณาจริยธรรมของสมาชิก ก็ต่อเมื่อมีผู้ร้องที่มีตัวตน เมื่อเอกสารหลักฐานชัดเจน หรือกรรมการหยิบยกขึ้นมาตรวจสอบเองได้หากพบว่า ข้อมูลมากพอและประจักษ์ชัด



นายสมชายย้ำว่า กรณีดังกล่าว เป็นเพียงแค่การอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ส่วนตัวก็ทราบแต่เพียงข่าวเท่านั้น แต่หากเรื่องนี้ถูกนำไปฟ้องร้องดำเนินคดีในชั้นศาล ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะทำให้มีความชัดเจนว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร