เลือกตั้งและการเมือง

'ชัชชาติ' ย้ำนโยบายแก้หาบเร่แผงลอย - 'สุชัชวีร์' ลั่น กทม.ต้องมีทางเท้าปลอดภัย

โดย pattraporn_a

25 เม.ย. 2565

44 views

การหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวันนี้ ผู้สมัครหลายคนลงพื้นที่ติดตามปัญหาทางเท้า และหาบเร่แผงลอย รวมถึงการใช้พื้นที่สาธารณะใต้ทางด่วน ขณะที่สโมสรนิสิต คณะรัฐศาสตร์ และองค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเวทีเลือกตั้ง ส.ก.เขตปทุมวัน เพื่อรับฟังนโยบายของ ส.ก.เป็นเวทีแรกด้วย


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าสมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงตลาดสะพาน2 และตลาดโชคชัย 4 เขตวังทองหลาง พร้อมดูปัญหาทางเท้า และทางข้ามถนนลาดพร้าว ซึ่งกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งพบว่าหลายจุดเป็นหลุมเป็นบ่อจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า กทม.จำเป็นต้องเข้มงวดกับผู้รับเหมา เพราะในสัญญาผู้รับเหมาฯ มีงบประมาณที่จะต้องรับผิดชอบสำหรับส่วนนี้อยู่แล้ว


โดยย้ำนโยบายการจัดการทางเท้า หาบเร่แผงลอยว่า จะต้องให้สิทธิคนเดินเท้าก่อน ยึดประโยชน์เมืองเป็นหลัก แต่ก็จะต้องให้ความสำคัญกับหาบเร่แผงลอยด้วย เพื่อให้ทั้งคนเดินเท้า และร้านค้าสามารถอยู่ร่วมกันได้ จะต้องรักษาความสะอาด จัดระเบียบให้ดี ให้สิทธิคนเดินเท้าก่อน และค่อยแบ่งปันพื้นที่ให้หาบเร่ แผงลอย ซึ่งแต่ละท้องที่อาจจะต้องกำหนดให้เหมาะสมกับการใช้งานของคนในพื้นที่ รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางเดินเท้า กับระบบรถไฟฟ้าด้วย


ทางด้าน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ ตลาดเสรีมาร์เก็ต ห้างพาราไดซ์ ย้ำถึงนโยบายแก้ปัญหาทางเท้า ที่มีการให้ขายของบนทางเท้า จนบางพื้นที่ไม่มีทางเดิน และมีปัญหาความสะอาด ซึ่งหากได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะแก้ปัญหาให้ทางเท้า มีถังขยะ รองรับในพื้นที่ที่เหมาะสม และจะมีการบริการก๊อกน้ำประปาฟรี ทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนรวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าได้ใช้ เพื่อความสะดวก สามารถล้างมือได้


ย้ำว่าถ้าจุดไหนที่สามารถให้ค้าขายได้ ก็อนุโลมให้ แต่พื้นที่ไหนที่ขายไม่ได้เช่นบริเวณทางขึ้น-ลง ติดทางข้าม ไม่สามารถอนุญาตให้ขายได้ และยังมีนโยบายเรื่องความปลอดภัย มีอินเทอร์เน็ตฟรีทั่วกรุงเทพฯ wifi ฟรี 150,000 จุดจุดละ 1,000 เมกกวัตต์ ทำให้ CCTV ชัดเจน ตลอด 24 ชั่วโมง


ขณะที่ นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 3 ลงพื้นที่หาเสียงตลาดสามย่าน และขึ้นรถแห่แนะนำตัวไปในย่านรองเมือง รวมถึงตลาดโบ๊เบ๊ แห่ ซึ่งเขตปทุมวันมีพื้นที่ใต้ทางด่วนจำนวนมาก ถ้าหากได้แต่ผู้ว่าฯ กทม. จะนำพื้นที่เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ เช่น ทำสนามกีฬา สวนสาธารณะ ตลาดเล็กๆ ให้กับชาว กทม. ซึ่งอาจต้องเจรจา กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย


นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ว่างเปล่าของการรถไฟแห่งประเทศไทยและกรมธนารักษ์ ด้วย ขณะเดียวกัน มีแนวคิดว่า ปัญหาจอดรถในที่ห้ามจอด ยังมีความลักลั่นกันอยู่ ควรโอนอำนาจมาอยู่ในความดูแลของ กทม. ทั้งหมด ก็จะแก้ปัญหาการจราจรได้ด้วย


ขณะเดียวกัน วันนี้ สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดดีเบตนโยบายผู้สมัคร ส.ก. เขตปทุมวัน ภายใต้หัวข้อ “เลือกตั้ง ส.ก. : อนาคตของชุมชนรอบจุฬาฯ และเขตปทุมวัน” ซึ่งมีผู้สมัครได้นำเสนอนโยบาย นายณัฐฎ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา พรรคก้าวไกล เป็นห่วงโครงการขนาดใหญ่ทำให้คนอยู่อาศัยน้อยลง จึงต้ังใจจะทำให้คุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น


โดย นางสาวเมลิสา มหาพล พรรคไทยสร้างไทย มองเห็นปัญหานี้และย้ำว่าต้องฟังเสียงชุมชนดั้งเดิม ได้อยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพด้วย นายกอบกฤต สุขสถิต พรรครวมไทยยูไนเต็ด หวังสร้างมาตรฐานรัฐสวัสดิการให้พนักงานบริการ เพื่อลดคยวามเหลื่อมล้ำ


ขณะที่ น.ส.หฤทัย ทวีพรกิจกุจ พรรคประชากรไทย เห็นว่าการไล่รื้อพื้นที่ในเขตปทุมวัน จะต้องเยียวยาประชาชน 2 กลุ่ม ทั้ง ประชาชนที่ทำมาหากินในพื้นที่ และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยจะทำแอปพลิเคชั่น ลงทะเบียนเปลี่ยนพื้นที่หน้าบ้านให้เป็นที่ค้าขาย และเปลี่ยนพื้นที่ว่างให้เป็นที่อยู่อาศัย ในรูปแบบการเช่าซื้อ

คุณอาจสนใจ

Related News