เลือกตั้งและการเมือง

ย้อนรอย 7 ปี รัฐประหาร อดีตแกนนำ นปช.แนะผู้มีอำนาจลาออก เปิดทางแก้ รธน.

22 พ.ค. 2564

51 views

ครบ 7 ปี รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 มีการจัดกิจกรรมแสดงจุดยืนต่อต้านการรัฐประหารของหลายกลุ่ม เช่นการยืนหยุดขัง ของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่หน้าศาลฎีกา และกลุ่มสหภาพนักเรียนที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งยังเป็นความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของขบวนการนักศึกษาและประชาชน โดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช.เห็นว่าเป็นการชุมนุมที่คาดไม่ถึงของกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์นิยม ที่วางแผนอย่างเป็นระบบ ผ่านการรัฐประหาร 2 ครั้ง ทางออกเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองกว่า 10 ปีที่ผ่านมา คือการที่ผู้มีอำนาจพิจารณาออกจากตำแหน่งและเปิดทางแก้ไขรัฐธรรนูญ


ย้อนไปยังเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ประกาศยึดอำนาจการปกครอง จากรัฐบาลที่มีนายนวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นรักษาการรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประกาศยุบสภาไปก่อนหน้านั้น ท่ามกลางกลุ่ม กปปส.และ นปช. ที่ พลเอกประยุทธ์ เชิญมาเจรจาเพื่อหาทางออกทางการเมือง แต่จบลงด้วยการรัฐประหาร


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. และอดีตรัฐมนตรีรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ เล่าวินาทีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศยึดอำนาจ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ก่อนที่เขาและแกนนำทุกฝ่าย ถูกควบคุมตัวไปตามค่ายทหารต่างๆ เพื่อเปลี่ยนผ่านอำนาจมาสู่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งใช้เวลาเกือบ 5 ปี ในการเลือกตั้งใหม่ในปี 2562 โดยที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรี ผ่านพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจ และกลายเป็นบทพิสูจน์ที่นายณัฐวุฒิ มองว่า การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นภาคต่อของการรัฐประหารปี 2549 จากรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร มาถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นความร่วมมือของเครือข่ายอนุรักษ์นิยม ที่วางบทละครและตัวบุคคลไว้ล่วงหน้า การเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.สุดซอย ซึ่งเป็นที่มาให้มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.นั้นเป็นเพียงจุดเปลี่ยนหนึ่งที่ทำให้เวลาของการยึดอำนาจเร็วขึ้นเท่านั้น


อดีตแกนนำ นปช. ยอมรับว่า แม้การชุมนุมของขบวนการนักศึกษา จะเป็นการเคลื่อนไหวที่เครือข่ายอนุรักษ์นิยมคาดไม่ถึง แต่การล้มรัฐบาลชุดนี้ยังเป็นเรื่องยากด้วยโครงสร้างทางรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติที่ถูกวางรากฐานไว้ แต่ตลอดกว่า 7 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ เผชิญกับวิกฤตศรัทธาหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 นายณัฐวุฒิ จึงเสนอทางออกที่ผู้มีอำนาจต้องพิจารณาตัวเองออกจากตำแหน่งและเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ


สำหรับผลพวงของ 7 ปีรัฐประหาร ที่ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือ เพนกวิ้น พริษฐ์ ชิวารักษ์ จากเด็กนักเรียนชั้น ม.4 เมื่อ 7 ปีก่อน เพนกวิ้น ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร จนกลายเป็นแกนนำราษฎร และถูกคุมขังในเรือนจำถึง 2 ครั้ง ก่อนได้รับปล่อยตัวมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา เพนกวิ้น เปิดใจครั้งแรก หลังอดอาหารประท้วง 57 วัน น้ำหนักลดไป 20 กิโลกรัม เกือบเสียชีวิตไปหลายครั้งระหว่างถูกคุมขัง และตลอดเวลาของการเคลื่อนไหว เขาจึงยอมสละชีวิตได้ หากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง


โดย นายพริษฐ์ ยอมรับว่า แม้ตัวเขาได้รับการปล่อยตัวแบบมีเงื่อนไข และแกนนำราษฎรหลายคนยังถูกคุมขัง จึงยังเป็นสิ่งที่ต้องเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง และเดินไปสู่เป้าหมาย


ขณะที่วันนี้ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มสหภาพนักเรียน ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ และการยืนหยุดขังของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ยืนยันถึงการต่อต้านการรัฐประหาร ในวันครบรอบ 7 ปี ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ข่าว 3 มิติรายงาน

คุณอาจสนใจ

Related News