เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 25 มิ.ย.67 เพื่อไทยรุมสับสุดารัตน์-พศ.แจ้งความลัทธิเชื่อมจิต-รวบโจรปลอมเฟซบุ๊กคนดัง

1. คุมตัว ชนินทร์ ส่งฟ้องศาลแล้ว ไร้ญาติยื่นประกัน

2. เร่งเช็กมือถือ 9 ตำรวจน้ำ เอี่ยวเรือน้ำมันเถื่อน

3. สำนักพุทธฯ แจ้งความเอาผิด ลัทธิเชื่อมจิต ผิด พ.ร.บ.คอมฯ

4. บิ๊กโจ๊ก ร้องเอาผิด บิ๊กต่าย- 2 นายพล กรณีให้ออกจากราชการ

5. พม.หาทางช่วยเหลือ ปมเด็ก 12 หลอกเด็ก 7 ขวบ - 5 ขวบถ่ายคลิป 18+

6. รวบแล้ว 2 โจรปลอมเฟซบุ๊กคนดัง หลอกขอรับเงินบริจาคช่วย รพ.

7. ลือสะพัด นาย-ใบเฟิร์น เลิกรากัน – ฝ่ายหญิงไม่พร้อมตอบสื่อ

เรื่องเล่าการเมือง

-เพื่อไทย รุมสับสุดารัตน์ ลั่นไม่คิดโละปาร์ตี้ลิสต์

กลายเป็นประเด็นร้อน กรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดประเด็นว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมแก้รัฐธรรมนูญตัด สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อสกัดพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ สส.พรรคเพื่อไทย ต้องใช้คำว่าออกมารุมสับ ยืนยันว่า ไม่เคยมีแนวคิดเรื่องนี้

เริ่มจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่า การเมืองต้องมี สส. ทั้ง 2 ส่วน สส.เขต ต้องทำงานใกล้ชิดประชาชน ขณะที่ สส.บัญชีรายชื่อ ต้องอยู่ส่วนกลางคอยคิดนโยบาย ทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น นี่คือปรัชญาของพรรคเพื่อไทย ก็บอกว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาน่าจะรู้ตรงนี้ แต่ทำไมถึงไปพูดไม่ตรงกับปรัชญาและสิ่งที่พรรคเพื่อไทยยึดถือปฏิบัติ ช่วงนึงได้ย้อนถาม คุณหญิงสุดารัตน์ ว่า “ยังไม่หายโกรธเพื่อไทยหรืออย่างไร” และขอให้ต่างคนต่างอยู่ ทำพรรคของตัวเองให้ดีขึ้นๆ ดีกว่ามาดิสเครดิต คะคานคนอื่นโดยไม่อิงข้อเท็จจริง

ขณะที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาตอบโต้คุณหญิงสุดารัตน์ ว่าเราไม่มีความคิดที่จะทำ พร้อมท้า “ขอให้พูดมาเลยว่าใครเป็นคนพูด แบบนี้ตนก็พูดได้ว่าคนในพรรคไทยสร้างไทยมาบอกตนเช่นนั้นเช่นนี้”

นอกจากนี้ ยังมีนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บอกว่าเป็นเรื่อง "จินตนาการ" และขออย่าไปเสียเวลามาถกเถียง ในประเด็นที่ไม่มีอยู่จริง และ ไม่เป็นความจริง

แต่ที่เรียกว่าดุเดือดก็คือ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความ บอกว่า เสียดายคุณหญิงสุดารัตน์ ใส่ต่างหูบ้าง อย่าหูเบา พร้อมกับโพสต์คลิป ในเชิงเหน็บว่า ตั้งแต่ออกจากพรรคเพื่อไทย แวดวงทางการเมืองก็ “ริบรี่ไปเรื่อย” เลยต้องออกมาโหนกระแส แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งเละ



-หญิงหน่อย ผูกใจเจ็บ สวนกลับเศรษฐา เลอะเทอะทุกเรื่อง

ส่วนคนต้นเรื่อง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เมื่อวานนี้ ให้สัมภาษณ์รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ยืนยันว่าได้รับข้อมูลมาจากคนในพรรคเพื่อไทย แต่ไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ใช่เรื่องจริง พรรคเพื่อไทยก็ควรพูดออกมาชัด ๆ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า สิ่งที่พูดออกมาไม่ได้กล่าวหา แต่ได้รับคำบอกเล่าว่ามีความคิดแบบนี้ จริงเท็จอย่างไรไม่รู้ ถ้าพรรคเพื่อไทยจะร้อนตัวออกมาอธิบาย ก็ควรอธิบายข้อเท็จจริง ถ้าจะมาบอกว่าเป็นการกล่าวเท็จ หรือเลอะเทอะ ต้องกลับไปดูพฤติกรรมตัวเองก่อน และเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยบอกมาให้ชัดว่า ถ้าเท็จหรือเลอะเทอะ ก็ออกมายืนยันให้ชัดเจนเป็นสัญญาประชาคมเลย

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังย้อนกลับนายกฯเศรษฐาที่พูดว่า เลอะเทอะด้วย โดยบอกว่า "การกระทำของนายกฯที่ผ่านมา เลอะเทอะแทบทุกเรื่อง ก่อนเลือกตั้งพูดอย่าง หลังเลือกตั้งพูดอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องเลอะเทอะที่สุดในการเมืองไทย"

อย่างไรก็ตามคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ยอมเปิดเผยคนให้ข้อมูล บอกว่า ถ้าบอกเขาคงตาย แต่ก็บอกว่า เป็นคนที่เคยมีบทบาทในพรรค ส่วนตอนนี้ไม่ทราบว่ามีบทบาทแค่ไหนเพราะมีการเปลี่ยนแปลงภายในเยอะ แต่ว่าไม่ได้ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล

ขณะที่ พรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ความเห็นของคุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า นายกฯและพรรคเพื่อไทยต้องยืนยันเป็นสัญญาประชาคม ว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อความได้เปรียบทางการเมือง ยังจี้นายกฯให้พูดให้ชัดเรื่องนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล อย่าเลอะเทอะด้วย เพราะมีอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้เดินหน้าตามที่ได้ประกาศไว้ตอนหาเสียง

จึงขอถามคุณเศรษฐาในฐานะหัวหน้ารัฐบาลว่า นโยบายเหล่านี้ และอีกหลายนโยบายที่เคยพูดไว้ เป็นเพียงเทคนิคการหาเสียงใช่หรือไม่ ถ้าทำแน่นอน จะทำเมื่อไหร่ ตอบประชาชนให้ชัดเจน อย่าพูด "เลอะเทอะ"



-กกต. พบ 4 รูปแบบทุจริตเลือก สว. แสวงรับตรวจสอบไม่ง่าย

ส่วนความเคลื่อนในการเลือก สว. วันพุธที่26 มิ.ย.นี้ จะเป็นการเลือกขั้นสุดท้ายในระดับประเทศแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่า กกต. พบความผิดปกติ ส่อมีการทุจริตในระดับประเทศด้วย

มีรายงานจากสำนักงาน กกต.ว่าสำนักงาน ได้ทำการตรวจสอบกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ ส่อมีการกระทำเข้าข่ายเป็นการทุจริต ซึ่งจะมีการเลือกระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยพฤติการณ์ที่พบแบ่งได้เป็น 4 รูปแบบ คือ

1.ผู้ได้รับเลือกเป็นส.ว.ระดับจังหวัดมีการต่อรองขอตำแหน่ง หรือเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินหลังหลักแสนบาท แลกกับการลงคะแนนให้ผู้สมัครที่ยอมจ่ายเงินได้เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นส.ว.ระดับประเทศ

2.การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองที่หนุนหลังผู้ได้รับเลือกเป็นสว.ระดับจังหวัด พยายามล็อบบี้รวบรวมรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นสว.ระดับจังหวัดรายอื่น เพื่อให้กลุ่มของตัวเองมีผู้มีสิทธิ์เลือกมากที่สุด

3.พบมีคนกลางจองห้องพักโรงแรมบริเวณใกล้สถานที่เลือก และนัดรวมตัวกันก่อนวันเลือก เพื่อล็อบบี้และตรวจสอบคะแนนเสียง

4.ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีการติดต่อไปยังผู้ได้รับเลือกเป็นสว.ระดับจังหวัดในพื้นที่ทุกกลุ่มอาชีพ เพื่อให้มาอยู่กลุ่มตัวเองโดยอ้างว่าจะสนับสนุนให้เป็น สว.

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ทั้ง 4 รูปแบบ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในการตรวจสอบ เพราะผู้กระทำเป็นผู้ที่มีความรู้ มีอำนาจ มีทุน ยิ่งถ้าเป็นการเมืองก็จะมีเครือข่ายมีผู้สนับสนุน ทั้งนี้สำนักงาน กกต. ได้ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจที่ทำงานร่วมกันเข้าไปดู ว่าจะสามารถป้องกัน ป้องปราม หรือจับกุมได้อย่างไร ส่วนเรื่องร้องเรียนตอนนี้ มีความผิดที่เกิดขึ้นมีอยู่ 3 กลุ่ม รวม 333 เรื่อง

ในจำนวนนี้มี 200 เรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติ และการลงผิดกลุ่ม รู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัคร ซึ่งศาลฎีกา และกกต. ได้วินิจฉัยไปบางส่วนแล้ว

กลุ่มที่ 2 การดำเนินการในวันเลือก ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด มีอยู่ 39 เรื่อง

กลุ่มที่ 3 การเลือกที่ไม่สุจริต มีประมาณ 90 เรื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา แต่คิดว่าจากจำนวนทั้งหมดยังถือว่าน้อยถ้าเทียบกับจำนวนผู้ที่สมัครทั้งประเทศที่มีกว่า 4 หมื่นคน



-ถกนัดแรก! พิชัย นั่งปธ.กมธ.งบ68 - ก้าวไกล ไม่ร่วมทุกตำแหน่ง

ขณะที่เมื่อวานมีการประชุมกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณ ปี 2568 นัดแรก ก็มีมติตามคาดให้นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นประธาน ขณะที่พรรคก้าวไกลไม่ขอร่วมทุกตำแหน่ง

ในการประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นัดแรก ได้มีมติให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งส่วนอื่นๆ เช่นรองประธาน จำนวน 18 คน โดยไม่มี กรรมาธิการ จากพรรคก้าวไกล ร่วมเป็นตำแหน่งใดๆ เลย เบื้องต้นก็มีการวางกรอบ จะพยายามพิจารณาให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเข้าสู่สภา วาระ 2 และ 3 ภายในเดือนสิงหาคมนี้

ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ในฐานะโฆษกกรรมาธิการฯ พูดถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล ไม่ขอรับตำแหน่งว่า ไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ และยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ส่งผลต่อการทำงาน เพราะกรรมาธิการ ก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ViF6BdOBCik