เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 12 มิ.ย.67 นายกฯแจงหุ้นร่วงสุดในรอบ 4 ปี-รวบญาติชาดา ปาร์ตี้ยา-ไฟไหม้ตลาดสัตว์เลี้ยง

1.ไฟไหม้ตลาดสัตว์เลี้ยง วอด 118 ห้อง ดับนับพัน

2.ไฟไหม้กระบะตู้ทึบ ย่างสดไก่ชนระดับแชมป์ กว่า 20 ตัว

3.รวบญาติ ชาดา รมช.มหาดไทย พกปืนมั่วสุมกับพวกปาร์ตี้ยาไอซ์

4.เพจดังแฉ ตร.เสียชีวิตระหว่างการฝึกปฏิบัติการพิเศษฯ ปริศนา

5.สาวร้องถูกพระสงฆ์เจ้าสำนักดัง หลอกเข้าลัทธิถวายตัว

6.คอมมานโดจับแท็กซี่โกงมิเตอร์ กดปุ่มไฟเลี้ยวขึ้นครั้งละ 2 บาท

7.คอหวยรอเฮ! สลากตัวเลข 3 หลัก ครม.เห็นชอบเกณฑ์แล้ว

เรื่องเล่าการเมือง 

-เศรษฐา รับ 3 คดีใหญ่การเมืองมีผลหุ้นร่วงต่ำสุดรอบ 4 ปี

การเมือง เริ่มที่ดรามาหุ้นไทยร่วงหนักสุดในรอบ 4ปี กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ทางการเมืองไปแล้ว เพราะมีการเปรียบเทียบกับยุครัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อวานนักข่าวถามเรื่องนี้ จาก นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าประชุม ครม. ท่านนายกฯ ยอมรับว่า ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะ 3 คดีใหญ่ทางการเมือง ที่ตลาดคงมีความกังวล แต่ทั้ง 3คดี เป็นเรื่องของแต่ละคน อย่างกรณีคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล คดีของพรรคก้าวไกลก็เป็นเรื่องในสภา ส่วนคดีของตนเอง ก็ได้มีการส่งคำชี้แจงให้กับศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องมาดูคุยกันอีกครั้ง ว่าเป็นสถานการณ์ตามปกติของตลาดหุ้นหรือไม่

นักข่าวถามด้วยว่า หาก 3 คดีนี้ผ่านพ้นไปจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงเป็นการไม่เหมาะสมที่จะไปพูดถึงผลในอนาคต

ทั้งนี้ หลังประชุม ครม. นายกฯให้สัมภาษณ์ บอกว่าที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีการพูดถึงกรณีหุ้นไทยตก แม้จะมีการมองกันว่าปัจจัยที่สำคัญมาจากสถานการณ์ทางการเมือง


-ภูมิธรรม ขออย่าเปรียบยุคเพื่อไทย หุ้นตกกว่ายุคบิ๊กตู่

นายภูมิธรรม เวชยชัย เมื่อวานก็ถูกถาม กรณีตลาดหุ้นไทยร่วงต่ำในรอบ 4 ปี ก็บอกว่า ขออย่าเปรียบเทียบ ยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ต่ำกว่า “ยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์” และชี้ว่า หุ้นขึ้นลงเป็นเรื่องปกติ ตามสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ ซึ่งมองว่าแค่ชั่วคราว เดี๋ยวก็คลี่คลาย

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่าเมื่อพ้นคดีการเมือง มีการพิจารณาของศาลเรียบร้อย ทุกอย่างจะดีขึ้น

นักข่าวถามว่าความเชื่อมั่นยุคพรรคเพื่อไทยดูเหมือนต่ำกว่ายุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทางนายภูมิธรรม ก็บอกว่า จะมาพูดแบบนี้ไม่ได้ “การที่ความเชื่อมั่นจะขึ้นหรือลง ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยหรือลุงตู่ แต่เป็นเรื่องของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ พอสถานการณ์เปลี่ยนไป ก็เปลี่ยนแค่วันเดียว ไม่ใช่ปัญหาถาวร”


-ทวี ชี้เป็นสิทธิ ทักษิณ ยื่นขอความเป็นธรรม อสส. ปมคดี 112

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ หลังมีข่าวว่าเตรียมยื่นขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด กรณีมีคำสั่งฟ้องในคดีมาตรา 112 เมื่อวานนี้นักข่าวไปถามเรื่องนี้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ชี้ว่าเป็นสิทธิที่ทำได้

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พูดถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ในคดีมาตรา 112 โดยอ้างว่าพนักงานสอบสวนโดนข่มขู่จาก คสช. ก็บอกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม ต้องสอบถามไปยังอัยการสูงสุด

แต่พูดเชิงหลักการว่า ในกระบวนการยุติธรรม คดีทางอาญาจะเปิดโอกาสให้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหา สามารถยื่นขอความเป็นธรรมได้ตลอด ไม่มีการห้ามในขั้นตอนใด และอำนาจการพิจารณาก็เป็นของอัยการสูงสุด

ทั้งนี้ ก็เลี่ยงที่จะฟันธงว่า การฟ้องในยุค คสช.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ บอกเพียงว่า หลักใหญ่เรื่องการสอบสวนชอบหรือไม่ชอบ เป็นหลักสำคัญของคดีอาญา

ด้าน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวานนี้ก็ถูกถามกรณีที่คุณทักษิณ เตรียมร้องขอความเป็นธรรมในคดี 112 ที่ถูกฟ้องในยุค คสช. โดยปกป้องว่า กองทัพไม่เกี่ยวข้อง แต่เป็นคณะพิเศษ คือ คสช. ดังนั้นการบริหารงานของกองทัพในสมัยนั้น จึงไม่ใช่เรื่องของกองทัพแล้ว ส่วนที่มีการตั้งข้อกล่าวหาใคร จากนี้คงต้องไปพิสูจน์กัน ตามกระบวนการยุติธรรม


- อดีตอัยการสูงสุด ยันทำคดี 112 ทักษิณ ไม่เคยโดนใครข่มขู่

ขณะที่อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะพนักงานสอบสวนคดี นายทักษิณ ก็ออกมาโพสต์ สวนทาง กับรายงานที่ว่านายทักษิณ ร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่า พนักงานสอบสวนคดีนี้ โดนข่มขู่ทำคดี

โดย นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น อสส. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวนครับ"

ทั้งนี้ นายตระกูล เป็นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ตาม ป.วิอาญา มาตรา20 ที่กำหนดให้ อัยการสูงสุด เป็นพนักงานสอบสวน รับผิดชอบการทำคดี ซึ่ง คุณตระกูล วินิจนัยภาค เป็นอัยการสูงสุดในขณะนั้น

หลังจากนี้ ต้องจับตาว่า อัยการสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาว่า คำร้องขอความเป็นธรรมของนายทักษิณ ว่าฟังขึ้นหรือไม่ มีน้ำหนักมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องได้หรือไม่ หากมีน้ำหนักหรือมีมูลพอ ก็อาจเลื่อนนัดส่งตัวผู้ต้องหา หรือไม่

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hB3gUF1DwQA