เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 5 มิ.ย.67 วิษณุ ไม่หวั่นคนเพื่อไทยต้าน-แป้ง นาโหนด ถึงไทย-ค้านประกันทีมฆ่าเสี่ยต้น

1.แป้ง นาโหนด ถึงไทย คุมตัวไปสอบคุ้มกันเข้ม

2.ตำรวจ 3 โรงพัก แจ้งข้อหา แป้ง นาโหนด พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

3.ค้านประกัน ทีมฆ่าเสี่ยต้น หวั่นหลบหนี ยุ่งเหยิงพยาน

4.พม.สั่งยุตินำ เด็ก 8 ขวบ ไปหาผลกำไร

5.แม่ปล่อยโฮ รับร่างลูกชายเหยื่อฆาตกรฆ่าหมกคอนโด

6.รวบลุงเปิดลำโพงเสียงดังนาน 10 ปี

7.ทนายประท้วงเทอึราดตัวหน้าธนาคาร หลังแก๊งคอลฯ หลอกสูญเงินล้าน



เรื่องเล่าการเมือง

-วิษณุ ไม่หวั่น คนเพื่อไทยต้าน ลั่น ต้านมากก็ไม่อยู่

ยังคงเป็นที่จับตาสำหรับการหวนกลับทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งของนายวิษณุ เครืองาม ซึ่งเมื่อวานเข้าทำเนียบครั้งแรกหลังรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พูดถึงกระแสที่คนเพื่อไทยต้านว่า ไม่เป็นไร ต้านมาก ก็ไม่อยู่

นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกหลังรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ บอก ไม่ตื่นเต้น "เหมือนกลับบ้าน"

ส่วนที่มีคำถามถึงเหตุผลที่ยอมรับตำแหน่ง ทั้งที่มีปัญหาด้านสุขภาพ นายวิษณุ ยอมรับว่า คิดหนักอยู่เพราะเหมือนคนไม่เจียมตัว แต่เห็นใจนายกฯที่อธิบายเหตุผลหลายอย่างให้ฟัง ก็คิดว่ามาช่วยท่านสักระยะไม่น่าทำให้ตัวเองเกิดอันตรายอะไร และไม่น่าเป็นผลเสียต่อประเทศชาติ

เมื่อถามว่าการมารับตำแหน่งในขณะที่เงินและเกียรติยศก็มีแล้ว ยังต้องการอะไร นายวิษณุ ระบุว่า คิดว่าประเทศชาติน่าจะต้องการคนช่วยแก้ปัญหา ซึ่งตนไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ได้ต้องการเกียรติยศ ครั้งนี้เป็นการลดเกียรติด้วยซ้ำ เพราะจากรองนายกฯมาเป็นที่ปรึกษา

ส่วนที่มีกระแสต้านจากคนในพรรคเพื่อไทย กรณีมารับตำแหน่ง นายวิษณุ บอก ไม่เดือนร้อน ต้านมาก ๆ ก็ไม่อยู่


-นายกฯ เมินคนเพื่อไทยค้านตั้ง วิษณุ ลั่น ต้องการคนเก่งช่วย

ขณะที่ นายกฯเศรษฐา บอกปัญหาในประเทศต้องการคนเก่งมาช่วย ซึ่ง อ.วิษณุ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ หวังว่าคนเพื่อไทยจะเข้าใจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าว สส.พรรคเพื่อไทย ไม่พอใจกรณีแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่า เรื่องนี้ตนพูดไปเยอะแล้ว แต่เรื่องวาทกรรมการเมือง ก็เป็นอีกเรื่อง

และย้ำว่า นายวิษณุเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยจะไม่เก่ง แต่ปัญหาต่าง ๆ ที่ประเทศประสบอยู่ ต้องการคนเก่งเข้ามาช่วย เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายหลักของรัฐบาล เป็นไปด้วยความรอบคอบ ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน สส. ในพรรคเพื่อไทย น่าจะเข้าใจ

นายกฯ บอกว่า รู้จัก อ.วิษณุ มานานแต่ไม่เคยทำงานด้วยกัน ซึ่งก็ต้องพัฒนาความสัมพันธ์กันไป เพื่อให้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ



-อุ๊งอิ๊ง ขอ สส.ยอมรับวิษณุ ลั่นนายกฯอยู่ไม่ได้ สภาก็อยู่ไม่ได้

และในการประชุมพรรคเพื่อไทย อุ๊งอิ๊งก็ได้ขอให้ สส.ของพรรคยอมรับ อ.วิษณุ และช่วยกันสนับสนุนนายกฯเศรษฐา เพราะถ้านายกฯอยู่ไม่ได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ สภาก็อยู่ไม่ได้

มีรายงานว่า ในการประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวาน ซึ่งนายกฯไม่ได้เข้าประชุมด้วย ช่วงหนึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ได้พูดถึงเรื่องที่นายกฯ ตั้งนายวิษณุมาเป็นที่ปรึกษาว่า ขอให้ทุกคนสบายใจ เพราะนายวิษณุเข้ามาช่วยงานรัฐบาลด้วยความตั้งใจ ก่อนหน้านี้ได้ทำงานกับรัฐบาลไทยรักไทยมาก่อน และนายวิษณุก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ขอให้ สส.ยอมรับและเข้าใจ เพื่อให้เราสามารถเดินไปข้างหน้าได้ เพราะรัฐบาลต้องการสร้างผลงานขับเคลื่อนนโยบาย เมื่อมีคนเก่งมาร่วมงานจึงเป็นเรื่องที่ดี

จึงขอให้ทุกคนเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน และขอให้สามัคคีกัน ช่วยกันสนับสนุนนายกฯ เพราะหากนายกฯอยู่ไม่ได้ พรรคร่วมก็อยู่ไม่ได้ สภาฯ ก็อยู่ไม่ได้ และถ้าใครไม่สบายใจอะไรก็สามารถมาพูดคุยกันได้ โดยในส่วนของ สส. ไม่ได้มีใครลุกขึ้นพูดในประเด็นนี้



-นายกฯ เชื่อทักษิณ ไม่หนีออกนอกประเทศ

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ที่โดนข้อหามาตรา 112 เมื่อวานนี้นักข่าวถามท่านนายกฯ ด้วย โดยนายกฯมั่นใจ นายทักษิณ ยังอยู่ในไทย พร้อมสู้คดี

โดยนักข่าวถามท่านนายกฯ ว่า นายทักษิณยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เจอกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็บอกว่า ท่านสบายดี

"มั่นใจว่าท่านไม่ได้ออกนอกประเทศ และคิดว่าท่านก็พร้อมสู้ ท่านไปอยู่ต่างประเทศมา 17 ปีแล้วมันนานพอแล้ว และวันนี้ท่านก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นขวากหนามที่เข้ามา ตนพูดแทนไม่ได้ แต่คิดว่าท่านคงไม่คิดจะไปไหน



-กกต. ชี้ เรื่องโพยก๊วน ฮั้วเลือก สว. ไม่มีมูลความจริง

สืบเนื่องจากประเด็น ที่ สว.สมชาย แสวงการออกมาโพสต์แฉเรื่อง โพยก๊วน ฮั้วเลือก สว. บอกว่า มีรายชื่อคนที่จะผ่านด่านเข้าไปถึงรอบระดับประเทศ แบบนอนอมา แล้ว 149 คน นั้น เมื่อวานนี้ กกต.ออกเอกสารชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า "ไม่มีมูลความจริง"

สำนักงาน กกต. นำข้อความ เรื่องโพยก๊วน ฮั้วเลือก สว. ดังกล่าว คาดกากบาทสีแดงทับ และ ระบุข้อความ "ขอชี้แจงการนำเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง"

พร้อมระบุเนื้อหาว่า ตามที่ มีผู้นำข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง โดยนำข้อมูลดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก ว่า "...เหตุใดยังไม่ถึงวันเลือกรอบแรกในระดับอำเภอตามที่ กกต. กำหนดนัดหมาย เหตุใดในบัญชีโพยผู้สมัครทั่วประเทศ เขามีรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบผ่านด่านจากอำเภอ และผ่านจังหวัดไป เข้ารอตัดเชือกเลือกในระดับประเทศแบบนอนมา ถึง 149 คนแล้ว..." และข่าวของผู้สมัคร สว. อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ว่า "...ใส่สูท เสื้อในเชิ้ตขาว อย่างพร้อมเพรียงราวกับถ่ายจากร้านเดียวกัน..." นั้น

กกต. ขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง กล่าวคือ ขณะนี้ การเลือกผู้สมัคร สว. ในระดับอำเภอ,ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ยังไม่ได้ดำเนินการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร สว. การที่บอกว่า มีผู้เข้ารอตัดเชือกเลือกในระดับประเทศแบบนอนมา ถึง 149 คนแล้ว นั้น จึงเป็นการคาดเดาของผู้เสนอข่าวโดยไม่มีมูลความจริง และปราศจากพยานหลักฐาน เพื่อยืนยันว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นความจริง

ส่วนส่วนข้อมูล ที่มีการนำเสนอ ว่า ผู้สมัคร สว. "...ใส่สูท เสื้อในเชิ้ตขาว อย่างพร้อมเพรียง ราวกับถ่ายจากร้านเดียวกัน..." ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดมุกดาหาร ได้ไปตรวจสอบ ณ ร้านกอไก่สตูดิโอแล้ว ปรากฏว่า ผู้สมัคร สว. อำเภอคำชะอี กลุ่มที่ 14 มีการถ่ายรูป ณ ร้านดังกล่าวจริง และนำรูปถ่ายมาใช้ในการสมัคร สว. จริง โดยยังไม่ปรากฏว่า ผู้สมัคร สว. กลุ่มดังกล่าว ร่วมกันหรือมีพฤติการณ์ ที่กระทำความผิดตามกฎหมาย แต่อย่างใด

กกต. ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ทำการตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของผู้สมัคร สว. ทุกราย หากปรากฏว่า ผู้สมัคร สว. ผู้หนึ่งผู้ใด กระทำความผิด หรือมีผู้แจ้งเบาะแส พร้อมพยานหลักฐานว่า ผู้สมัคร สว. กระทำความผิด กกต. จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉียบพลัน

นอกจากนี้ กกต. ประกาศรางวัลนำจับ โดย เชิญชวนประชาชน มีส่วนร่วม ในการตรวจสอบการเลือก สว. ด้วยการ ชี้เบาะแสการกระทำการอันไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือก สว. สามารถแจ้งผ่านช่องทางได้ 4 ช่องทาง คือ

1. ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด

2. กกต.ประจำจังหวัด

3. เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่

และ 4. แอปพลิเคชันตาสับปะรด

ซึ่งผู้ชี้เบาะแสมีสิทธิได้รับเงิน รางวัลตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท ตาม ระเบียบ กกต.

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WOg1RXttVVI