สรุปข่าว
เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 28 พ.ค.67 ถก ครม.เศรษฐกิจนัดแรก-แท็กซี่เก็บทอง49บาทได้-ยูทูบเบอร์ขับรถหรูลงชายหาด
โดย thichaphat_d
28 พ.ค. 2567
32 views
1.รวบลุงขับแท็กซี่เก็บทอง 49 บาทได้ เอาไปขายแล้ว 2 บาท
2.รวบสาวเพื่อนบ้านแอบขโมยเงินยายวัย 80 ปี กล้องวงจรปิดมัดตัว
3.จ่อหมายจับคนร้ายฆ่าหนุ่มใหญ่หมกคอนโดฯ หรู
4.ฆาตกรเหี้ยม ตัดสายไฟช็อตตาวัย 88 ดับ
5.สวดยับ ยูทูบเบอร์ทำคอนเทนต์ขับรถไฟฟ้าหรูลงชายหาด
6.ยื่นสอบวินัยบิ๊กกระทรวงเกษตรฯ ร่วมวงสวิงกิ้งแหกกฎ
7.ศาลอาญาให้ประกัน ตะวัน คดีขบวนเสด็จ ส่วน สส.ลูกเกด ได้ประกันตัว
เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง
-นายกฯ ถก ครม.เศรษฐกิจนัดแรก - ผู้ว่าฯธปท. ร่วมวง
เริ่มที่นายกรัฐมนตรี เมื่อวานได้นัดประชุมครม.เศรษฐกิจนัดแรก ระดมความเห็น แก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศที่โตช้า โดยผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งบรรยากาศก็ชื่นมื่น มีความเห็นตรงกันกับรัฐบาล ว่าต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา
เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครม.เศรษฐกิจ นัดแรก ก็มีรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วย
โดยนายกฯ เศรษฐา ได้เริ่มต้นกล่าวทักทายผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง ครม. และผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ว่า ตามที่ทราบกันดีว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าประมาณการมาก เศรษฐกิจโลกโตช้า กำลังซื้ออ่อนตัว ก็บอกว่า วันนี้จะมาคุยในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร จึงเป็นที่มาของการประชุมครม.เศรษฐกิจ ขอให้ทุกคนใช้เวทีนี้ระดมความคิดเห็นไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
หลังใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง นายพิชัย ชุณวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำแถลงผลการประชุม
ที่น่าสนใจ ก็บอกว่ารัฐบาลและผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เห็นตรงกันว่า จำเป็นมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้วินัยการเงินการคลัง และหลังจากนี้ธนาคารของภาครัฐจะมีโครงการอีกจำนวนมากเพื่อให้คนหลุดจากสภาพหนี้ที่ติดอยู่ได้ ซึ่งจะมีมาตรการเสริมเข้าไป เพื่อให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้
นายพิชัย ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าอะไรที่ทำได้ ก็ทำเลยและให้มารายงานความคืบหน้าใน 2 สัปดาห์ ซึ่งการประชุมได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และมองภาพตรงกัน
- มติเอกฉันท์! กกต. ไม่อุทธรณ์ คำพิพากษาศาลปกครองกลาง
เมื่อวานนี้ กกต. มีมติเอกฉันท์ ไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง กรณีเพิกถอน ระเบียบการแนะนำตัวของผู้สมัครบางข้อ
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุม คณะกรรมการ กกต.ว่า ที่ประชุม วันนี้ ได้พิจารณา คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่พิพากษาเพิกถอนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัว ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในบางข้อ โดยมีความเห็น 4 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1 กกต.เห็นว่า กระบวนการเลือก สว. ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ หากมีการอุทธรณ์ กว่าคดีจะถึงที่สุดก็จะพ้นระยะเวลาในการประกาศผลเลือก สว. ไปแล้ว ไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นเช่นไร ก็ไม่เกิดประโยชน์ แก่การเลือก สว.
ประเด็นที่ 2 เมื่อพิจารณาคำพิพากษาศาลปกครองกลางดังกล่าว พบว่าคำพิพากษาเป็นการขยายสิทธิ ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเลือก สว. มากขึ้น และไม่ได้กระทบต่อสาระสำคัญ ในการแนะนำตัว ของ สว. แต่ประการใด
ประเด็นที่ 3 กกต. เร่งให้เกิดความชัดเจนในการแนะนำตัว วันเริ่มแนะนำตัว หลังมีคำพิพากษาที่ถูกต้องให้เร็วที่สุด และความชัดในแนวทางปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ ของผู้สมัคร ในการแนะนำตัว และเงื่อนไขการจะเข้ามามีส่วนร่วม ของประชาชน
ประเด็นที่ 4 เพื่อให้ประโยชน์ ในการเลือก สว. เป็นไปด้วยความ เรียบร้อยและเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ที่ประชาชนจะได้ สว. ตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ คือ ต้นเดือน ก.ค.นี้
กกต.พิจารณาแล้ว จึงไม่เห็นสมควร อุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ และจะไม่มีการแก้ไขระเบียบใดๆ โดยผู้สมัครสามารถแนะนำตัวได้ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัว ทั้งฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2 ในข้อที่ศาลไม่ได้มีคำพิพากษาเพิกถอน
ส่วนกรณี ที่มีอำเภอ 7 อำเภอ มีผู้สมัครเพียงกลุ่มเดียว นั้น เลขา กกต. เเปิดผเผยว่า จากเดิม ที่อาจจะให้ผ่านไปในรอบ ระดับจังหวัดได้นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้แล้ว เนื่องจากข้อกฎหมายกำหนดชัดว่า จะจ้องผ่านการเลือก ไขว์ในรอบที่ 2 ดังนั้นเมื่อมีผู้สมัครเพียงกลุ่มเดียวไม่สามารถเลือกไขว้ได้ ก็ต้องตกไป
ซึ่ง 7 อำเภอ มีผู้สมัคร 1 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. อำเภอเมืองยาง จ.นครราชสีมา
2. อำเภอสามชัย จ.กาฬสินธุ์
3. อำเภอแม่จริม จ. น่าน
4. อำเภอนาน้อย จ.น่าน
5. อำเภอเชียงกลาง จ.น่าน
6. อำเภอปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร
7. อำเภออุ้มผาง จ.ตาก
-นายกฯ เคารพผลโพลตามหลังก้าวไกล ไม่อยากอ้างปัญหางบ 67
เรื่องผลโพลสถาบันพระปกเกล้า พรรคก้าวไกล ยังคงนำ พรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี พูดถึงผลโพลบอกว่า ต้องเคารพกับความเห็นของประชาชนส่วนตัวไม่อยากจะอ้างเรื่องงบประมาณปี67 ที่เพิ่งจะออกมาใช้
ด้านรองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย บอกว่าผลโพลเป็นการรวบรวมวิธีคิดแสดงความเห็น เป็นเรื่องที่น่าอุทธรณ์ เพราะ ถ้าฟังอาจารย์สติธร ธนานิติโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ในฐานะผู้จัดทำผลสำรวจ ก็บอกว่าไม่มีนัยยะสำคัญอะไร เป็นช่วงที่เพิ่งเริ่มทำงานต้องดูกันต่อไป ซึ่งรัฐบาลตอนนี้ก็ดูตัวเองและทำงานกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้านั่งดูแต่โพล ซึ่งโพลมีหลายสำนักไม่รู้จะเชื่อใครดี สถาบันพระปกเกล้า / หรือ นิด้า / หรือสถาบันภาคอีสาน ก็เหมือนกัน ดังนั้นอย่าใส่ใจเรื่องนี้เลย ทำงานดีกว่า
ส่วนผลโพลที่ออกมาจะทำให้พรรคเพื่อไทยทำงานหนักมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ คุณภูมิธรรมบอกว่าเราทำงานหนักของเราอยู่แล้ว และปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลา
-ธนาธร ชี้โพลก้าวไกลคะแนนพุ่ง แต่ยังไม่พอ ลั่นต้องได้เกิน 250
ขณะที่นายธนาธร เมื่อวานถูกถามเรื่องนี้ ก็บอกว่าพอใจผลโพล ที่คะแนนนิยมพรรคก้าวไกลเพิ่มมากขึ้น แต่ "ยังไม่เพียงพอ" โดยย้ำเลือกตั้งอีก 3 ปี ต้องทำงานให้หนัก เพื่อให้ได้เกิน 250 เสียง
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้ความเห็นต่อผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสถาบันพระปกเกล้า ที่สะท้อนว่าผ่านมา 1 ปีหลังการเลือกตั้ง คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลเพิ่มมากขึ้น และอาจนำมาสู่ที่นั่ง สส. มากกว่า 200 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ก็บอกว่า แม้ผลออกมาจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะจะเพียงพอหมายถึง ต้องได้ 250 เสียง โดยย้ำเหลือเวลาอีก 3 ปี ฝากให้พรรคก้าวไกลต้องทำงานหนักเพื่อประชาชน
“เพราะเมื่อวันเลือกตั้งมาถึง เราจะได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ ทำนโยบายของพวกเราให้เป็นจริง”
ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่าผลโพลที่ออกมา ถือเป็นกำลังใจ แต่ไม่ประมาท และหวังเป้าหมายสส.ในรอบหน้าเกิน 200 ที่นั่ง เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรรคก้าวไกล ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
“แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้นได้ ต้องทำงาน เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนไว้วางใจและเชื่อมั่นอีกเยอะ"
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1QNG6MVtSUk
แท็กที่เกี่ยวข้อง เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง ,เรื่องเล่าการเมือง ,ข่าวการเมือง ,สรุปข่าว