เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 24 พ.ค.67 ศาลรธน.รับคำร้องยื่นถอดเศรษฐา-เด็กวัดสวนแก้วดับ3ศพ-ถังออกซิเจนระเบิดร่างขาด2ท่อน

1.ไฟไหม้กุฏิวัดสวนแก้ว เด็กวัดดับ 3 ศพ

2.พระพยอมยืนยัน ไม่มีใครล็อกประตูกุฏิ ไฟคลอกเด็กวัด

3.ถังออกซิเจนระเบิด อัดร่างคนงานขาด 2 ท่อนดับสลด

4.กระบะขนยาบ้า พุ่งชนรถนักเรียน เจ็บ 18 ราย ตาย 2

5.ฝนตกหนัก น้ำพัดรถจมน้ำ แม่ลูกรอดชีวิตหวุดหวิด

6.สำนักพุทธฯ ลุยรวบรวมหลักฐาน เตรียมดำเนินคดีเชื่อมจิต

7.หญิงโดนแก๊งคอลฯ ตุ๋นเงิน เครียดปลิดชีพพร้อมสุนัขคู่ใจ



เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา ระทึก! ศาลรธน.รับคำร้อง แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

เริ่มที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้มีมติรับคำร้อง 40 สว.ยื่นคำร้องให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี ของนายกฯ เศรษฐา กรณีการตั้ง นายพิชิตเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ให้รับคำร้องกรณี 40 สว. เข้าชื่อร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้ถูกร้องที่ 1 จากกรณีการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี และให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลฯภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

และมีมติ 8 ต่อ 1 ไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของคุณพิชิต ผู้ถูกร้องที่ 2 ไว้พิจารณา เนื่องจากได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องวินิจฉัยคดีต่อไป

ซึ่งในเอกสารแถลงข่าวของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการแจ้งรายชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ลงมติด้วย ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่ศาลรัฐธรรมนูญใส่รายชื่อตุลาการฯในเอกสารข่าวด้วย จากปกติจะใส่เพียงมติเท่านั้น

โดยระบุว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย ในมติรับคำร้องนายกฯ 3 คน คือ

-นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์

-นายอุดม รัฐอมฤต

-และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ

และอีกประเด็นที่สำคัญในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ คือ มติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 คือ นายเศรษฐา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย 4 คน คือ

-นายปัญญา อุดชาชน

-นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม

-นายวิรุฬห์ แสงเทียน

-และนายจิรนิติ หะวานนท์



-นายกฯ พร้อมแจงศาล ปมพิชิต ยันไม่กระทบการทำหน้าที่

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนประเทศญี่ปุ่น ก็รับทราบคำสั่งศาลแล้ว พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเดินหน้าชี้แจง ตามที่ศาลให้เวลาภายใน 15วัน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเข้าสู่เวทีการเมืองก็ต้องตรวจสอบได้ และเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย หากฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายตุลาการมีความข้องใจ ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะต้องไปชี้แจง

ส่วน สว.ที่ไปร้อง จะเป็นเพราะต้องการต่อรองเล่นเกมอะไรหรือไม่ นั้น นายกรัฐมนตรี บอกว่า ตนไม่อยากจะคิดลบเพราะการตรวจสอบ เป็นหน้าที่ของ สว.ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เชื่อว่า สว. มีความปรารถนาดี ต่อประเทศชาติ ต้องการให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความโปร่งใส

แต่อย่างไรก็ตาม การที่ตนเข้ามาสู่การเมือง จะทำให้ถูกใจทุกคนก็เป็นไปได้ แต่ก็ขอให้มั่นใจ ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของตน จะยึดมั่นกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

และยืนยันด้วยว่า ตนพร้อมตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง กับสถานการณ์ทางการเมืองต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น จนถึงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมทุกวัน มีภารกิจที่ต้องทำ มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบกับการกระทำ ดังนั้นจึงขอยืนยันความตั้งใจจริง และไม่ท้อถอย เป็นธรรมดาที่จะต้องเจอเรื่องแบบนี้ ทำได้อยู่แล้ว



-โรม สงสัยนายกฯ โดนวางยาหรือไม่ปมเสนอชื่อพิชิต เป็น รมต.

ทางด้าน สส.พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม ก็แสดงความเห็น ถึงคดีของนายกรัฐมนตรี โดยตั้งคำถามว่า....ท่านนายกฯ โดนวางยาหรือไม่ เพราะน่าจะรู้อยู่แล้วว่าการตั้งนายพิชิต เป็นรัฐมนตรีนั่นมีความเสี่ยง

สส.รังสิมันต์ โรม มองว่า กรณีของนายพิชิต สังคมรับรู้โดยทั่วกันว่ามีปัญหาเรื่องถุงขนม 2 ล้านบาท จนถูกเพิกถอนใบอนุญาตทนายความ และเคยถูกพิพากษาจำคุก 6 เดือน ทำให้มีปัญหาทางจริยธรรมแน่นอน ตนรู้สึกแปลกใจ ว่า คนของเพื่อไทยมีหลายคน แต่ทำไม นายกฯ ถึงเลือกที่จะตั้งนายพิชิต เข้ามาเป็นรัฐมนตรี

ส่วน มติของศาลเสียงข้างมาก 5 : 4 เสียง ที่ไม่สั่งให้นายกฯเศรษฐาหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น สส.โรม มองว่า มติที่ออกมาเสียงมีความปริ่มอยู่ สะท้อนว่าศาลรัฐธรรมนูญเองก็ไม่เป็นเอกภาพ แต่ต้องรอดูรายละเอียด ซึ่งรอบนี้มีการเปิดเผยชื่อตุลาการด้วย ถือ เป็นแนวทางที่ไม่เหมือนรอบอื่นๆ ส่วนตัวไม่เข้าใจเหมือนกัน จึงตอบไม่ได้ว่า คดีนี้จะมีรายละเอียดที่ต่างจากกรณีอื่นๆมากน้อยแค่ไหน

ขณะที่ผลกระทบต่อรัฐบาลนั้น สส.โรม เชื่อว่า หลายฝ่ายคงสูญเสียความเชื่อมั่นพอสมควร มันมีคดีที่ปักหลังเอาไว้ในศาลรัฐธรรมนูญคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับรัฐบาลนี้ และปัญหานี้คงจะเกิดความไม่แน่นอนต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะไม่รู้ว่าสุดท้ายเรื่องนี้จะออกหัวหรือก้อย



-ภูมิธรรม ลั่นไม่มีใครวางยานายกฯ ปมพิชิต ปัดคิดแผน 2 ดันอุ๊งอิ๊ง

กรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ระบุนายกฯ อาจถูกวางยาหรือไม่กรณีการตั้งนายพิชิต เมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย ก็โต้กลับทันที ยืนยันว่าไม่มีใครวางยาใคร และไม่ได้คิดเรื่องแผนสำรอง ในการดันอุ๊งอิ๊ง เป็นนายกรัฐมนตรีแทน เพราะไม่อยากคิดอะไรที่เป็นเรื่องร้าย

เมื่อวานนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต เป็นรัฐมนตรี เพราะไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา ขณะที่ตัวนายกฯ ก็ไม่ได้กังวลใจ จึงไม่ได้ต่อสายมาถึงรัฐมนตรีหรือผู้เกี่ยวข้อง ก็ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้มีแผนสำรองกับเรื่องนี้

ช่วงนึงนักข่าวพยายามถาม ว่าได้มีการเตรียมชื่อของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไว้แล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า “ตรงนั้นเป็นเรื่องของกระบวนการ ผู้ที่เสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯมีจำนวนกี่คน อยู่ตรงไหนบ้าง ก็เป็นไปส่วนนั้น

เมื่อถามว่าหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น คนที่เป็นนายกฯคนต่อไปจะต้องเป็นคนของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม บอกว่า “ไม่อยากคิดอะไรที่เป็นเรื่องร้าย เพราะคิดมากแล้วปวดหัว”

นอกจากนี้ยังตอบโต้ นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ที่ตั้งข้อสังเกตว่านายกฯ ถูกวางยากรณีแต่งตั้งนายพิชิต หรือไม่ ก็ยืนยันว่า ไม่มีใครวางยาใครได้ ต้องเคารพในสติปัญญา และมีวุฒิภาวะของผู้รับผิดชอบ ก็ย้ำว่าอย่าไปคิดเยอะ


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/9DskHvkG_A8