สรุปข่าว
เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 พ.ค.67 เคาะวันรับสมัคร สว.-แจ้งความลัทธิเชื่อมจิต-นางแบบเอาผิดคนปล่อยคลิปลับ
14 พ.ค. 2567
38 views
1.ฝนถล่มกรุงน้ำท่วม ต้นไม้ล้ม รถติดหลายพื้นที่
2.พายุถล่มอุทัยธานี พัดต้นประดู่แฝดล้มทับเด็กวัย 3 ขวบ
3.ทนายกองทัพธรรม แจ้งความเอาผิดกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต ผิด พ.ร.บ.คอม-ฉ้อโกง
4.นางแบบ-เน็ตไอดอลสาว ร้องเอาผิดคนปล่อยคลิปลับ
5.รวบแล้ว 1 คนร้าย ร่วมกันฆ่าหนุ่มเกาหลียัดถังถ่วงน้ำ
6.มอบตัวแล้ว มือยิงดาบสกลกับเมียสาวท้อง 6 เดือน
7.ส่อวุ่น สภาหอการค้าผนึก 94 สมาคมฯ ยื่นหนังสือค้านค่าแรง 400 บาท
เรื่องเล่าการเมือง
-กกต.รับสมัคร สว. 20-24 พ.ค.นี้ เตือนต้องมีคุณสมบัติถูกต้อง
ความชัดเจนแล้ว สำหรับวันรับสมัคร สว. เมื่อวานนี้ คณะกรรมการ กกต. มีมติกำหนด วันรับสมัคร สว. อย่างเป็นทางการ และกำหนดวันเลือกกันเองในแต่ละระดับแล้ว
โดย กกต. กำหนด วันรับสมัคร เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ กกต. วางไว้คือ วันที่ 20 - 24 พ.ค. นี้ ( ระยะเวลา 5 วัน) สามารถได้ที่ สถานที่ ที่ ผอ.การเลือกระดับอำเภอกำหนด (ส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่ สนงเขต / ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ) ตั้งแต่เวลา 08.30น. - 16.30น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ซึ่ง การเลือก สว. ครั้งนี้ อย่างที่ทราบ เป็นรูปแบบ เลือกกันเองของผู้สมัคร ใน 3 ระดับ โดย กกต. กำหนดวันเลือก
- ระดับอำเภอ คือวันที่ 9 มิ.ย. 67
- ระดับจังหวัด วันที่ 16 มิ.ย. 67
- และ ระดับประเทศ วันที่ 26 มิ.ย.67
คาดว่าจะประกาศผลได้ วันที่ 2 ก.ค.67
สำหรับผู้สนใจสมัคร ต้องมีคุณคุณสมบัติครบถ้วน อาทิ
-มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี
-มีความประสบการณ์ในกลุ่มอาชีพที่สมัคร ไม่น้อยกว่า 10ปี
-ต้องไม่เป็นข้าราชการ
-คนที่เป็นนักการเมือง เคยมีตำแหน่งในพรรค เป็น สส. หรือรัฐมนตรี เว้นวรรคทางการเมือง หรือแม้แต่ตำแหน่งการเมืองระดับท้องถิ่น จะต้องเว้นวรรคไม่ดำรงตำแหน่ง มาไม่น้อยกว่า 5ปี และต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง
-ย้ำถ้าไม่มีคุณสมบัติ แต่ยังฝ่าฝืนลงสมัคร โทษจำคุกสูงสุด10ปี ปรับถึง 2แสนบาท และตัดสิทธิเลือกตั้งถึง 20ปี
ทั้งนี้ สำนักงาน กกต. เปิดเผยยอดผู้แสดงความสนใจไปขอรับใบสมัคร สว. ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10-13 พฤษภาคม เมื่อวานนี้ มีผู้สนใจขอใบสมัครแล้ว 9,833 คน
ขณะที่ในวันนี้ เลขาธิการ กกต. นายแสวง บุญมี มีกำหนดนัดพบสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงไขข้อสงสัย ประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการเลือก สว. ทั้งหมด เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปตามกรอบของ กฎหมาย ซึ่งจะจัดขึ้นที่ สำนักงาน กกต. เวลา 13.30น.
-นายกฯ ลุยเมืองเพชร หนุนกีฬาวัวลาน-ชงเปลี่ยนชื่อสนามบิน “เพชร-หัวหิน”
ความเคลื่อนไหวของท่านนายกฯ เมื่อวานนี้ลงพื้นที่ก่อนประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดเพชรบุรีวันนี้ ก็โปรยยาหอม ทั้งการหนุนกีฬาวัวลาน - วัวเทียมไถ ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านเมืองเพชร รวมถึงเสนอเปลี่ยนชื่อจากสนามบินหัวหิน เป็นสนามบิน “เพชร-หัวหิน” เพื่อช่วยขยายการท่องเที่ยวสู่เพชรบุรีให้มากขึ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพชรบุรี ซึ่งเป็นจังหวัด “บุรีสุดท้าย” กับการทัวร์ 4 บุรี ไล่มาตั้งแต่ (สุพรรณุบรี-กาญจนบุรี-ราชบุรี)
ช่วงเช้า ไปเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็สั่งการให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และท้องถิ่นทั่วประเทศ นำรูปแบบเทคโนโลยีพัฒนาสิ่งแวดล้อม มาปรับใช้เพื่อลดต้นทุนการบำบัดน้ำเสีย
ก่อนได้ร่วมปลูกป่าชายเลน โดยท่านนายกฯ บอกกับนักข่าวว่า ได้ปลูกต้นโกงกางใบใหญ่ ซึ่งอัตราการตายไม่มี แสดงว่าการปลูกรอดทุกต้น ส่วนที่ปลูกทั้งกระถางนั้น สานมาจากต้นไผ่ สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ
จากนั้น นายกฯ ไปตรวจเยี่ยมการพัฒนาสนามบิน เพื่อรองรับ International Flights ที่ ท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะมีขยายรันเวย์ให้กว้างขึ้น และรองรับเครื่องบินที่มาจากต่างประเทศ
ช่วงนึง ท่านนายกฯเสนอไอเดีย เปลี่ยนชื่อจากท่าอากาศยานหัวหิน เป็นท่าอากาศยาน "เพชร-หัวหิน" เพื่อช่วยขยายการท่องเที่ยว และการเจริญเติบโตของเมืองไปยังจังหวัดเพชรบุรีด้วย
และอีกไฮไลต์ คือช่วงเย็น ท่านนายกฯ สวมเสื้อลายตาลโตนดและวัวลาน-วัวเทียมไถ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ จ.เพชรบุรี มาชมการแสดงการสาธิตการแข่งขันกีฬาวัวลาน - วัวเทียมไถ ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านที่ได้รับความนิยม ที่ อ.บ้านลาด
ก็บอกว่า พร้อมสนับสนุนให้มีการแข่งขันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้กระทรวงมหาดไทยแก้กฎกระทรวงภายใน 1 เดือน รวมทั้งสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โฆษณาไปต่างประเทศ เชิญชวนให้มาเที่ยวจังหวัดแถบนี้ให้มากขึ้น
-ภูมิธรรม ฟาดคนวิจารณ์ “ข้าว10 ปี” อย่าใช้อคติ นำความจริง
ส่วนเรื่องข้าว 10 ปีในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งยังมีเสียงวิจารณ์เรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย เมื่อวานนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ก็ออกมาโพสต์ตอบโต้ว่า ขออย่าใช้อคติ และจินตนาการ ชี้นำความจริง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เริ่มด้วยการบอกว่า ใช้ข้อมูลและความรู้วิจารณ์ "ข้าว 10 ปี" เพื่อประโยชน์ของประเทศ ดีกว่าใช้จินตนาการนำความจริง
ก่อนอธิบายยาวเหยียด ว่า จากรายงานข่าวที่มีผู้กล่าวอ้างว่า ได้ทำการตรวจสอบข้าวสารในโกดังโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะนำออกประมูลขายและอ้างว่าตรวจพบ สารก่อมะเร็ง
ข้อเท็จจริงจากอดีตถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีรายงานจากการวิเคราะห์วิจัยว่าการเก็บข้าว และจำนวนปีการเก็บข้าวทำให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากมีการเก็บรักษาที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
กรณี "สารก่อมะเร็ง" ที่มีการอ้างถึงนี้ส่วนใหญ่ จะพบในรำข้าวที่เกาะอยู่ในเมล็ดข้าวโดยยังไม่ได้มีการปรับปรุง หากมีการปรับปรุงเเละขัดสีแล้ว สารตัวนี้จะมีปริมาณลดลงกว่านี้มาก จนอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยต่อการบริโภค
นายภูมิธรรม ระบุว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เจตนาตนเพียงต้องการนำเอาข้าวที่ตกค้างอยู่ในสต็อก 2 โกดังสุดท้ายออกมาประมูลเพื่อนำรายได้กลับคืนคลัง ดีกว่าปล่อยให้ค้างเน่าเสีย (จริงๆ) จนไม่มีราคา
ก็บอกว่า เสียใจที่การตั้งใจสะสางปัญหาที่คั่งค้างอยู่อย่างโปร่งใส เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ กลับถูกแปรเจตนาเป็นอื่น
นายภูมิธรรม ทิ้งท้ายว่า “เรื่องข้าว 10 ปี หากวิพากษ์วิจารณ์ โดยมี "อคติทางการเมือง" และ "จินตนาการ" มาชี้นำ"ความจริง" จนกลายเป็นการด้อยค่าข้าวไทย จนทำให้ประเทศเสียประโยชน์ ตนเชื่อมั่นว่าทุกคนไม่อยากเห็นการสร้างวาทกรรมเปลี่ยนข้าวดีเป็นข้าวเน่า ทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาลอย่างที่แล้วมา”
ขณะที่หน่วยงานของรัฐ ที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มาตรวจสอบคุณภาพข้าว 10 ปี คือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อวานนี้นักข่าวไปถามคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ได้ประสานส่งตัวอย่างมา แต่หากร้องขอ ก็พร้อมที่จะตรวจสอบให้
ก็ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องทำให้เป็นวิทยาศาสตร์ ใช้ข้าวจากแหล่งที่เดียวกันมาตรวจโดยแล็บที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่แอบเก็บตัวอย่างจากที่ต่างๆ มาโดยไม่มีหลักฐาน
-เปิดหนังสือลาออก “กฤษฎา” ทิ้งบอม ซัด “พิชัย” ไม่ให้เกียรติ ทำงานร่วมไม่ได้
ส่วนการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยคลัง ของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เมื่อวานนี้มีหนังสือหลุดว่อน และระบุเหตุผลการลาออก ว่ารัฐมนตรีคลังคนใหม่ ไม่ให้เกียรติ จึงไม่สามารถทำงานร่วมได้
นี่เป็นหนังสือ ขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ที่ส่งถึง นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2567
เนื้อหาระบุเหตุผลลาออกว่า โดยที่ในช่วงที่ผ่านมา กระผมได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในการกำกับดูแลภารกิจของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้นมอบหมาย อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งสามารถผลักดันการแก้ไขปัญหาภาระ หนี้สินของประชาชน การฟื้นฟูดูแลผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 มีความคืบหน้าอย่างมีรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะอดีตข้าราชการของกระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ซึ่งกระผมขอขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้โอกาสและสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีแนวคิดในการทำงานที่แตกต่างกัน รวมทั้งการไม่ให้เกียรติต่อกันในการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม กระผมจึงเห็นว่า คงไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ
นอกจากนี้ ยังมีการหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ของคุณกฤษฎา ด้วย โดยหนังสือ ลงวันที่ 10 พฤษภาคม ระบุในหนังสือเพียง มีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม เป็นต้นไป แต่ไม่ได้ระบุเหตุผล
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/DTOXQuj3tZs
แท็กที่เกี่ยวข้อง เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง ,เรื่องเล่าการเมือง ,สรุปข่าว ,ข่าวการเมือง