สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 21 มี.ค.67 นายกฯสั่งเด้ง 2 บิ๊ก ต่อ-โจ๊ก / ยกฟ้องใบเตยคดีฟอเร็กซ์ / คุกครูปรีชาคดีฟ้องเท็จ

โดย thichaphat_d

21 มี.ค. 2567

52 views

1.เศรษฐาสั่งเด้ง 2 บิ๊ก “ต่อ-โจ๊ก” ช่วยราชการสำนักนายกฯ

ศึกสีกากี เดือดถึงขีดสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 60 วัน และมอบหมายให้พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ยันทั้ง 2 บิ๊กยังเป็นผู้บริสุทธิ์ หากผลสอบไม่ผิดพร้อมคืนตำแหน่งให้ รับมีความลำบากใจ และไม่สบายใจที่จะทำแบบนี้ แต่ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องเอาผู้ที่มีความขัดแย้งออกไปจากระบบก่อน เพื่อให้กระบวนการเดินไปได้ 

2. บิ๊กต่อแถลงย้ำไม่เคยขัดแย้งกัน แต่โซเชียลปั่นกระแส

2 บิ๊กควงคู่แถลงข่าวที่ห้องสื่อมวลชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บิ๊กต่อเผยโทรเชิญบิ๊กโจ๊กไปพบนายกฯ แจงคดีที่เกี่ยวกับบิ๊กโจ๊ก จะถูกส่งไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ เพื่อความความยุติธรรม และไม่เกิดภาพของความขัดแย้งขึ้นอีก เพราะภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจาก 2 คน แต่เกิดขึ้นจาก Social Media ที่ผ่านมาไม่เคยเตะตัดขาบิ๊กโจ๊ก ไม่ให้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. 

ด้านบิ๊กโจ๊ก รับ ผบ.ตร. พาไปพบนายกฯ จริง เพราะมีแนวคิดที่จะยุติความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ วันนี้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ย้ำทุกคนมีแนวคิดเดียวกัน คือ เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน การเปิดแถลงข่าววันนี้ จึงถือเป็นสัญญาณแรกที่จะคืนความสุข ความสามัคคีในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ฤกษ์ set Zero ใหม่ จากนี้จะไปกินข้าวด้วยกันตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ ผบ.ตร.ไปกินไหน เดี๋ยวบิ๊กโจ๊กตามไปกินด้วย 

3. 2 บิ๊ก ยืนยัน ไม่มีตำรวจการละคร

ช่วงที่ใกล้จบการแถลงข่าว สื่อมวลชนพยายามให้ทั้ง “2 บิ๊ก” ทำท่ารักกัน แต่ ผบ.ตร. บอกว่า ไม่ทำ เพราะไม่ได้ขัดแย้งกัน สื่อเลยขอให้ทำท่าสบตากัน “บิ๊กโจ๊ก” หันไปมองตา ผบ.ตร. แต่ “บิ๊กต่อ” หัวเราะ ไม่ได้สบตาด้วย นักข่าวถามย้ำว่า การแถลงข่าววันนี้ ไม่ใช่ “ตร.การละคร” ใช่ไหม บิ๊กโจ๊กบอกไม่ละคร ไม่มีอีเว้นท์

หลังจบการแถลงข่าว ทั้งคู่ก็ยืนขึ้นหลังโต๊ะแล้ว “บิ๊กโจ๊ก” แสดงความเคารพ โดยการยกมือไหว้ และโค้งคำนับ ก่อนจะไปยืนชิด “บิ๊กต่อ” ให้สื่อเก็บภาพ

ด้าน “รองต่าย” พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รับคำสั่งนายกฯ ตั้งให้ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเรื่องจริง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และวันนี้ นายกฯจะเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมให้นโยบายในการปฏิบัติหน้าที่

4. “บิ๊กต่อ – บิ๊กโจ๊ก” น้อมรับคำสั่งช่วยราชการสำนักนายกฯ

“บิ๊กต่อ” น้อมรับคำสั่ง นายกฯ รับสาเหตุเกิดจากไม่สามารถบริหารความขัดแย้งใน ตร.ได้ มอง “รองต่าย” ดูแลต่อ ส่วนตัวยืนยัน ยังเป็น ผบ.ตร. อยู่แต่ไปช่วยราชการเฉยๆ และ ในหนังสือคำสั่งไม่มีการระบุถึงความขัดแย้งจนนำไปสู่การย้าย ส่วนจะกลับมาได้ภายใน 194 วันหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ แต่ก็ยินดีหากต้องเกษียณอายุราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และไม่ได้กังวลอะไร เผย “คนเรามาเพื่อจาก จะกลับหรือไม่กลับ พี่ก็เป็นผบ.ตร.คนที่ 14”

ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” น้อมรับคำสั่งช่วยราชการสำนักนายกฯ รอบ 2 ยันไม่กังวลหรือโดดเดี่ยว พร้อมทำงานทุกสถานการณ์ แต่ไม่ทราบมูลเหตุโยกย้าย ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่จะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างตนเองกับ “บิ๊กต่อ” หรือไม่นั้น ไม่ยืนยัน เนื่องจากการประชุมร่วมกันตอนเช้า ก็ไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ใดๆ สื่อถาม “ฉายาแมวเก้าชีวิต” ตอนนี้เหลือกี่ชีวิต บิ๊กโจ๊กหัวเราะและตอบว่า “ไม่หรอกครับ” 


5. คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา “ครูปรีชา” ฟ้องเท็จ “หมวดจรูญ” ยักยอกหวย 30 ล้าน

“ครูปรีชา” ไม่รอด ศาลจังหวัดกาญจนบุรี สั่งจำคุก 3 ปี คดีร่วมกันฟ้องเท็จ กล่าวหา “หมวดจรูญ” ยักยอกหวย 30 ล้าน แต่คำให้การบางส่วนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษเหลือ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ก่อนยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 7 หมื่น 5 พันบาท ลุยยื่นอุทธรณ์สู้คดี ยันไม่ได้ฟ้องเท็จตามที่ถูกกล่าวหา และ ยังเชื่อว่าลอตเตอรี 30 ล้านบาทเป็นของตัวเอง

ด้าน ทนายตั้ม พร้อมหมวดจรูญและภรรยา ขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม หลังจากถูกครูปรีชาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องมาหลายคดี กระทั่งวันนี้ มีคำพิพากษาออกมา ทำให้ลุงจรูญและครอบครัวได้รับความเป็นธรรมในที่สุด

6. "ใบเตย" ร่ำไห้ดีใจ! ศาลยกฟ้อง คดีผู้เสียหาย Forex-3D ยื่นฟ้อง

ศาลพิพากษายกฟ้อง "ใบเตย สุธีวัน" ในคดีที่ 1 ในผู้เสียหายจากคดี Forex-3D ยื่นฟ้องส่วนบุคคล ให้เหตุผลพยานหลักฐานไม่เพียงพอ และแค่ผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น ส่วนอีกสำนวนที่อัยการเป็นโจทก์ ศาลนัดสืบพยาน ก.ค.นี้ ใบเตยและครอบครัวกราบขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม เตรียมนำคำพิพากษานี้ไปต่อสู้ในสำนวน DSI ขอบคุณผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงที่ให้โอกาส ส่วนสามี “ดีเจแมน” ยังมีกำลังใจดี ฝากความคิดถึงห่วงใยไปถึงลูกด้วย 

7. คุมตัว 328 นักพนันส่งฟ้องศาลแขวงนนทบุรี

ส่ง 328 นักพนันบ่อนบางใหญ่ขึ้นรถบัส ฟ้องศาลแขวงนนทบุรี หลายคนไม่สลดส่งเสียงโห่ฮาใส่นักข่าว ผู้การจังหวัดสั่งเด้ง 3 เสือโรงพักบางใหญ่ ส่วนอีก 2 ไม่โดนเพราะอยู่ในช่วงลาราชการ คนในพื้นที่ช็อกที่มีบ่อนใหญ่ใกล้บ้าน เข้าใจมาตลอดว่าเป็นค่ายมวย 



เรื่องเล่าการเมือง 

-เอกสารไม่ชัด! ศาล รธน. สั่ง กกต.ส่งเอกสารใหม่ คดียุบก้าวไกล


เริ่มที่ความคืบหน้าคดียุบพรรคของพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่สั่งรับคำร้องของ กกต. หลังพบเอกสารบางรายการไม่ชัดเจน โดยขอให้ส่งมาใหม่ภายใน 7 วัน

เมื่อวานนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงกรณีคำร้องของ กกต. ได้ยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค กรณีการเสนอแก้ไขมาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

โดยศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องของกกต. ยังมีเอกสารบางรายการไม่ชัดเจน จึงขอให้ส่งเอกสารฉบับที่ชัดเจนต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในกำหนดระยะเวลา 7 วันนับแต่วันได้รับหนังสือ

ขณะที่อีกด้าน ต้องบอกว่าพรรคเพื่อไทยได้เฮ โดย ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณคำร้อง ของคุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ขอให้วินิจฉัย การกระทำของพรรคเพื่อไทย ตามคำแถลงการณ์ของคุณชัยเกษม นิติสิริ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า นายชัยเกษม ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค และไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนพรรคเพื่อไทย และ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นได้ว่า ผู้ถูกร้องมีความมุ่งหมายหรือการกระทำใดๆ เพื่อล้มล้างการปกครอง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา


-เรืองไกร งง ศาลไม่รับคำร้องคดีเพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทันทีที่ทราบคำสั่งศาล เจ้าตัว บอกว่า อ้าวทำไมพรรคก้าวไกลโดนล่ะ และบอกว่าแปลกใจ เพราะคดียังไม่มีการไต่สวนข้อเท็จจริง

นายเรืองไกร พูดถึงประเด็นที่ ศาลเห็นว่า คุณชัยเกษม ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคและไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนพรรคเพื่อไทย โดยชี้ว่า ประเด็นดังกล่าว พรรคก้าวไกลก็ต่อสู้เช่นกันว่า สส. 44 คน ที่เสนอร่างกฎหมาย แก้มาตรา 112 ไม่ใช่ในนามพรรค ต่างจากกรณี แถลงการณ์ของนายชัยเกษม ที่มีการโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ของพรรคชัดเจน ไม่ต่างกับ กรณีของคพิธา ที่ไปติดสติ๊กเกอร์ยกเลิก

นายเรืองไกร บอกด้วยว่า คดีนี้ ตนเองเพิ่งจะไปให้ถ้อยคำกับอัยการสูงสุดมาเมื่อ 18 มี.ค. เพราะไปร้องไว้ สองทาง คือร้องไปที่อัยการสูงสุด ก่อนจะไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในชั้นอัยการสูดสูง อัยการที่สอบก็บอกว่ามันเข้าข่าย แต่ฝั่งของศาลรัฐธรรมนูญกลับมีคำสั่งออกมาก่อน


-สภาถกงบวาระ 2 “เรืองไกร” ขอตัดงบสรรพากรปมคดีภาษี “ทักษิณ” พท. ประท้วงฉ่ำ

เมื่อวานนี้ สภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี67 รายมาตรา วาระที่2และ3 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท มีการปรับลด กระทรวงต่างๆรวมกว่า 9 พันล้านบาท ส่วนงบกลางได้รับการปรับเพิ่ม

โดยเมื่อวานนี้เป็นการพิจารณารายมาตราวาระที่สอง ที่ประชุมพิจารณาไปได้ 15 มาตรา โดยประมาณที่น่าสนใจอย่างเช่นงบกลาง 6.06 แสนล้านบาท ที่ประชุมเห็นชอบ ให้มีการปรับเพิ่ม ตาม กรรมาธิการเสียงข้างมาก เป็น 6.14 แสนล้านบาท

แม้จะมีความพยายามทักท้วง ของ สส.พรรคก้าวไกล ห่วงว่าจะเป็นการตีเช็คเปล่าให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการใช้จ่ายงบกลาง การอภิปรายเมื่อวานนี้เริ่มดุเดือดมากขึ้นในช่วงการพิจาณาางบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กรรมาธิการเสียงข้างมากปรับลดงบเหลือ 24,124 ล้าน บาท จากเดิม24,834 ล้านบาท

ช่วงหนึ่ง นายปรีติ เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคก้าวไกล อภิปรายเหตุผลในการปรับลดงบ ในส่วนรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่า มีรถประจำตำแหน่งอยู่แล้ว แต่ยังขอให้รัฐจัดหารถใหม่เพิ่มอีก มีค่าเช่าเดือนละ 136,500 บาท หรือ124ล้านบาทต่อปีมากกว่าเงินเดือนประจำตำแหน่งที่ได้รับ แม้นายกฯ จะบอกว่าบริจาคเงินเดือนให้มูลนิธิการกุศล แต่ก็ยังมาให้รัฐเสียเงินเช่ารถให้อีก

นอกจากนี้ยังมีงบฟุ่มเฟือยอย่างพรมทอมือขนแกะ 9 ผืน มูลค่า 10,557,200บาท เพื่อปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล จึงขอให้นึกถึงความเหมาะสมด้วย

บรรยากาศในสภาเมื่อวานนี้ มีการประท้วงกันมากในช่วงการอภิปรายของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หนึ่งกรรมาธิการ ที่ขอปรับลดงบของ กรมสรรพากร 45ล้านบาท

โดยยกเอาคดีประเมินภาษีการขายหุ้นให้บริษัทเทมาเส็ก ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นายทักษิณ ชนะคดี ฟ้องร้อง กับกรมสรรพากร โดยตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากล มำให้ สส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงจำนวนมาก


-ควายเผือก 18 ล้าน บุกทำเนียบ โชว์ตัวนายกฯ ดันซอฟต์พาวเวอร์

ส่วนสีสันการเมืองที่ถูกพูดถึงเมื่อวานนี้ ต้องยกให้ “เจ้าโก้ เมืองเพชร” ควายเผือก ราคา 18 ล้าน ที่มาโชว์ตัวกับนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาล ผลักดันควายไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ถึงในทำเนียบรัฐบาล

แต่บรรยากาศช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวาน ต้องบอกว่าทุลักทุเลพอสมควร เพราะมีฝนตกหนัก ทำให้ “เจ้าโก้ เมืองเพชร” ควายเผือกพันธุ์ยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อายุ 4 ปี 11 เดือน น้ำหนัก 1,500 กิโลกรัม มูลค่า 18 ล้านบาท ซึ่งทางสมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย นำมาโชว์ตัวกับคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลช่วยผลักดันควายไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ต้องเดินฝ่าสายฝน ก่อนจะซาลง 
ขณะที่นักข่าวเอง ก็ต้องลุยน้ำทำข่าวที่ท่วมขัง เพราะระบายไม่ทัน

ทันทีที่ท่านนายกฯ ได้เจอ เจ้าโก้ เมืองเพชร ก็ชมว่า "ไม่เคยทราบเลยว่ามีควายที่สวยขนาดนี้มาก่อน" พร้อมสนับสนุน ทั้งการจะนำ เจ้าโก้ เมืองเพชร และควายพันธุ์ยักษ์ 4-5 ตัว มาเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ถนนข้าวสาร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งท่านนายกฯ เชื่อว่าต่างชาติฮือฮาแน่นอน

อีกทั้งยังเห็นด้วยกับการนำควายไทย ไปโรดโชว์ ให้ต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าเหมือนปลาคราฟของญี่ปุ่น ก็สั่งการให้โฆษกรัฐบาล ประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำควายไทย ไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนในช่วงเดือน พ.ค.นี้

นอกจากนี้ นายกเศรษฐา ยังได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "เราสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมควายไทยโตได้กว่านี้ ก็ชมว่า “น้องโก้ เมืองเพชร" สวยมาก ๆ เป็นมิตรกับคนด้วย เป็นของดีอีกอย่างของเมืองไทย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/_sKhfAQG3Y8

คุณอาจสนใจ

Related News