สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 มี.ค.67 เศรษฐาขึ้นปก TIME-ทักษิณบินเชียงใหม่-บิ๊กโจ๊กส่งทนายฟ้องบิ๊กเต่า

โดย thichaphat_d

14 มี.ค. 2567

28 views

1.เศรษฐา ขึ้นปก TIME ยกเป็น “เดอะ เซลส์แมน”

นายกฯ เศรษฐา ขึ้นปกนิตยสาร TIME ยกเป็น “เดอะ เซลส์แมน” พร้อมให้สัมภาษณ์แบบ Exclusive ลั่นตนอยากเห็นประเทศไทยเปล่งประกาย รับความกดดันไม่ได้มาจากการเป็นที่ 2 ในการเลือกตั้ง แต่มาจากความต้องการในการแก้ไขปัญหาความยากจน และยกระดับชีวิตของคนไทย / ปัดเป็นหุ่นเชิดทักษิณ ย้ำ “ควบคุมตัวเองได้” และปิดท้ายว่า "จาก CEO ของบริษัทมาสู่ CEO ของประเทศ ทีมีประชาชนมากมายเป็นผู้ถือหุ้น”

2. บิ๊กโจ๊ก ยันความบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวเว็บพนัน ส่งทนายฟ้องบิ๊กเต่า

บิ๊กโจ๊ก ยืนยันความบริสุทธิ์ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ศาลเพิกถอนหมายจับและไม่ได้มีการออกหมายเรียกใดๆ ขอให้ทนายเป็นผู้ชี้แจง หวั่นพูดเองจะยืดเยื้อ ไม่ขอลงรายละเอียดใดๆ ย้ำการทำงานและปราบปรามที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวข้องพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ลั่นขอให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ต่อไป ถ้าตนยังไม่ได้รับความยุติธรรมตนจะนำความยุติธรรมให้ประชาชนได้อย่างไร

ทนายความทีมบิ๊กโจ๊ก ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา 2 กรรม จากการให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมการข่าว 2 รอบ ถือ เป็นการนำข้อมูลในสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.เตาปูน มาเปิดเผย ทำให้บิ๊กโจ๊กได้รับความเสียหาย ยันไม่ใช่การฟ้องแก้เกี้ยว

3. เกินจะทน! แม่น้องหยอด แฉกลุ่มผู้ต้องหาไร้สำนึก - ทำท่าเย้ยในศาล

คุณแม่ของน้องหยอด ถือภาพหน้าศพลูกมายังศาล พร้อมแม่เหยื่อกราดยิงสุทธิสาร คัดค้านการประกันตัวจำเลย เพราะที่ผ่านมาเธอต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงมาโดยตลอด แม้ว่าเธอจะไม่เคยถูกฝั่งตรงข้ามข่มขู่ แต่เพื่อนน้องหยอดที่สถาบันฯ มักบอกเสมอว่า มีกลุ่มเพื่อนจำเลยไปขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อกวนมองหน้าในลักษณะยั่วยุและไม่เกรงกลัวกฎหมาย กลัวจำเลยที่ได้ประกันมาก่อเหตุล้างแค้น ก่อนที่ศาลใช้เวลาไต่สวนราว 3 ชั่วโมง

โดย 24 จำเลยมาศาลครบ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยหรือชดใช้ค่าเสียหาย และเป็นครั้งแรกที่เจอหน้ากัน แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีที่จะเข้ามาพูดคุยขอโทษใด ๆ แต่กลับแสดงอากัปกิริยาด้วยการใช้สีหน้าเยาะแยะ เล่นหูเล่นตา และยักคิ้วใส่ อยากถามเหมือนกันว่าไม่รู้สึกสำนึกผิดเลยหรือ ที่ทำให้ครอบครัวเธอต้องสูญเสีย

4. ศาลสั่งปรับ 5 ผู้ปกครอง แก๊งโจ๋รุมฆ่าป้าบัวผัน

ศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดสระแก้ว สั่งปรับ 5 ผู้ปกครอง 5 โจ๋ทรชนทำร้ายป้าบัวผัวเสียชีวิต ฐาน ปล่อยปละละเลย หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ทั้งหมดให้การรับสารภาพลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือ ปรับคนละ 5 พัน ถึง 1 หมื่นบาท พ่อนายบิ๊ก ไม่มีเงินเสียค่าปรับ ศาลเลยให้ไปบำเพ็ญประโยชน์ตามจำนวนเงินที่ต้องจ่ายค่าปรับแทน

5. พ่อแม่ลุยแจ้งความครูจับลูกสาว 4 ขวบ ถอดเสื้อผ้าขึ้นเวที

ทนายความพาพ่อและแม่ของเด็กหญิง 4 ขวบ แจ้งความเอาผิดครูจับลูกขึ้นเวทีถอดเสื้อผ้า แข่งขันเกมแต่งตัว เหตุไม่ทำตามที่เจรจาไกล่เกลี่ย เพราะวันนั้นครูยกมือไหว้ขอโทษ และยอมรับผิด ทำไปไม่ทันคิดว่าลิดรอน สิทธิเด็ก รับปากจะโพสต์แสดงความรับผิดชอบผ่านทางเพจ ของ อบต. ที่มีผู้ติดตามกว่า 1 พันคน แต่กลับไปโพสต์ผ่านเพจศูนย์เด็กเล็กที่มีผู้ติดตามแค่ 200 กว่าคนเท่านั้น นอกจากนี้ลูกสาว 4 ขวบยังบอกกับพ่อว่าหนูไม่ชอบถอดเสื้อต่อหน้าคนอื่นๆ ซ้ำถึง 5 รอบ หวั่นคนในงานเอาภาพไปโพสต์กลายเป็นดิจิทัลฟรุตปริ้นท์ แล้ววกกลับมาทำให้เด็กถูกบูลลี่ในอนาคตได้

6. เฒ่าวัย 73 ตุ๋นเงินเพื่อน เอาไปเปย์เด็กเอ็นฯ

เฒ่าวัย 73 หลอกเพื่อนขอยืมเงิน อ้างลูกสาวบุญธรรมป่วยหนัก ปลอมใบเสร็จโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้เหยื่อหลงเชื่อ โอนเงินไป 3 แสนกว่าบาท อ้างรอเงินจากศาล 2 ล้านบาทแล้วจะคืนให้ สุดท้ายเงียบหายติดต่อไม่ได้ ถามเพื่อนคนอื่นๆก็ถูกหลอกแบบเดียวกัน ความเสียหายหลายล้านบาท สุดท้ายถูกตำรวจรวบตัว สารภาพ เงินที่หลอกเพื่อนๆ ไป ก็เอาไปเปย์เด็กเอ็นสาวคราวลูก 2 คน

7. สึกทันควัน! พระบวชใหม่พกปืนเหน็บเอว

สึกทันควัน! พระบวชใหม่พกปืนเหน็บเอว โพสต์เฟซบุ๊กโชว์หรา แล้วถูกเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” แฉยับ เจ้าอาวาสแจงเป็นปืนพลาสติกของเด็กเล่น พระใหม่ทำเพราะคึกคะนอง ขี้เล่น อ่อนพรรษา ย้ำที่ไม่มีงานกฐินในวัด ส่วนพระรูปนี้มีความประพฤติดี เรื่องกิจของสงฆ์ไม่เคยขาด เชื่อทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ อดีตพระที่สึกแล้ว น้อมรับความผิด ตัดพ้อสำนักพุทธไม่ฟังเหตุผล ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ไม่ได้เสพยา หรือ มั่วสีกา ภาพแค่นี้ผิดเล็กน้อย ตักเตือนก็ได้ จริงๆมีกำหนดลาสิขาในวันนี้ แทนที่จะปล่อยให้ครบกำหนด



เรื่องเล่าการเมือง

-ทักษิณ เข้าวัดราชบพิธฯ ก่อนปิ๊กเชียงใหม่ วางคิวเดินตลาดวโรรส


ไฮไลต์การเมืองวันนี้ ต้องจับตาการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร หลังได้รับการพักโทษ ซึ่งก่อนจะเดินทางกลับบ้านเกิด ที่จังหวัดเชียงใหม่ ปรากฎว่าเมื่อวานช่วงเย็นก็มีภาพ ไปที่วัดราชบพิธฯ ซึ่งเป็นการออกสู่สาธารณะเป็นครั้งแรกหลังได้รับการพักโทษ

เมื่อวานนี้ช่วงเย็น เพจ The Room 44 ได้รายงานความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

โดยนายทักษิณ ใช้รถ ROLLS-ROYCE ทะเบียน ภษ 9999 กรุงเทพมหานคร มาในชุดสูทสีดำ ไม่ได้ใส่เฝือกที่คอ และเครื่องช่วยพยุงแขน ลักษณะแข็งแรงขึ้นมาก สามารถเดินเหินสะดวก ซึ่งถือเป็นการออกสู่ที่สาธารณะครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษ

ส่วนวันนี้ ต้องจับตาการเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค. มีรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด นายทักษิณ จะสักการะศาลหลักเมือง ที่กรุงเทพฯ ก่อนเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินส่วนตัว

ซึ่งกำหนดการวันที่ 14 มี.ค. จะไปหลายจุด ทั้งอุทยานราชพฤกษ์ ต่อด้วยคลองแม่ข่า ก่อนช่วงเย็นจะไปที่ต้นน้ำแม่สา อำเภอแม่ริม

ส่วนวันที่ 15 มี.ค. ช่วงเช้าจะไปสักการะครูบาศรีวิชัย ก่อนขึ้นไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่พระธาตุดอยสุเทพ พร้อมครอบครัว จากนั้นจะเดินทางไปยังตลาดวโรรส ซึ่งถือเป็นตลาดที่ตระกูลชินวัตรจะเดินทางมาทุกครั้งที่ได้มาเชียงใหม่

และช่วงเที่ยงนายทักษิณ และครอบครัวจะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวซอยเสมอใจ ก่อนเดินทางไปยังสุสานแม่ออน ที่ เก็บอัฐิของบิดาและมารดาของนายทักษิณ และเดินทางไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง รวมทั้งเยี่ยมญาติ ที่บ้านชินวัตร

ส่วนวันที่ 16 มี.ค. ช่วงเช้าคุณทักษิณ จะดื่มกาแฟที่ร้านโอเอซิส ก่อนจะเดินทางไปยัง สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี โดยจุดนี้จะไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามทำข่าว



-ชัยธวัช ลั่นพร้อมสู้คดียุบก้าวไกล เตือนยิ่งขยายความขัดแย้ง

ส่วนต่อเนื่อง หลัง กกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล คดีล้มล้างการปกครอง เมื่อวานนี้มี ท่าทีของนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่าพร้อมสู้คดีเต็มที่ และย้ำว่าการยุบพรรค ไม่ใช่เรื่องต้องทำใจ แต่ต้องยืนยันว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็เตือนให้ระวัง อาจนำไปสู่การขยายความขัดแย้ง

นายชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแผนรองรับ ภายหลังกกต. มีมติเอกฉันท์ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล กรณีเสนอแก้ไขมาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองว่า ตอนนี้ก็เตรียมเรื่องการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และทำงานทุกวันให้ดีที่สุด

ก็ย้ำเรื่องนี้ “น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทยและผู้มีอำนาจ ว่าการยุบพรรคการเมืองไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมือง แต่อาจนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมือง”

นายชัยธวัช บอกว่า ยังไม่คิดเรื่องการตั้งพรรคสำรอง และ ย้ำว่า เรื่องยุบพรรคไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำใจ แต่ต้องยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางการเมือง

ส่วนกระแสข่าวว่ามี สส.พรรคก้าวไกล เริ่มไปคุยกับพรรครัฐบาล จะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่ นายชัยธวัช บอกว่า ไม่ใช่หน้าที่ของพรรค เรามั่นใจว่าผู้แทนราษฎรที่ดี ก็คือผู้แทนราษฎรที่ดีเรื่องนี้ไม่สามารถมีใครไปบังคับใจกันได้ พรรคมีหน้าที่ต้องเตรียมทุกทางออกให้กับสมาชิก และก็บอกว่า "ถ้าเรายังยอมรับวิธีการทำงานการเมืองแบบนี้ คิดว่าไม่ใช่เป็นปัญหาของพรรคก้าวไกล แต่เป็นปัญหาของวิธีการการเมืองแบบเดิมๆ ซึ่งควรจะหมดไปได้แล้ว"



-ประธาน กกต. ยันทำตามหน้าที่ คดียุบพรรคก้าวไกล ไร้ใบสั่ง

ทางด้าน ประธาน กกต. ก็ยืนยันว่า กกต.ทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีใบสั่ง หากไม่ทำก็เท่ากับไม่ปฏิบัติหน้าที่

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวว่า มติดังกล่าว กกต.มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า พรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ซึ่งหลักฐาน ดังกล่าว ก็คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่มีรายละเอียด มีข้อกฎหมาย มีข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐาน มีคำไต่สวนต่างๆ ครบถ้วน

ส่วนที่มีการ กล่าวหาว่า กกต. มีใบสั่งนั้น ประธาน กกต. ยืนยันว่า กกต.ทำงานตามกฎหมาย คนที่จะสั่งได้ ก็คือกฎหมายที่เขียนเอาไว้ เพราะมีที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่ทำก็ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่



-หมออ๋อง ทวงห้องหลังบัลลังก์ พบ พปชร.คืนห้องวิปค้าน แต่ยังใช้ห้องข้างๆ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ ยังมีปัญหาเรื่องการแย่งชิงห้องหลังบัลลังก์ประธานสภาฯ หลังจากมีการเจรจาให้พรรคพลังประชารัฐ ย้ายออกจากห้องวิปฝ่ายค้านได้แล้ว แต่ปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐย้ายไปอยู่ห้องข้าง ๆ ทำให้ต้องมีการทวงคืนกันอีกครั้ง

คนที่ต้องเอ๋ยปากทวงครั้งนี้ คือนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม เหตุผลที่ทวงเพราะพรรคพลังประชารัฐ ย้ายจากห้องวิปฝ่ายค้าน มาใช้ห้องผู้ชี้แจง ซึ่งอยู่หลังบัลลังก์ติดกันกับห้องวิปฝ่ายค้าน ทำให้หน่วยงานที่จะต้องมาชี้แจง เรื่องต่างๆต่อที่ประชุมสภา ต้องไปใช้ห้องพยาบาล ในการพักคอยแทน

ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นก็ตอบโต้กลับนายปดิพัทธ์ ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐก็อยู่ส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ห้องที่มีการทวงให้พรรคร่วมฝ่ายค้านก่อนหน้านี้ ก็สามารถเข้าไปใช้ได้แล้ว ซึ่งนายปดิพัทธ์ บอกว่าไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งเข้าไปใช้ ห้องหลังบัลลังก์

สส.อรรถกร ยังให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวของเราเพิ่มเติมว่า ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐย้ายห้องออกให้แล้ว และได้ตกลงกับนายปกรณ์วุฒิ ประธานวิปฝ่ายค้านแล้วว่าจะใช้ห้องข้าง ๆ แทน ซึ่งที่พูดคุย ก็มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง รับรู้ด้วย ยืนยันพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าพรรค ไม่ได้อยากจะมีปัญหา แต่ก็ยืนยันว่า จะไม่ย้ายห้องอีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ห้องผู้ชี้แจงที่พลเอกประวิตรย้ายไปนั้น ได้มีคนนำกระดาษสีขาวมาปิดป้ายทับว่า "ห้องผู้มาชี้แจง"ขณะที่ห้องพยาบาลได้มีการนำป้าย "ผู้มาชี้แจง" มาตั้งไว้บนโต๊ะและเก้าอี้ที่นำมาเตรียมไว้



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/fwG3gO9oQTc

คุณอาจสนใจ

Related News