สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 12 ก.พ.67 ความเห็นดรามาตะวันป่วนขบวนเสด็จ-แจงปมพกยาบ้า 5 เม็ด-เอ็ด ชีแรน สักยันต์ 8 ทิศ

โดย thichaphat_d

12 ก.พ. 2567

79 views

1. ผู้การแปดริ้ว ยันน้องพรไม่เกี่ยวอุ้มฆ่า จ่อสอบช่างกิตเพิ่ม

ญาติ โอ๊ต-กาน เตรียมยื่นประกันตัววันจันทร์นี้ เพื่อมาสู้คดี ด้านผู้การแปดริ้ว พร้อมพนักงานสอบสวน จ่อเข้าสอบช่างกิต อีกครั้ง เพื่อสอบถามเรื่องปืนและมือถือ ก่อนย้ำน้องพร ไม่พบเรื่องเกี่ยวโยงฆาตกรรมสามีแน่นอน ส่วนพยานและหลักฐานใหม่ที่ได้มาเป็นตัวแปรสำคัญที่ระบุตัวละครที่ก่อเหตุได้ชัดเจน เชื่อว่าปืนที่ก่อเหตุและมือถือไม่ได้มีการนำไปโยนทิ้ง ชี้คดีนี้น่าจะสรุปได้ในอาทิตย์นี้แน่นอน

2. รองเต่า ยันแก๊งตบทรัพย์ศรีสุวรรณ ตร.ทำตามหลักฐาน


จับตา 12 กุมภานี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เรียก 2 ข้าราชการกระทรวงเกษตร –สำนักนายก เข้าพบ หลังพบเป็นผู้นำข้อมูลทุจริตส่งให้แก๊งตบทรัพย์ ชี้เป็นเพียงการพูดคุยธรรมดา ยังไม่ได้สอบปากคำ ก่อนยันตำรวจทําตามหลักฐาน ไม่เกี่ยวข้องพรรคการเมือง ขณะที่เส้นทางการเงินแก๊งตบทรัพย์มีความชัดเจนมั่นใจดิ้นไม่หลุด ส่วนคนใกล้ชิดศรีสุวรรณ เข้าพบตร. รับทราบข้อหา 15 ก.พ.นี้

3. ช่วย ด.ช.4 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายแผลเต็มตัว

บุกช่วย ด.ช.วัย 4 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย กัดแก้มมีรอยช้ำทั่วใบหน้าและก้น ใช้บุหรี่จี้ปาก-อวัยวะเพศ ด้านพ่อเลี้ยงอ้างหยอกเล่นแค่บีบกัดแก้ม-ลำตัวหมั่นเขี้ยวเพราะเด็กตัวอ้วนจ้ำม่ำ แต่เล่นแรง ส่วนบาดแผลขีดข่วนบนใบหน้าหกล้มเอง ไม่ได้ใช้บุหรี่จี้ ยันรักเด็กต่อไปจะไม่ทำอีก ชาวบ้าน เผย ดื่มน้ำกระท่อมประจำเตือนอย่าตีเด็กแต่ไม่ฟัง

ด้าน กัน จอมพลัง ชี้ถือว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนที่จะใช้ดำเนินคดีกับตัวพ่อเลี้ยง ส่วนแม่ของเด็กนั้น ก็ต้องสอบปากคำว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนหรือไม่ หากรู้เห็นเป็นใจในการที่พ่อเลี้ยงทำร้ายลูก

4. พ่อบังคับลูกวัย 11 ขวบทำงาน หาเงินมาซื้อยาบ้าให้เสพ

แม่พาลูกชายวัย 11 ขวบ ร้องสื่อ หลังถูกพ่อแท้ๆ บังคับให้ทำงานหาเงินมาซื้อยาบ้าให้เสพ ซ้ำยังบังคับให้ออกไปซื้อตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ถ้าไม่ทำก็ถูกทำร้ายร่างกาย กระทั่งลูกทนไม่ไหว จึงหนีมาหาตนพร้อมขอให้ช่วยเหลือ ขณะที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบพร้อมดำเนินคดี ส่วนเด็กชาย ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้าช่วยเหลือแล้ว

5.ชลน่าน แจงดรามา พกยาบ้า 5 เม็ด

ชลน่าน แจงดรามา พกยาบ้า 5 เม็ด ชี้ กฎหมายเดิมกำหนด 15 เม็ด ให้ถือเป็นผู้เสพ จากนี้เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ ยืนยัน ไม่ได้คิดเองตามใจชอบ เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบคนเจตนาค้ายา มีเม็ดเดียวก็ติดคุก ส่วนคนเสพครอบครองไม่เกิน 5 เม็ด ต้องรักษา ยึดหลักเปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย หากมากกว่านี้ ให้ถือมีโทษเท่ากับการจำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ นั่นคือ จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี

6. เรือหางยาวล่ม 7 นทท. ลอยคอกลางทะเลกระบี่

เรือทัวร์เข้าช่วยเหลือ 7 นักท่องเที่ยว พร้อมคนขับ หลังเกิดอุบัติเหตุเรือหางยาวล่ม นักท่องเที่ยวลอยคอกลางทะเล ใกล้เกาะเหลาลาดิง กระบี่ พร้อมเล่านาทีระทึก ขณะนำนักท่องเที่ยวไปเกาะเหลาลาดิง แต่เห็นของกระจัดกระจายเต็มท้องทะเล โชคดีขณะที่ทุกคนสวมเสื้อชูชีพ จึงรีบเข้าช่วยเหลือจนทุกคนปลอดภัย พร้อมนำส่งเข้าฝั่งที่เกาะห้อง ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้การช่วยเหลือ

7.เอ็ด ชีแรน ตกหลุม ซอฟท์พาวเวอร์ไทย อาหาร-สักยันต์

เอ็ด ชีแรน ตกหลุมรัก ซอฟพาวเวอร์ ของดีเมืองไทย แวะร้านดัง "เจ๊ไฝ-ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี" ทำเซอร์ไพรส์ สวมเสื้อฟุตบอลช้างศึก "ทีมชาติไทย" ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตที่ราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนปิดท้ายซอฟท์พาวเวอร์ไทยของแท้ สักยันต์ 8 ทิศกับอาจารย์เหน่ง เผยพุทธคุณเด่นเรียกโชคลาภ ทำมาหากินคล่อง เพิ่มความเมตตามหานิยม มีคนเมตตา



เรื่องเล่าการเมือง

-นายกฯ ถกผบ.ตร. รับห่วง กำชับดูแลความปลอดภัย บุคคลสำคัญ


ต่อเนื่องกรณีการเคลื่อนไหวของ น.ส.ตะวัน แกนนำกลุ่มทะลุวัง ไปบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ เรื่องนี้ก็มีปฏิกิริยาออกมาจากหลายฝ่าย ด้านนึงพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมยื่นญัตติด่วนเข้าที่ประชุมสภาฯ เพื่อหาแนวทางป้องกัน ขณะที่ท่านนายกฯ ได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าเป็นห่วงและกำชับเรื่องการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ไม่ให้กลายเป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมือง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพนั่งหารือกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

พร้อมข้อความระบุว่า “เรื่องที่ผมเป็นห่วงและขอกำชับ คือ เรื่องมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ เพื่อไม่ให้ประเด็นนี้กลายเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้โจมตีทางการเมืองของทุกฝ่าย หรือ มือที่ 3 มาฉวยสร้างสถานการณ์ ซึ่งเป็นเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และของผมในฐานะนายกฯ ขอย้ำว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัฐบาลมีหน้าที่ถวายการอารักขาและรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของสถาบัน ผมเชื่อว่าเราคนไทยเห็นตรงกันในเรื่องนี้ครับ”

ขณะที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความ ระบุ เรื่องพฤติกรรมไปรบกวนขบวนเสด็จฯ ค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นการกระทำ ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมถอย ก็บอกว่า เจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัย หากไม่แสดงท่าทีให้ชัดเจน จะเกิดแรงปะทะในหมู่ประชาชน ขยายรอยร้าว สร้างความแตกแยกโดยใช่เหตุ

ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมขอมติพรรคในวันอังคารนี้ (13 ก.พ.67) เพื่อยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯ เพื่อหาแนวทางการป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ข่มขู่ ท้าทาย ให้ร้าย ในลักษณะเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



-ก้าวไกล แนะใช้สภา หาทางออกปมตะวัน

กรณีของตะวัน อีกด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล แสดงความเป็นห่วง ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้บรรยากาศความกลัวกลับมาอีกครั้ง ก็เห็นว่าควรใช้สภา ในการแก้ปัญหา

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความ ระบุว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้บรรยากาศความกลัวกลับมาอีกครั้ง และไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น" ก็บอกว่า "ผมทราบดีว่าหลายท่านไม่เห็นด้วยกับกลุ่มทะลุวัง แต่หากยังปล่อยให้การใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ สุดท้ายเราจะจบลงด้วยการนองเลือดอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย ซึ่งควรใช้พื้นที่สภาในการแก้ปัญหา"

นอกจากนี้ สส.รังสิมันต์ โรม ยังให้สัมภาษณ์ ถึงแนวทางการนิรโทษกรรม ว่า ควรอยู่บนฐานว่าจะแก้ปัญหาบ้านเมือง และความขัดแย้งที่มีหรือไม่ ดังนั้นไม่ควรนำเรื่องของมาตรา มาเป็นข้อกำหนด ในการบอกว่าห้ามเอามาตรานั้น มาคิดเรื่องนิรโทษกรรม เพราะคิดว่าไม่ใช่ทางออกที่จะแก้ไขวิกฤตได้

ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ย้ำจุดยืนเรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดอง ซึ่งสภามีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา ว่าต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ

โดยเฉพาะเมื่อเกิดกรณีการป่วนขบวนเสด็จ ยิ่งเป็นการตอกย้ำการไม่สมควรนิรโทษกรรมความผิดตามมาตรา 112 เพราะอนาคตจะนำไปสู่การขยายความขัดแย้งแตกแยกมากกว่าการสร้างความปรองดอง



-ศิริกัญญา เตือนปมเงินดิจิทัล แนะลดขนาด-ใช้งบ 68

เรื่องโครงการแจกดิจิทัล ต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่สัปดาห์นี้ 15 ก.พ. จะตัดสินใจอย่างไร เมื่อวานนี้ สส.ศิริกัญญา ตันสกุล เสนอให้รัฐบาลต้องมีแผนสำรอง โดยแนะให้ลดขนาดโครงการ และใช้งบประมาณประจำปี 2568 แทน

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ท่ามกลางเสียงคัดค้านและข้อท้วงติง ก็ออกมาให้คำแนะนำ ว่า หากดำเนินโครงการไปแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างมีคนนำเรื่องไปร้องเรียน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องมีแผนสำรองไว้รองรับ เพราะรัฐบาลพูดไว้ตลอด ว่าเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ เศรษฐกิจวิกฤตแล้ว แต่กลับเอาชะตากรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ ไปแขวนไว้กับนโยบายนี้นโยบายเดียว

น.ส.ศิริกัญญา บอกว่า แผนสำรองอาจจะเป็นการลดขนาดโครงการ และใช้งบประมาณ ปี 2568 แทน ซึ่งถ้ารัฐบาลอยากจะปรับปรุงนำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต มาใช้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี ยิ่งต้องรีบทำ

ด้าน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตอบโต้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่พูดถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ไม่ให้เอาไข่ไปใส่ในตะกร้าใบเดียว และต้องมีแผน 2 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า

การมองเห็นประโยชน์เพียงตะกร้าใบเดียว อาจจะคับแคบเกินไป เพราะพรรคเพื่อไทย มองภาพใหญ่ ตามที่รัฐมนตรีจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ยืนยันก่อนหน้านี้ ว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ เป็นประโยชน์ของการพัฒนาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล



-ษัษฐรัมย์ ขู่ บุก ก.แรงงาน หาก 14 ก.พ.ไม่ชัดเจน ปมเลือกบอร์ด ประกันสังคม

มีประเด็นเรื่องบอร์ดประกันสังคม หลังเลือกตั้งกันไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดหัวหน้าทีมประกันสังคมก้าวหน้าขู่ ถ้าวันที่ 14 ก.พ.ยังไม่ชัดเจนเรื่องการรับรองผลเลือกตั้ง จะบุกสำนักงานประกันสังคมและกระทรวงแรงงาน

ถ้าจำกันได้ การเลือกตั้งตัวแทนผู้ประกันตนเพื่อเข้าไปเป็นบอร์ดประกันสังคมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในประเทศไทย นับตั้งแต่มีสำนักงานประกันสังคม

ซึ่งผลการเลือกตั้ง ทีมประกันสังคมก้าวหน้าชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอย 6 คน จากทั้งหมด 7 คน เนื่องจากผู้สมัครคนนึงถูกตัดสิทธิ์เพราะขาดคุณสมบัติ

และวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา มีการรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคนที่ 7 ไม่ใช่นายปรารถนา โพธิ์ดี ที่ตอนนับคะแนนเบื้องต้นได้อันดับ 7 และคะแนนหายไป 1,300 กว่าคะแนน ทำให้นายปรารถนา มายื่นอุทธรณ์

หลังผ่านไปครึ่งเดือนกว่า ล่าสุดนายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี หัวหน้าทีมประกันสังคมก้าวหน้า ที่ชนะการเลือกตั้ง ได้ออกมาตั้งคำถามถึงความล่าช้าในการรับรองผลการเลือกตั้ง โดยระบุว่า จนถึงล่าสุด ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก สำนักงานประกันสังคมเลย ว่ากระบวนการอุทธรณ์จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ทั้งที่มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งแค่แสนกว่าคน น้อยกว่าการเลือกตั้ง อบจ.บางจังหวัดด้วยซ้ำ ซึ่งมีความกังวลว่าในช่วงเวลาสุญญากาศนี้ จะมีการอนุมัติหรือผลักดันเรื่องต่าง ๆ ที่จะส่งผลผูกพันกับการทำงานของบอร์ดประกันสังคมชุดใหม่หรือไม่

ทั้งนี้จะให้เวลาถึง 14 ก.พ.นี้เท่านั้น หากยังไม่มีความชัดเจนจะบุกไปที่สำนักงานประกันสังคมและกระทรวงแรงงาน



-ปลัดแรงงาน เตรียมรับรองผลเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม หลังยกอุทธรณ์

ขณะที่ล่าสุด ทางเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า กกต.ประกันสังคม ยกอุทธรณ์ การคัดค้านผลการเลือกตั้งแล้ว และกำลังจะประกาศรับรองผลเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองช่อง 3 ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา กกต.ของสำนักงานประกันสังคม ได้มีมติ "ยกอุทธรณ์" ของนายปรารถนา โพธิ์ดี โดยยืนยันผลการเลือกตั้งตามเดิม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ โดยปลัดกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้ลงนาม และจะรับรองผลการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมฝ่ายลูกจ้างได้เลย คาดว่าจะเรียบร้อยในสัปดาห์หน้า

ส่วนคะแนนที่คลาดเคลื่อน เกิดจากความผิดพลาดในขั้นตอนการคีย์คะแนน หากนายปรารถนายังติดใจ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลปกครองได้ภายใน 90 วัน ยืนยันว่าประกันสังคมไม่ได้มีการยื้อการประกาศผลการเลือกตั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8eqS5TagtzI

คุณอาจสนใจ

Related News