เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 7 พ.ย.66 สส.แจ้แฉถูกขับพ้นก้าวไกล-คนขับรถตู้ปัดข่มขืนเด็ก-หนุ่มโวยถูกช่างตัดผมหูแหว่ง

1.คนขับรถตู้เข้าพบตำรวจแล้ว ยืนยันไม่ได้ข่มขืนเด็ก

2.แพทย์เผยเด็กเหยื่อโชเฟอร์รถตู้ ต้องใช้เวลาฟื้นฟูสภาพจิตใจ

3.เด็ก 14 ปีกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ถูกน้าเขยข่มขืนนาน 8 ปี

4.แม่เด็กโวย เจอชาวจีนสูบกัญชากลิ่นคลุ้ง ทำลูกแพ้หนัก

5.เปิดปฏิบัติการ ล่าทรชน คนค้าข้อมูล จับโบรกเกอร์ประกันภัย

6.นักแสดงวัยรุ่นร้องสื่อ ถูกช่างตัดผมใบหูแหว่ง ไม่รับผิดชอบ



เรื่องเล่าการเมือง

-สส.แจ้ แฉถูกขับพ้นก้าวไกล เพราะเหยียบเท้า กก.บห. ปมร้องสอบผู้ช่วย สส.

เริ่มที่ปัญหาในพรรคก้าวไกล เมื่อวาน สส.วุฒิพงศ์ ที่ถูกขับออกจากพรรคจากปมคุกคามทางเพศ ออกมาแถลง แฉว่า สาเหตุทำให้ถูกขับออกเพราะไปเหยียบเท้ากรรมการบริหารพรรคเพราะเคยร้องเรียนทุจริตผู้ช่วย สส.ของ กก.บห.ท่านนี้

นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือ สส.แจ้ สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออกจากเหตุผลเรื่องการคุกคามทางเพศ แถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ใช้เวลาทั้งสิ้นนานถึง 40 นาที

โดยรวมคือ ระบุว่า มีความความไม่ชอบมาพากลในการขับตัวเองออกจากพรรคก้าวไกล โดยเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการที่ตนยื่นร้องเรียนให้พรรคตรวจสอบ "ผู้ช่วย สส." คนหนึ่ง ซึ่งต่อมา สส.แจ้ เรียกว่า "ผู้ช่วย ส." ซึ่งเป็นผู้ช่วย สส.ของกรรมการบริหารพรรคท่านหนึ่ง ว่า เกี่ยวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะในพื้นที่ปราจีนบุรี

โดยเมื่อวันที่ 24-25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปยื่นเอกสารทุกอย่างให้กับระดับกรรมการบริหารพรรค ผ่านมา 4 เดือน แต่พรรคไม่มีการตรวจสอบเรื่องนี้ แต่กลับใช้เวลาตรวจสอบเรื่องของตนเพียง 22 วันก่อนมีมติขับออก

โดย สส.แจ้ ได้โชว์แชทไลน์หลักฐานและคลิปเสียงการซื้อขายที่ดินของผู้ช่วย สส.รายดังกล่าวที่ สส.แจ้ ระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียกรับผลประโยชน์มาโชว์กับสื่อด้วย

สส.แจ้ ระบุว่า ผู้เสียหายที่ร้องสอบพฤติกรรมของตนสนิทกับ "ผู้ช่วย ส." / และ"ผู้ช่วย ส." เป็นคนพาผู้เสียหายคนดังกล่าวเข้ามาร้องเรียนตนถึงพรรค

"ผมไม่ทราบว่าเรื่องที่ผมทำ ไปเหยียบเท้ากรรมการบริหารพรรคหรือเปล่า...สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างกับศาลเตี้ย ไม่ต่างกับกระบวนการที่เรียกว่าพวกมากลากไป"

สส.วุฒิพงศ์ ระบุว่า ตั้งแต่ที่พรรคมีมติขับตนออกจากพรรค ตนยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งใด ๆ จากทางพรรค ทั้งนี้ยืนยันว่า การออกมาแถลงอีกครั้ง ไม่ได้ต้องการขอความเป็นธรรมหรืออุทธรณ์มติพรรค

ทั้งนี้ในบางช่วงของการแถลงข่าว นายวุฒิพงศ์ มีน้ำเสียงสั่นเครือ และตาแดงเหมือนจะร้องไห้ โดยเฉพาะช่วงที่พูดถึงพรรคก้าวไกล



-เบญจา ปัดไม่รู้ สส.แจ้ พูดถึงใคร ยัน ไม่เคยมีร้องสอบ ผช.สส.

ขณะที่ เบญจา กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล บอกไม่รู้ว่า สส.แจ้ พูดถึงใคร ยืนยัน การขับออกจากพรรค พิจารณาอย่างเป็นธรรม

นางสาวเบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออก เปิดเผยถึงกรณีที่ สส.วุฒิพงศ์ กล่าวพาดพิงถึงกรรมการบริหารพรรคมีส่วนเกี่ยวข้อง กับ "ผู้ช่วย ส." ว่ามีความพยายาม ขับตนเองออกจากพรรค เนื่องจากไปเปิดเผยการทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ในโครงการบ่อขยะภาคตะวันออก ว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค จะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด

ส่วนกระแสข่าวว่าผู้ช่วย สส. คนดังกล่าว เป็นผู้ช่วยของ น.ส.เบญจา / น.ส.เบญจา ยืนยันว่า ผู้ช่วยทั้งหมดไม่ได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัว ส่วนใหญ่เป็นคณะทำงานจังหวัด ดังนั้นจึงไม่ทราบว่า นายวุฒิพงศ์กล่าวหาใคร เพราะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา ดังนั้นตนเองจะขอตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อน

ส่วนที่มีการพาดพิงว่า การพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคและกรรมการวินัย มีความพยายามเตะตัดขาและต้องการขับให้ออกจากพรรค ยืนยันได้ว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปด้วยความเป็นธรรมเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาครบถ้วนทุกประเด็น หากบอกว่ากรรมการบริหารพรรคและกรรมการวินัยมีความพยายามแตะตัดขา หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง อาจไม่เป็นธรรม"

ส่วนที่นายวุฒิพงศ์ ระบุว่า ได้ส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตของผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวให้พรรคทำการตรวจสอบแล้ว นางสาวเบญจา ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่มีหนังสือร้องเรียนมาอย่างเป็นทางการ กรรมการวินัยเองก็ยังไม่มีเรื่องนี้ ตนเองในฐานะกรรมการบริหารพรรคจะสอบถามกรรมการวินัยว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร



-สส.ปูอัด สวมเสื้อก้าวไกลลงพื้นที่ เมินกระแสกดดันลาออก

เมื่อวานนี้ สส.ปูอัด-ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ แต่เคลื่อนไหวผ่านโซเชียล โพสต์ภาพสวมเสื้อพรรคก้าวไกลลงพื้นที่ พร้อมระบุว่า “สำรวจปัญหาน้ำท่วมเทียนทะเล”

ซึ่ง 1 ในภาพที่โพสต์ เป็นการโค้งขอโทษประชาชนที่เจอปัญหาน้ำท่วม (เรียกว่าเป็นท่า ที่แสดงออกต่อเนื่อง ตั้งแต่ในวันแถลงข่าว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ได้โค้งคำนับหลายครั้ง)

ขณะที่อีกด้าน ทนายแจม-ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ ระบุ ขอเป็นคนกลางชี้แจงแทนครอบครัวผู้เสียหาย โต้แย้ง สส.ไชยามพวาน ที่แถลงข่าววันก่อน ก็ไล่เป็นข้อๆ

1.กรณีที่บอกว่าครอบครัวผู้เสียหาย พาไปเลือกสูทและเนคไท แสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิด

โดยครอบครัวผู้เสียหายชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะ สส.ไชยามพวาน พูดเสมอว่าไม่มีเงิน และเห็นความตั้งใจเข้ามาทำงานการเมือง จึงต้องการมีส่วนร่วมสนับสนุน ไม่คาดคิดว่า จะมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศบุคคลในครอบครัวที่ร่วมทำงานด้วย

2.การนำข้อความมาเปิดเผย ว่าผู้เสียหายเป็นใคร ถือเป็นการทำร้ายจิตใจของผู้เสียหายซ้ำ รวมถึงคนในครอบครัว และ คนรอบข้าง

3.กรณี ที่ยกข้อความที่ผู้เสียหายส่งให้ผ่านแอปพลิเคชัน ยืนยันว่าผู้เสียหาย ไม่ได้รู้สึกที่นอกเหนือจากการเป็นเพื่อนร่วมงาน ต่อสส.ไชยามพวาน และเขียนให้ทีมงานทุกคน เพื่อแสดงความขอบคุณในการทำงาน การกล่าวอ้างของ สส.ไชยามพวานทั้งหมด จึงเป็นเพียงการจงใจจับแพะชนแกะ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด

ทนายแจม ระบุช่วงท้ายว่า พฤติกรรมเลวร้ายของ สส.ไชยามพวาน เป็นการทำลายหลักการครองตนของ "ผู้แทนราษฎร" ที่ดี ที่ สส.ไชยามพวาน อวดอ้างว่าต้องการจะเป็นอย่างไม่เหลือชิ้นดี



-นายกฯ แจงสั่งศึกษาขึ้นเงินเดือน ขรก. เหตุไม่ได้ขึ้นมานาน

ส่วนเรื่องการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เมื่อวาน นายกฯ ยอมรับว่า ได้สั่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องศึกษาความเป็นไปได้ เพราะไม่ได้ปรับขึ้นมานาน ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยอมรับว่าได้สั่งให้มีการใช้ศึกษาเรื่องความเป็นไปได้ในการที่จะดูในเรื่องของเงินเดือน เพราะกระทรวงแรงงานกำลังพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำอยู่ ถ้าจะยกระดับก็ต้องดูทั้งหมดในทุกภาคส่วน ได้มอบให้คณะทำงานศึกษาและมารายงานกลับภายในสิ้นเดือนนี้ว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร

ส่วนความเป็นไปได้ในการขึ้นค่าแรง หลังศึกษาแล้วจะมีกรอบหรือไม่ และจะขึ้นภายในปีงบประมาณไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องมานั่งดูอีกที ถึงได้บอกว่าต้องมีการศึกษาเกิดขึ้น ซึ่งสืบเนื่องตามที่เคยพูดไปแล้วว่าเงินเดือนของข้าราชการและค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ขึ้นมานานแล้ว เพราะปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้นเยอะ เราก็เป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนข้าราชการด้วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/gSqWJCD9vkA