เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 12 ก.ย.66 เศรษฐาแถลงนโยบายรัฐบาล-ผกก.เบิ้ม ยิงตัวตาย-เผาศพสารวัตรแบงค์

1.ผกก.2 บก.ทล. ยิงตัวเองดับคาบ้านพัก เครียด ปมสารวัตรแบงค์

ช็อกซ้ำวงการตำรวจ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ก่อเหตุสลด ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองภายในบ้านพักย่านคูคต คาดเกิดจากความเครียด หลังถูกพาดพิงว่าเป็นผู้โทรศัพท์ตาม สารวัตรแบงค์ ให้มาที่บ้านกำนันนก จนถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นเผย ข้อความสุดท้ายผู้กำกับเบิ้ม ส่งในไลน์กลุ่ม บอจะฆ่าตัวตาย ก่อนเงียบหาย

ขณะที่ รอง ผบ.ตร. รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เกิดความเครียด ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนสนิท พยายามพูดคุย เพื่อลดความเครียด แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ก่อนยันไม่มีผลต่อรูปคดี

2. 6 ตร.เอี่ยวช่วย กำนันนก คอตกเข้าเรือนจำ

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 7 สั่งยกคำร้องประกัน 6 ตำรวจ เอี่ยวช่วยพากำนันนก หลบหนี ชี้คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

3.ครอบครัว-เพื่อนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ สารวัตรแบงค์

ครอบครัว-เพื่อนตำรวจ ร่วมอาลัย พ.ต.ต.ศิวกร ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ด้าน รรท.ผบก.ทล. เผย สารวัตรแบงค์ ทำหน้าที่จนวาระสุดท้าย ลั่นพี่ๆ น้องๆ ตร.จะช่วยทวงความเป็นธรรม ขณะที่เพื่อน นรต.รุ่น 67 ร่วมกันร้องเพลง สนสามพราน เพื่อรำลึก ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย-ความโศกเศร้า

4.พระป่วยจิตหลอน คว้ามีดแทงเจ้าอาวาสดับ

สลด พระลูกวัดหลอน คว้ามีดแทงเจ้าอาวาส 7 แผลฉกรรจ์ ตายสยอง ขณะที่พระ-ชาวบ้านแห่ปิดล้อมหลังหนีซุกกุฏิ เปลี่ยนใส่ชุดเสื้อยืดลายพรางทหาร ขณะที่ถูกจับ ยังมีอาการหลอน อ้างมีคำสั่งมาให้ฆ่า ก่อนควบคุมตัวส่งโรงพัก ด้านตำรวจเผยประวัติเคยติดยาเสพติดก่อนถูกนำไปรักษา และมีอาการป่วยจิต จนพี่ชายนำตัวมาบวช คาดว่าไม่ได้เกิดจากการขาดยา

5. ทัวร์ลงสนั่นไก่ทอดหาดใหญ่ หลังยูทูบเบอร์ โดน 520 บาท

ชาวเน็ตจวกเละ ร้านไก่ทอดดังหาดใหญ่ ขายไก่ทอด 6 ชิ้น ให้ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวเกาหลี 520 บาท สังคมตั้งคำถามปกติราคานี้จริงเหรอ หรือต้องอัพราคาเพราะเป็นต่างชาติ ล่าสุดเจ้าของร้านโร่แจง ยันคิดราคาสินค้าผิด ลั่นไม่มีเจตนาเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ไม่มีข้อโต้แย้ง น้อมรับผิดทุกรณี หวังนำเป็นบทเรียนราคาแพง



เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา ร่ายยาวนโยบาย 14 หน้า ชูดิจิทัล1หมื่น ฟื้นเศรษฐกิจ

ไฮไลท์การเมือง เมื่อวานนี้ มีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยนายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าดิจิทัล 1 หมื่นบาท ฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์เวลา 07.59 น. เดินทางมาเข้ารัฐสภาครั้งแรก เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อมาถึงได้นำพวงมาลัย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำรัฐสภา ก็ ยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้น แต่ไม่กังวล และพร้อมชี้แจงทุกคำถาม

จากนั้นได้แถลงนโยบาย ใช้เวลาทั้งหมด 50 นาที ซึ่งเป็นการอ่านตามเอกสารที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ รวม 14 หน้า

สาระสำคัญของนโยบาย แบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยระยะสั้นเน้นเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท / แก้ปัญหาหนี้สิน / ลดราคาพลังงาน / และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนระยะกลางและระยะยาว เป็นการวางแผนสร้างรายได้ไปจนถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงการพัฒนากองทัพ โดยการเปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ลดกำลังนายพล รวมถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้



-ศิริกัญญา อัดเพื่อไทย มาตรฐานตก ชี้นโยบายแค่คำอธิษฐาน

ในซีกฝ่ายค้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายรัฐบาลอย่างเข้มข้น

โดยนอกจากจะย้ำว่าเป็นนโยบายที่ "ไม่ตรงปก" ไม่เป็นไปตามที่หาเสียงไว้ น.ส.ศิริกัญญา ยังบอกว่านโยบายรัฐบาลควรเป็นเหมือน GPS นำทาง แต่ GPS นี้ของรัฐบาลจะทำให้ประเทศหลงทาง เพราะไม่ได้บอกอะไรเลย มีแต่ความว่างเปล่า กลายเป็นแค่ "คำอธิษฐาน"

และมีการตัดเกรดการทำนโยบายรัฐบาล โดยเปรียบเทียบกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน โดยบอกว่าให้คะแนนนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา เท่ากับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นการเขียนกว้าง ๆ ไม่มีรายละเอียดเหมือนกัน แตกต่างของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่บอกกรอบเวลาไว้ชัดเจน เท่ากับมาตรฐานการทำนโยบายของพรรคเพื่อไทยตก และมีการถามด้วยว่าคนทำนโยบายคนเก่าลาออกไปแล้วหรือ

นอกจากนี้ น.ส.ศิริกัญญา ยังตั้งคำถามกับนายกฯเศรษฐา ว่า "ถ้านี่คือการที่ CEO ใหม่ กำลังแถลงกับบอร์ด นักลงทุน หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้น ท่านจะฟังต่อหรือลุกเดินหนี… ตอนที่ท่านแถลงตอนเป็น CEO ของบริษัทแสนสิริในปี 2565 มีเป้าหมายชัดเจน มีตัวเลขชี้วัดชัดเจน" ตนอยากเห็นแบบนั้น

ช่วงท้าย น.ส.ศิริกัญญา บอกด้วยว่า การบริหารราชการแผ่นดิน จะ "เทหมดหน้าตัก" เหมือนที่นายกฯเศรษฐาเคยพูดไม่ได้ เพราะไม่ใช่การเล่นการพนัน

- ปชป.คืนฟอร์มฝ่ายค้าน จุรินทร์ ขุดหนี้จำนำข้าว กรีดเพื่อไทย

ฝ่ายค้านอีกพรรค คือพรรคประชาธิปัตย์กลับมาคืนฟอร์มฝ่ายค้าน อีกครั้ง โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค อภิปราย ถึงกับทำให้ สส.เพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงด้วย

การอภิปรายนโยบายรัฐบาล ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค เมื่อวานนี้ มีการชี้ว่าหลายเรื่องไม่ตรงปกตามที่ได้หาเสียงไว้

อย่างนโยบาย เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 / นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 วันต่อวัน / นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย /นโยบายลดความเหลื่อมล้ำ และ นโยบาย กระจายอำนาจเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่พร้อม ทั้งหมดหาเสียงไว้อย่างอึกทึกครึกโครม แต่วันนี้กลายเป็นนโยบายล่องหนหายไปแบบไร้ร่องรอย

เช่นเดียวกับ นโยบายปราบการทุจริตคอรัปชั่น พบว่าไปซุกอยู่ครึ่งบรรทัด จึงขอเตือนว่าต้องให้ความสำคัญ เพราะรัฐบาลในอดีต เคยถูกยึดอำนาจมา 2 ครั้ง จากปัญหาการทุจริต ดังนั้นอย่าทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

อีกเรื่องที่เรียกได้ว่าจี้ใจดำพรรคเพื่อไทย จนถึงขึ้นสส.พรรคเพื่อไทย ต้องลุกขึ้นประท้วง คือเรื่องนโยบายจำนำข้าว โดยนายจุรินทร์ อภิปราย ชื่นชมนายเศรษฐาที่ รัฐบาลนี้ไม่มีนโยบายจำนำข้าว เนื่องจากเป็นนโยบายที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างภาระหนี้ให้ประเทศ 884,000 ล้านบาท และรัฐบาลนี้ยังต้องมาชดใช้หนี้อีก 250,000ล้าน

ทำให้ สส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ และ สส.ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม จากพรรคเพื่อไทย ประท้วงทันที ว่าเป็นการนำเรื่องในอดีตมาอภิปราย และพยายามชี้ว่าจริงๆ โครงการจำนำข้าวมีประโยชน์ แต่พรรคเพื่อไทยโดยรัฐประหารเสียก่อนและไม่มีโอกาสได้เห็นผลสำเร็จ



-สว.รุมซัก นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น

ส่วน สว. ได้เวลาอภิปรายกันสั้น ๆ คนละประมาณ 5 นาที ประเด็นที่ สว.หลายท่านอภิปรายถึงมากที่สุด คือ เรื่องการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท

เช่น สว.คำนูณ สิทธิสมาน ระบุว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นนโยบายที่ฉลาด และกล้าหาญ แต่ก็มีความสุ่มเสี่ยงให้เกิดข้อโต้แย้ง โดยเฉพาะเรื่องที่มาของงบประมาณ ซึ่งไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาล

ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐมนตรีท่านหนึ่งออกมาให้ข่าวทำนองว่า ที่มาของเงินอาจจะใช้ระบบให้หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจทำไปก่อน แล้วให้รัฐบาลจ่ายคืนภายหลัง เปรียบเสมือนโครงการจำนำข้าวเมื่อ 10 ปีก่อน

และตั้งคำถามว่า เป็นไปได้ไหมที่รัฐบาลจะไปแตะสินทรัพย์อื่นของประเทศ ที่ถูกมองว่ามีอยู่มากเพียงพอ เช่น ทุนสำรองระหว่างประเทศ เหมือนที่รัฐบาลเพื่อไทยในอดีตเคยคิดจะทำ

ขณะที่ สว.เสรี สุวรรณภานนท์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายแจกเงิน 1 หมื่น เพราะจะทำให้เกิดการเกทับกัน และส่งผลกระทบกับการบริหารงบประมาณของรัฐ และเมื่อถามถึงที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการนี้ รัฐบาลกลับตอบแบบกำปั้นทุบดิน ว่ามาจากภาษีอากร

ทั้งนี้ตนเห็นว่ารัฐบาลควรนำงบประมาณที่จะใช้ในโครงการนี้ไปสร้างอาชีพให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่ยั่งยืนดีกว่า



-เศรษฐา ยันแถลงนโยบายตรงปก พร้อมรับฟังคำติชม

และหลังจากโดนอภิปรายโจมตี มาตลอดทั้งวัน ถึงนโยบายต่างๆ นายกรัฐมนตรี ได้ลุกได้ชี้แจงย้ำว่า ทุกนโยบาย ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง และมีเป้าหมายชัดเจน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุม ยืนยันว่า รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือดูแลเกษตรกร โดยการเพิ่มรายได้ ควบคู่ไปกับการนี้ พักหนี้ให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ภายใน 4 ปี

ส่วนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีผู้อภิปรายเรียกร้องให้ยกเลิก การใช้เงินใน4 กิโลเมตร เพราะอาจทำให้ร้านค้าแอบขึ้นราคา ได้นั้น นายกฯ บอกว่า ขอไปดูรายละเอียดและดำเนินการให้เหมาะสมต่อไป

ขณะที่นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และ ปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาท ตามที่ได้หาเสียงไว้นั้น ว่ารัฐบาลได้ ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นได้ พร้อมยืนยันว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ สส. พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายทวงถามยังคงอยู่เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน

นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางออกจากอาคารรัฐสภาในช่วงค่ำ ด้วย ยืนยันว่านโยบายของรัฐบาลตรงปกทุกอย่าง แต่ก็พร้อมรับฟังทุกคำอภิปราย และขอยังปฏิเสธที่จะให้คะแนนตัวเอง กับฝ่ายค้าน โดยบอกว่าตัวเอง ไม่ใช่ครู

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจง นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาทว่า เป็นโครงการสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

ในส่วนแหล่งที่มาของงบประมาณยืนยันรัฐบาลยึดจะมั่นกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้ว จะมีกระบวนการที่ชัดเจน โดยไม่ไปแตะต้องทรัพย์สมบัติของชาติ เช่น กองทุนน้ำมัน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ กองทุนประกันตน อย่างแน่นอน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/V6-5PtyMeZE