เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 6 ก.ย.66 ครม.ใหม่เข้าถวายสัตย์-พิธา อวยพร ครม.เศรษฐา1-บุกจับนายช่างรับสินบน

1.โปรดเกล้า ครม.ใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่

2.ศาลยกฟ้องคดี แอม ไซยาไนด์ ฟ้อง รพี หมิ่นประมาท

ศาลยกฟ้องคดี แอม ฟ้องรพี ผู้ประสานงานคดีเหยื่อถูกวางด้วยไซยาไนด์จนเสียชีวิต ในข้อหาหมิ่นประมาท ทนายพัช จ่ออุทธรณ์ พร้อมดำเนินคดีข้อหาใช้เอกสารเท็จ อ้างมีหลักฐานเด็ด ด้าน รพี จี้ ทนายพัช รีบหาทางลง อย่าดื้อดึง ให้ผิดเป็นถูก ให้ถูกเป็นผิด อีกเลย

3.บุกจับ นายช่างอาวุโส เขตลาดกระบัง รับสินบนคาโต๊ะทำงาน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง คาโต๊ะทำงาน หลังวงจรปิดชัด มัดเรียกรับสินบนครึ่งแสน จากผู้ขออนุญาตต่อเติมอาคาร เร่งขยายผลหาคนร่วมขบวนการ เจ้าหน้าที่ ปปง.ตรวจเส้นทางการเงินเชื่อไม่ได้ทำครั้งเดียว

4.หลวงตา ยันไม่ได้ลวง ด.ญ. 12 อนาจาร ท้าตรวจ DNA

เจอตัวแล้ว หลวงตาแหว ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้ให้นกต่อลวงเด็กหญิงวัย 12 มาอนาจารแลกเงิน 120 บาท แถมขู่ปล่อยปอบที่เลี้ยงไปกินไส้ ถ้าเอาเรื่องไปบอกพ่อแม่ ยันบริสุทธิ์ไม่ได้ทำผิด แต่มีคนกุข่าวหวังไล่ออกจากวัด ท้าให้ตรวจดีเอ็นเอ ถ้าผลออกมาว่าผิด พร้อมสึกทันที ตำรวจมั่นใจเอาผิดหลวงตาได้แน่ ด้านแม่เด็กลั่น ดำเนินคดีถึงที่สุด จวกทำไมปากแข็ง กล้าทำไม่กล้ารับ

5.จับหนุ่มลักครีมหน้าขาวถึงบ้าน อ้างแฟนสาวอยากหน้าใส

ตามรวบถึงบ้าน หนุ่มวัย 38 ปี ลักของร้านสะดวกซื้อ แล้วซิ่งมอเตอร์ไซค์หนี เจ้าตัวสารภาพ เป็นคนในวงจรปิดจริง อ้างลักครีมหน้าขาว เพราะแฟนสาวอยากหน้าใส แต่ของที่ขโมยไป มีทั้งเหล้าราคาแพง และบุหรี่เพียบ พบก่อเหตุ 3 ครั้ง ความเสียหายเหยียบหมื่น

6.เพจดัง แฉ! นักร้องดัง รีเทิร์นเมียน้อย

เพจดังแฉ นักร้องดัง รีเทิร์นเมียน้อย พร้อมคำใบ้ “มิงกะลาบา” ลั่น! ให้รอดูภาพเด็ดจากพยานผู้พบเห็น ก่อนโพสต์อีกว่า “มึงกะลาบ้า” ชี้พยานมากกว่า 3 ปาก รอแค่ภาพถ่าย รอบนี้คนที่พบเห็นใช้เป็นพยาน ในชั้นศาลได้ด้วย มึงจบแล้วแหน พี่ชายกูกลับมาแล้วเจอกัน ชาวเน็ตแห่คอมเม้นต์ใบ้มาขนาดนี้ นักร้องดัง คนที่คุณก็รู้ว่าใคร



เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา ถก ครม. นัดพิเศษวันนี้

ภายหลัง ครม.เศรษฐา 1 เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นรัฐมนตรี โดยสมบูรณ์แล้ว กระบวนการหลังจากนี้ จะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาต่อไป

โดยภายหลัง เข้าเฝ้าฯ นายกฯเศรษฐา ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยบอกว่าจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางปฏิบัติราชการ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลของประชาชน รัฐบาลนี้มีความตั้งใจ ปัญหามีมากมาย จะทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย ทุกวันทุกนาทีจะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง เริ่มจากวันศุกร์นี้ (8 ก.ย.) จะลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย เพื่อพูดคุย รับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป

ส่วนวันจันทร์หน้า 11 ก.ย. จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา และยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพและโปร่งใส ภายใต้หลักการที่มีส่วนร่วมของประชาชน

ส่วนการประชุมครม.นัดพิเศษในวันนี้ เวลา 20.00 น. นายกฯเศรษฐา บอกว่า จะคุยเรื่องเดียวคือการเตรียมตัวแถลงนโยบาย ส่วนเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลนี้ทุกท่านให้ความสำคัญ ขอไปคุยกันเองภายในรัฐบาลก่อนสำหรับพรรคร่วม เพราะหลายท่านอาจมีข้อคิดดีๆ ขอคุยภายในก่อนแจ้งให้ทราบ



-เศรษฐา หวังแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ 1 ก.พ. 67

ภายหลังแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ เข้าร่วมประชุม สส.พรรคเพื่อไทย และแจ้งต่อ ที่ประชุม หวังแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะได้ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567

นายกฯเศรษฐา ยังบอกด้วยว่าเราไม่มีเวลาฮันนีมูน ต้องทำงานกันต่อ ซึ่งเรื่องนี้พูดคุยกับรัฐมนตรีของเพื่อไทยทั้ง 16 คนไปแล้วถึงนโยบายโดยรวมว่าเราจะทำกันอย่างไร วันนี้จึงอยากจะย้ำว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน เราต้องทำงานตลอดเวลา เราไม่ได้มาด้วยต้นทุนที่สูงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเราไม่มีเวลาหายใจ

ซึ่งตลอด2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชนตลอดเพื่อเก็บข้อมูลแม้จะยังไม่แถลงนโยบายต่อสภา และ การทำงานหลังจากนี้อยากให้ สส. ช่วยกันให้คำแนะนำ ตนและรัฐมนตรีรวมถึงรัฐมนตรีจากพรรคร่วมจะรับไปดำเนินการแก้ไขทันที



-พัชรวาท เผย บิ๊กป้อม ยังคุม พปชร. ไม่วางมือการเมือง

พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นครั้งแรกที่ได้เจอผู้สื่อข่าวหลังเข้ารับตำแหน่ง ก็ถูกถาม ว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในฐานะพี่ชายได้ฝากฝังอะไรหรือไม่ โดย ระบุเพียงว่า “ได้ฝากหลักการทำงานมาแล้ว”

นอกจากนี้ ยังปฏิเสธกระแสข่าวว่าจะมาดูแลพรรคพลังประชารัฐ แทนพลเอกประวิตร โดยระบุว่า พลเอกประวิตร ยังเป็นหัวหน้าพรรค และท่านยังไม่ได้พูดว่าจะลาออกจาก สส.เมื่อใด / อีกทั้งบอกว่า ขณะนี้พลเอกประวิตร ยังไม่ได้วางมือทางการเมือง

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่า จากการพูดคุยกับแกนนำพรรค พลเอกประวิตร ยังคงเป็นสส.และยังเป็นหัวหน้าพรรค ศูนย์รวมใจของสมาชิกต่อไป



- ศรภ. ส่งทีมรักษาความปลอดภัย 14 คน อารักขา บิ๊กทิน

อีกมุมที่น่าสนใจเมื่อวาน คือการส่งทีมรักษาความปลอดภัย อารักขา รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ คือ นายสุทิน คลังแสง ที่ไปรายงานตัวที่บ้านพักแต่เช้า

นี่เป็นภาพทีมดูแลรักษาความปลอดภัยที่ไปรายงานตัวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ นายสุทิน คลังแสง หรือ (รหัส) "สนามไชย 1" ที่บ้านพักเมื่อเช้าวานนี้

ซึ่งมีรายงานว่า ทางศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จำนวน 2 ชุด รวม 14 นาย เข้ารายงานตัวกับ นายสุทิน ที่บ้านพักส่วนตัว โดยจัดชุดรักษาความปลอดภัย ให้สับเปลี่ยนเข้าเวรรักษาความปลอดภัย

และในวันนี้ นายสุทิน เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวคณะรัฐมนตรี โดยมีรถมอเตอร์ไซค์นำจำนวน 2 คัน และรถปิดท้ายขบวน และมีทีม รปภ.ติดตามดูแลใกล้ชิด

แหล่งข่าว ศรภ. เปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยทางทหาร ซึ่งทาง ศรภ. ได้เตรียมจัดทีม รปภ. รัฐมนตรีกลาโหม มาแล้ว 3 เดือน ก่อนปรับเปลี่ยนงบประมาณประจำปี ซึ่งได้เตรียมชุด รปภ.สำคัญทางทหาร ตั้งแต่ นายกฯ / รมว.กลาโหม / ปลัดกระทรวงกลาโหม / ผบ.เหล่าทัพ

แต่ในส่วนของนายกฯนั้น ท่านเลือกใช้ชุดรักษาความปลอดภัยของตำรวจ

นายสุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ศรภ. ส่ง เจ้าหน้าที่มารักษาความปลอดภัยว่า ถือเป็นการทำตามหน้าที่ ซึ่งตนได้กำชับไปว่าเอาที่จำเป็น ซึ่งมองว่าตนก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไร แต่เป็นแนวปฏิบัติของกองทัพ และ ตนก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ใกล้ชิด คอยติดตามระหว่างลงพื้นที่อยู่แล้ว

นอกจากนี้ เมื่อวานคณะทำงานของนายสุทิน ได้เข้าไปปรับปรุง ตกแต่ง ห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงห้องของคณะทำงาน โดยได้ปรับย้ายการจัดวางสิ่งของภายในห้องให้เหมาะสม ซึ่งสิ่งของส่วนใหญ่ ยังเป็นของเดิมในสมัยของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม



-พิธา อวยพร ครม.เศรษฐา1 ทำนโยบายเหมือนที่หาเสียงไว้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบปะแฟนคลับที่มาอวยพรวันครบรอบวันเกิด 43 ปี ถึงการทำงานของครม.ชุดใหม่ ก็อวยพรให้ ครม.ชุดทำงานได้ตามที่หาเสียงไว้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไปดีเบตในสื่อต่างๆ หลายช่อง

ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องฟังคำวิจารณ์จากฝั่งตน แต่ขอจำให้ได้ว่าตอนที่ดีเบตหาเสียงพูดไว้อย่างไร ดังนั้นบอกว่า “ปฏิรูปกองทัพก็คือปฏิรูปกองทัพ”

เมื่อถามว่าให้เวลา ครม.ใหม่ในการทำงานเท่าใด นายพิธา บอกว่า ตนยึดคำพูดของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่ระบุว่า ไม่มีเวลารอฮันนีมูนอีกต่อไป เพราะประชาชนเดือดร้อนและรอมานาน อยากจะให้รีบทำงานให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ส่วนเรื่องการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายพิธา บอกว่า ฝ่ายค้าน ต้องรอเอกสารนโยบายที่เป็นรูปเล่มก่อน แต่ได้เก็งข้อสอบไว้บ้างแล้วในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ถ้าไม่อยู่ในนโยบายนี้ ก็คงต้องตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เกิดขึ้น



- ปกรณ์วุฒิ แฉ พรรครัฐบาลรุมกินโต๊ะ ก้าวไกล วงแบ่ง กมธ. สภาฯ

ก้าวไกล แฉโดนฝั่งรัฐบาลรุมกินโต๊ะ ในการแบ่งกรรมาธิการสภาฯ ให้กรรมาธิการที่ไม่มีพรรคไหนเลือก ถามถ้า "ก้าวไกล" ไม่ยอม จะกลายเป็นคนดื้อหรือไม่

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานวิปพรรคก้าวไกล แถลงถึงการเจรจาแบ่งเก้าอี้กรรมาธิการว่า ในปี 62 มีกติกา คือ พรรคที่ได้เสียงมาเป็นอันดับแรก ก็จะเลือก กมธ.ก่อน และจะวนกัน นั่นคือ พรรคใหญ่จะได้เลือกก่อน แต่สุดท้ายทุกคนก็ไม่ได้ทุกอย่าง และก็ไม่ได้เสียทุกอย่าง และทุกอย่างก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น

แต่พอมาครั้งนี้ มีการเสนอกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ให้แต่ละพรรคเลือกมาก่อน หากอันไหนที่ซ้ำกันค่อยมาตกลงเจรจา ซึ่งพรรครัฐบาลต้องการจะเป็นประธาน กมธ.ที่เกี่ยวเนื่องกับที่เป็นเจ้ากระทรวง ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องเลือก กมธ.ซ้ำกัน แต่มาซ้ำกับพรรคก้าวไกลเยอะที่สุด

ซึ่งการโยน ว่า ปัญหาคือพรรคก้าวไกลไปเลือกซ้ำกับคนอื่น แบบนี้ไม่แฟร์กับพรรคก้าวไกล แล้วจะบอกว่า เราไม่ถอยหรือ จึงต้องถามกลับว่า แล้วคุณที่เป็นเจ้ากระทรวงไม่ถอยเพื่อให้เราตรวจสอบบ้างเลยหรือ

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนเป็นการรุมกินโต๊ะพรรคก้าวไกล และถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยอม ก็ จะกลายเป็นคนดื้อหรือไม่

ทั้งนี้ สำหรับกรรมาธิการชุดสำคัญที่การประชุมครั้งที่ 2 ยังไม่สามรถตกลงกันได้ 6 คณะ เมื่อวานทางพรรคก้าวไกล ระบุว่า ที่ตกลงได้แล้ว คือ กมธ.ติดตามงบประมาณ แต่ กมธ.อีกคณะที่ก้าวไกลอยากได้ แต่ยังตกลงไม่ได้ คือ กมธ. ป.ป.ช. เนื่องจากพรรคเพื่อไทยก็ต้องการ

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ถ้ารัฐบาลเศรษฐา ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตจริง ตามที่ได้ประกาศไว้ในวันรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ก็ อย่ากลัวการตรวจสอบ จากฝ่ายค้าน...กรรมาธิการ ที่เกี่ยวกับการตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ควรให้พรรค ฝ่ายค้าน ได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้รัฐบาล... ในรัฐบาลประยุทธ กรรมาธิการตรวจสอบ ส่วนใหญ่อยู่กับฝ่ายค้านมาแล้วนะคะ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถ้ารัฐบาลนี้ไม่ให้ ก็จะเป็นเรื่องแปลก หวังว่าจะเห็นความจริงใจจาก นายกเศรษฐา

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ptFJGF-XyvQ