สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 29 ส.ค.66 เศรษฐายันโผ ครม.นิ่งแล้ว-แฉไลน์เพื่อไทยเดือด-เยี่ยมทักษิณวันแรก

29 ส.ค. 2566

88 views

1.วันแรกเยี่ยมทักษิณ - อุ๊งอิ๊ง เดินทางเข้าเยี่ยม

วันแรกเยี่ยม ทักษิณ รพ.ตำรวจ แจงหลักเกณฑ์เข้าเยี่ยมทักษิณ ต้องหารือร่วมระหว่าง“รพ.ตำรวจ-กรมราชทัณฑ์ อาจมีข้อกำหนดอื่นเพิ่มเติม ย้ำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเป็นของราชทัณฑ์ เข้าเยี่ยมได้ครั้งละไม่เกิน 1-2 คน ด้านอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เดินทางเข้าเยี่ยมทักษิณ ใช้เวลา 40 นาที ก่อนเดินทางกลับ เผยสั้นๆ จะให้สัมภาษณ์ความคืบหน้า อาการป่วยของในวันนี้ที่พรรคเพื่อไทย ก่อนพยักหน้ารับอาการดีขึ้น

2. บิ๊กโจ๊ก ลุยสางคดีฆ่าลูก-เมีย 3 ศพ - พ่อคนลงมือพ้นขีดอันตรายแล้ว


สลดหนุ่มวัย 44 ปี เครียดจัดหลังไปค้ำประกันจนบ้านถูกยึด แถมยังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกจนเป็นหนี้ 1.7 ล้าน คิดสั้นใช้มีดอีโต้ฆ่าลูก 2 คน และเมียก่อนใช้มีดเล่มเดียวกันปาดคอตัวเองสาหัส เปิดวงจรปิดพบภาพสุดท้าย ครอบครัวผ่านเข้า-ออกหมู่บ้าน ไร้ท่าทีก่อเหตุไม่คาดฝัน ด้านบิ๊กโจ๊ก ลุยสางคดีเครียดหนี้ท่วม เผยผู้เป็นพ่อคนลงมือ พ้นขีดอันตรายแล้ว เร่งตรวจสอบแอปหลอกกู้เงิน

3.ระทึก! ไล่กวดซิ่งหนีสายตรวจโจรลัก จยย.รวบกลางคลองเตย

ตร.บางเขน ไล่ล่าโจรลักรถจักรยานยนต์ เขตลาดพร้าว ซิ่งฝ่าถนนกลางกรุงหนีสุดชีวิต กว่า 10 กิโลเมตร เร่งเครื่องจนน้ำมันหมด ก่อนทิ้งรถวิ่งหนีเข้าไปตลาดคลองเตย สุดท้ายไม่รอดถูกรวบทันควัน สืบพบประวัติเคยก่อเหตุอื้อ ก่อนรับสารภาพก่อเหตุจริงแต่ที่หนีเพราะกลัวถูกจับ เพราะได้เสพยาบ้ามา เตรียมส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดี

4.ปลอมเฟซฯ ผู้ประกาศสาว ตุ๋นอดีตผู้ว่าการ กปน. 20 ล้าน

ขบวนการมิจฉาชีพ ปลอมเฟซบุ๊ก กวาง อรการ ผู้ประกาศสาวดัง หลอกจีบอดีตผู้ว่าการการประปานครหลวง ออดอ้อนสารพัด แชตหวานเรียก พี่ บางครั้งก็ที่รัก ชักชวนลงทุนคริปโตฯ เสียหายเกือบ 20 ล้าน ด้าน ผบก.สอท.1 ไม่ยืนยันจะได้เงินคืนเท่าไร แต่ตำรวจจะทำให้ดีที่สุด ฝากเตือนนักลงทุนให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อนลงทุน ให้ชัดเจนก่อน

5. จับแล้วมือปืนยิงปลัดอำเภอดับ เป็นหนุ่มมีประวัติยุ่งเกี่ยวยาเสพติด


จับแล้วมือปืนยิงปลัดอำเภอดับ หลังตำรวจใช้เวลา 1 วัน ตามจับ พบเป็นคนในหมู่บ้าน มีประวัติเรื่องยาเสพติด รับสารสิ้นอ้างไม่พอใจโกรธแค้นโดนดุด่า ตักเตือน ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนที่ใช้ก่อเหตุนำไปโยนทิ้งสระในหนุ่มบ้าน ด้านตำรวจเร่งประสานนักประดาลน้ำลงเก็บกู้ ก่อนนำไปประกอบสำนวนส่งฟ้อง

6.ดิว อริสรา เผย! ชนะคดีเบล บุษยา

ดิว อริสรา เผยชนะคดีเบล บุษยา ทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา จากกรณีที่เจ้าตัวเป็นโจทก์ฟ้องหมิ่นประมาทอีกฝ่าย ที่มีการโพสต์พาดพิงในไอจี ล่าสุดศาลพิพากษามีความผิดจริง เช่นเดียวกับศาลแพ่ง เห็นสมควรกำหนดโทษจำเลยเป็นอุทาหรณ์การใช้โซเชียล ฟากดิวโพสต์ขอบคุณทุกกำลังใจ รู้สึกยินดี และดีใจที่ความยุติธรรมมีอยู่จริง


เรื่องเล่าหน้าหนึ่งการเมือง 28 สิงหาคม 66

-เศรษฐา ยัน โผ ครม.นิ่งแล้ว เข้าขั้นตอนตรวจคุณสมบัติ


นายกฯ เศรษฐา เผย โผ ครม. นิ่งแล้ว เตรียมส่งชื่อให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติวันนี้ รับมีทั้งคนสมหวัง และผิดหวัง อุบตอบ ชื่อรัฐมนตรีกลาโหม

เมื่อวานนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดโผ ครม. ว่า นิ่งหมดแล้ว ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ ขอให้รออีกนิด

เมื่อถามถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากเดิมที่มีชื่อทั้ง นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการ สมช. นายเศรษฐา ยังไม่ให้คำตอบ บอกต้องให้เกียรติ ขอให้รอความชัดเจน เชื่อว่าหากเปิดรายชื่อออกมาจะไม่ผิดหวัง ขอให้ดูที่ผลงาน

นายเศรษฐา คาดว่า รัฐบาลจะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาได้ก่อนกลางเดือนกันยายน ส่วนจะต้องเร่งให้ทันการประชุม UN ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ขอดูขั้นตอนก่อน เพราะตามมารยาทจะต้องเดินทางเยือนประเทศกลุ่มอาเซียนก่อนหรือไม่ เนื่องจากเป็นมือใหม่ จึงขอศึกษาก่อน แต่ยอมรับว่า เวทีประชุม UN เป็นเวทีใหญ่ที่จะมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำทั่วโลก ซึ่งอาจจะได้หารือเรื่องธุรกิจการค้าไปด้วย

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝากถึงรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องการปฏิรูปกองทัพ นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนตัวย้ำมาตลอดว่า ไม่อยากใช้คำว่าปฏิรูป แต่เป็นการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งนโยบายนี้ได้พูดไปแล้ว แต่ยังต้องดูความเหมาะสม และพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพทั้งหมด ซึ่งจะต้องเจรจากัน



- เปิดโผ ครม.ล่าสุด สุทิน คลังแสง ผงาด รมว.กลาโหม

สำหรับโผ ครม.ที่นายกเศรษฐา บอกว่านิ่งแล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่สะเด็ดน้ำดี แต่จุดที่น่าจะนิ่งแล้วและน่าสนใจที่สุด คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ที่ล่าสุดกลับมาเป็นชื่อคุณสุทิน คลังแสง

สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนหน้านี้เป็นชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการ สมช. มือทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงสถานการณ์โควิด โดยมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฝากมา แต่หลังปรากฏชื่อ ก็มีแรงต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดงทันที

ทำให้สุดท้ายต้องมีการเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็นนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยมีชื่อออกมาในช่วงแรก

ขณะที่ช่วงเย็นเมื่อวาน พรรครวมไทยสร้างชาติมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาบุคคลจากที่จะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี 4 คน ของพรรค ซึ่งสุดท้ายมีรายงานว่า 4 คน ที่จะเป็นรัฐมนตรีของพรรคได้แก่

1. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เป็นรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

2. นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช เป็นรัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม

3. นายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

และ 4. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. ที่เดิมมีชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยคลังในโควต้าพรรคเพื่อไทย จะมาเป็นรัฐมนตรีช่วยคลังเป็นโควต้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

ซึ่งช่วงค่ำเมื่อวาน นายกฤษฎา ได้ปรากฏตัวที่พรรครวมไทยสร้างชาติ และทันทีเจอผู้สื่อข่าว นายกฤษฎา ก็มีสีหน้าที่ตกใจ และบอกว่ามาพบนายพีระพันธุ์ ก่อนที่เลขาในพีระพันธ์จะมารับเพื่อขึ้นไปพบด้านบนประมาณ 20 นาที หลังจากนั้น นายกฤษา ก็กลับลงมาพร้อมถือซองเอกสารสีน้ำตาล เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าส่งรายชื่อเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายกฤษฎา กล่าวว่า มาคุยงานกันเฉย ๆ ครับ และพยายามปฏิเสธเรื่องมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยคลังในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยบอกว่า ตอนนี้ยังคงดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังอยู่

ทั้งนี้เมื่อนายกฤษฎา มาเป็นรัฐมนตรีช่วยคลังในโควต้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะทำให้โควต้าของพรรคเพื่อไทยขาดอยู่ 1 ตำแหน่ง ซึ่งก็มีทั้งกระแสข่าวว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล อาจจะเข้ามาเป็นรองนายกฯดูแลด้านกฎหมาย และมีกระแสข่าวว่า นายพิชิต ชื่นบาน อดีตทนาย นายทักษิณ ชินวัตร จะมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนัก

แต่ก็มีข่าวอีกกระแสบอกว่า แม้นายกฤษฎา จะเป็นรัฐมนตรีช่วยคลังจากพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่จะอยู่ในโควต้าของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้โควต้ารัฐมนตรีอีกคน ซึ่งก็มีชื่อของนายธนกร วังบุญคงชนะ ปรากฏขึ้นมา ต้องรอดูชัดๆ อีกที่ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไรแน่


- ไลน์เพื่อไทย ระอุ! สส.โวย ยก มท. - กษ. ให้พรรคร่วมขู่คว่ำรัฐบาล

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย มีรายงานว่าช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาไลน์กลุ่มของพรรคร้อนระอุ มีการระบายความในใจอย่างดุเดือด ไม่พอใจที่พรรคยกกระทรวงสำคัญ ๆ โดยเฉพาะมหาดไทยและเกษตรฯให้พรรคร่วมรัฐบาล มีการเตือนว่าพรรคจะสูญพันธุ์ และขู่คว่ำรัฐบาล

สำหรับข้อความที่บรรดา สส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมากระบายเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพรรค เช่น -"เรียนฝ่ายบริหาร ถ้าเป็นไปได้ ขอเถอะครับ ขอเกษตรคืน ไหนๆมหาดไทยก็ไม่ได้..."

อีกท่าน บอก "ขอให้ท่านทบทวนเรื่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯให้อยู่ในพรรคเพื่อไทยของเราค่ะ / การแก้ปัญหาระบบชลประทานที่พรรคเราหาเสียงไว้ / หากพรรคอื่นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตรฯ สส.เขต ไม่สามารถตอบคำถามและแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้"

และมีอีกท่านมาเสริม ว่า "...หากพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ดูแล กระทรวงเกษตร แก้ไขปัญหาแหล่งน้ำ เรื่องภาคการเกษตร ที่ดินทำกิน จะมีผลต่อการเลือกตั้ง สส. เขตในสมัยหน้า ดังนั้น ผมขอเสนอแนวคิด ควรเอาพรรคพลังประชารัฐ ออกไป เราจะเหลือเสียงอยู่ 274 เสียง ซึ่งเพียงพอแล้ว และพรรคจะได้ รมต. คืนกลับมาอีกหลายกระทรวง "

ท่านนี้ บอก... "ลงพื้นที่ พี่น้องประชาชนก็ถาม ทำไมถึงจะเอากระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรให้กับพรรคการเมืองอื่น ขนาดประชาชนบ้านนอกอย่างบ้านผม ยังรู้การเมืองเลย เค้าบอกว่ากระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรเป็นกระทรวงหลัก ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ และจะต่อยอดทางการเมืองในการเลือกตั้งเที่ยวหน้าด้วยครับ"

อีกท่าน ที่เขียนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพรรคเพื่อไทยอย่างยาว ช่วงแรกบอกว่าเป็นคำพูดประชาชนที่พูดใส่มา ซึ่งดุเดือดมาก เช่นท่อนนึงบอกว่า "...อยากเป็นนายกฯกันขนาดนี้เลยหรือ ถึงยอมให้พรรคอื่นเอากระทรวงสำคัญๆไปหมด อยากจะรู้ว่า นโยบายที่บอกไว้จะทำได้อย่างไร หรือจะทำแต่เงิน10,000 อย่างเดียว เป็นพรรคใหญ่เสียเปล่า ไร้ศักดิ์ศรี เหลือแต่กระทรวงขี้กาก"

และ สส.ท่านนี้ก็เขียนข้อความถึงผู้บริหารพรรคยาวเหยียด บอก "ผมหมดแรง หมดกำลังใจพอได้ยินแบบนี้...คนที่รักผม รักพรรคเพื่อไทยอย่างสุดหัวใจมาตลอด มาพูดแบบนี้แล้ว เลือกตั้งส.ส.ครั้งหน้า ผมจะรอดหรือ? คำพูดที่มีคนปรามาสไว้ ว่า "พรรคเพื่อไทยจะสูญพันธุ์ในการเลือกตั้งส.ส.สมัยหน้า ก็คงไม่ใช่สิ่งที่เกินเลยแล้วครับ" พรรคเพื่อไทยจะไม่สงสาร สส.ในพรรคบ้างหรือครับ ที่จะต้องมาจบชีวิตทางการเมืองเช่นนี้

ถ้าเป็นเช่นนี้ ในอนาคตถ้ามี ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย คิดเอาตัวรอดอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงพรรคเพื่อไทย "ผมขอถามว่า" รัฐบาลจะอยู่กันได้ตลอดรอดฝั่งหรือ? "ผมฝากผู้บริหารพรรคคิดว่าจะทำอย่างไร กับสถานการณ์เช่นนี้ จะปล่อยไปแบบนี้โดยไม่สนใจ ความคิดเห็นของ ส.ส. ที่ร่วมต่อสู้กันมา หรือพรรคคิดว่าพวก สส.นั้นไม่กล้าที่จะคว่ำรัฐบาลของพรรคตัวเอง อย่าลืมสุภาษิตที่ว่า "คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก"



-ศุภชัย โต้เดือดซัด สาทิตย์ พาดพิง พ่ออนุทิน คดีสอบนายอำเภอ

เมื่อวานนี้มีกรณีที่อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ออกมาพูดพาดพิง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ และเป็นคุณพ่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับการจัดโผ ครม.

โดยนายสาทิตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ รายการหนึ่ง ถึง โผ ครม.ที่ออกมา และมีชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งนายสาทิตย์ แสดงความเห็นว่า พรรคภูมิใจไทย มีเป้าหมาย ที่จะคุมกระทรวงมหาดไทย อีกครั้ง และพาดพิง ไปสมัยที่คุณพ่อของนายอนุทิน เป็นรัฐมนตรีว่า ยังเคยมีปัญหาเรื่องสอบนายอำเภอมาก่อน

เรื่องนี้ทำให้ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ออกมาชี้แจง ตอบโต้ทันทีว่าสิ่งที่ นายสาทิตย์พูด นั้นเป็นการพูดที่สร้างความคลุมเครือ ให้สังคมโดยทั่วไป หลงเชื่อว่านายชวรัตน์ มีส่วนเกี่ยวข้อง กับคดีทุจริตการสอบนายอำเภอ ที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ทั้งที่ข้อเท็จจริง คดีนี้มีการดำเนินคดี อธิบดีกรมการปกครอง และข้าราชการอื่นๆ ในกรมการปกครอง ไม่ได้มีการกล่าวหา นายชวรัตน์ และนายชวรัตน์ ก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นการกระทำผิดดังกล่าว การพูดของนายสาทิตย์ จึงถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เป็นการหมิ่นประมาทโดยเจตนา

นายศุภชัย ยืนยันว่า หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับการแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ตามโผ เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการที่นายชวรัตน์ เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาก่อน แต่อย่างใด

นายศุภชัย ยังเรียกร้องให้นายสาทิตย์ อยู่อย่างสงบ อย่าได้ออกมาให้ความเห็นอะไรกับสังคม เพราะประชาชน ในจังหวัดตรัง ได้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เอานายสาทิตย์ สิ่งที่แสดงให้เห็นคือความไม่มีวิสัยทัศน์ ในการที่รัฐบาลจะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปมากกว่า



- ผู้สมัคร สส.ก้าวไกล แจงเหตุไม่เสียภาษี เพราะรายได้ไม่ถึงเกณฑ์

เมื่อวานนี้ เพจของ สำนักงาน กกต. จังหวัดระยอง โพสต์ข้อมูลการเสียภาษีของผู้สมัคร เลือกตั้งซ่อม สส. ระยองเขต 3 ปรากฎว่า ผู้สมัคร จากพรรคก้าวไกล มีชื่ออยู่ในบุคคลไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

นี่เป็นเอกสาร ที่สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดระยอง โพสต์ หลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครลงเลือกตั้ง ซ่อม สส. 3 คน แต่พบว่า นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล เป็นบุคคลที่ ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในขณะที่ นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ พรรคประชาธิปัตย์ และ ร.ต.ต.เรืองชัย สมบัติภูธา ผู้สมัครพรรคแรงงานสร้างชาติ เสียภาษีเรียบร้อยแล้ว

นายพงศธร ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า ตามที่ประกาศระบุ ตนเองไม่เสียภาษีนั้น เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากตอนกรอกอาชีพในใบสมัคร สส. ตนเองกรอกเป็นบุคคลที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี เนื่องจากมีรายได้ไม่ถึง 220,000 บาทต่อปี ซึ่ง ทาง กกต. ก็มีการประกาศรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้กระทบต่อการสมัครแต่อย่างใด

นอกจากนี้ นายพงศธร ยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันว่าผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งตรวจสอบหลักฐานการสมัคร คุณสมบัติของผู้สมัคร และสอบสวนแล้ว เห็นว่า นายพงศธร เป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้สมัคร สส.



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/gckSVwx3rdg

คุณอาจสนใจ

Related News