สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 9 มิ.ย.66 สั่งนับคะแนนใหม่47หน่วย-แฉ ตร.หญิงติดยศ ร.ต.อ.-เตรียมเด้ง ตร.ส่วยสติกเกอร์

โดย thichaphat_d

9 มิ.ย. 2566

49 views

-เพจเพื่อนตำรวจแฉ นักร้องลูกทุ่งหญิง จาก ส.ต.ต หญิง สู่ ร.ต.อ.หญิง โดยใช้เวลา 4 ปี อ้างหลักสูตร กอส. พร้อมตั้งคำถาม ตำรวจคนอื่นเป็นประทวนร่วม 10 ปี ยังไม่ติดดาว แซะตำรวจ นามสกุลดังๆ ทั้งนั้น แอ๊คเท่ สวยหล่อ อัพไอจี - ติ๊กตอก โพสต์เฟซอวดตัวเอง ผู้บังคับบัญชาก็ชื่นชมว่า เป็นหน้าเป็นตา

ด้านรังสิมันต์ โรม โฆษกก้าวไกล รับลูก ลุยตรวจสอบการใช้เส้นสาย มอง เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการขายตั๋ว ชี้ไม่ได้มีแค่คนนามสกุลดัง แต่อาจมีธุรกิจผิดกม.ส่งคนเข้าเรียน ลั่นในรัฐบาลก้าวไกล กำลังขาที่ตำรวจมีจะต้องใช้ในการจับโจร ไม่ใช่ใช้เพื่อวิ่งหานายอีกต่อไป

-พ่อผู้กองแคท แจงปมดรามาแทนลูกสาว ยืนยันทุกอย่างมีวาระ มีช่วงเวลาของมันอยู่ ว่าถึงเวลาตรงไหน ระบุลูกสาว ก็ไม่ได้กังวล ใครอยากจะดรามาอะไร ก็ดรามาไป

ด้าน โฆษก ตร. แจงยิบ ร.ต.อ.หญิง บรรจุเป็นตำรวจยศสิบตำรวจตรีหญิง ปี 2563 และผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร กอส. ในปี 2564 และเลื่อนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ยศร้อยตำรวจตรีหญิง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.64 และใช้ระยะเวลาครองยศ 8 เดือน ได้รับการเลื่อนยศเป็น ร.ต.ท.หญิง และครองยศ ร.ต.ท.หญิง อีก 1 ปี เลื่อนยศเป็น ร.ต.อ.หญิง รวมระยะเวลา 1 ปี 8 เดือน เป็นไปตามตามกฎ ก.ตร.

-เตรียมเด้งยกแผง 40 ตร.ทางหลวง เซ่นส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการ ผบก.ทล. ลั่นถึง เวลาปัดกวาดบ้านของตัวเอง หลังพบหลักฐานและข้อมูลพาดพิงที่ได้รับจากผู้ประกอบการ โยง ตำรวจทางหลวง มีอยู่ประมาณ 35-40 นาย ตั้งแต่ระดับชั้นประทวนไปจนถึงระดับชั้นสัญญาบัตร

ด้านวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และประธานสหพันธ์การขนส่งฯนำ หลักฐานการส่งส่วยสติกเกอร์ มอบจเรตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ พร้อมหวังแก้ปัญหาจริงจัง แฉเพิ่มมีตำรวจค้าสำนวนร่วมอัยการ ให้ออกคำสั่งยึดรถบรรทุกที่ไม่จ่าย ด้านจเรตำรวจแห่งชาติ ระบุ ขอตรวจสอบ 15 วันจะมีความชัดเจน

-สุดช็อก ชายปริศนา บุกรุกคลีนิกรักษาสัตว์ยามวิกาล ประชิดตัวบ้าน ใช้โซ่ฟาดกล้องวงจรปิด ขณะที่เจ้าของบ้านสุดกลัว ต้องนั่งแอบหลังตู้เสื้อผ้า กด 191 สายไม่ว่าง โทรติด สายตัด ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายโทรให้พ่อรีบมาช่วยไล่ออกจากบ้าน ก่อนที่ตำรวจมาถึง แต่บอกเป็นคนบ้า จับไปก็ต้องปล่อย หลังเกิดเหตุ ผกก.เมือง รุดสอบ รับปากหาตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้

-พิธาโผล่คอมเมนต์ ใน IG แอฟ ทักษอร ชวนดู ละคร “แค้น” ตอนแรก ทางช่อง 3 ขณะที่พิธาเม้นท์บอก รอชมพร้อมใส่อิโมจิ รูปไฟ ชาวเน็ตแห่จิ้น กดไลฟ์ คอมเม้นพิธามากกว่า หมื่นห้าพันไลท์ ด้านแอฟตอบกลับ “ดูแล้วจะกลัวนะค่ะ”



เรื่องเล่าการเมือง

-ออกมาแล้ว สำหรับคำสั่งนับคะแนนใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้ง หลังพบปัญหาคะแนนเขย่ง เป็น 47 หน่วย ใน 16 จังหวัด ว่าที่ ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทยใน กทม. ที่ชนะมาด้วยอย่างเฉียดฉิว 4 คะแนน น่าจะโล่ง เพราะ กกต.ไม่ได้สั่งนับคะแนนในเขตใหม่

เมื่อวานนี้ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง นายอิทธิพร บุญประคอง ได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้ง เนื่องจาก กกต. ได้รับรายงานว่าผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ไม่ถูกต้อง แบ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 16 หน่วยเลือกตั้ง และ หน่วยเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ 31 หน่วยเลือกตั้ง โดย 47 หน่วยเลือกตั้งนี้ อยู่ในทั้งหมด 16 จังหวัด

สำหรับกรุงเทพมหานคร ถูกสั่งให้นับคะแนนใหม่ทั้งหมด 6 หน่วย แบ่งเป็น ส.ส.เขต 3 หน่วย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อีก 3 หน่วย

ที่ลุ้นกันคือ ในส่วน ส.ส.แบบแบ่งเขต จะมีการนับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 20 ที่ผู้สมัคร ส.ส.หนึ่งเดียวจากพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เอาชนะมาได้ด้วยคะแนนเฉียดฉิวเพียง 4 คะแนนหรือไม่

ปรากฎว่าที่ กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ ในส่วน ส.ส.แบบแบ่งเขต 3 หน่วย อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 7, เขตเลือกตั้งที่ 15 และเขตเลือกตั้งที่ 18 ไม่มีหน่วยเลือกตั้งที่ 20 ที่ น.ส.ธีรรัตน์ ชนะการเลือกตั้ง

ส่วนหน่วยเลือกตั้งอื่น ๆ ในอีก 15 จังหวัด ได้แก่

-ชลบุรี 2 หน่วยเลือกตั้ง

-ชุมพร 3 หน่วยเลือกตั้ง

-ตรัง 6 หน่วยเลือกตั้ง

-นครนายก 1 หน่วยเลือกตั้ง

-ประจวบคีรีขันธ์ 7 หน่วยเลือกตั้ง

-แพร่ 1 หน่วยเลือกตั้ง

-ลพบุรี 8 หน่วยเลือกตั้ง

-สมุทรสาคร 2 หน่วยเลือกตั้ง

-สระบุรี 2 หน่วยเลือกตั้ง

-สุโขทัย 1 หน่วยเลือกตั้ง

-กาญจนบุรี 2 หน่วยเลือกตั้ง

-ฉะเชิงเทรา 1 หน่วยเลือกตั้ง

-พังงา 2 หน่วยเลือกตั้ง

-เพชรบุรี 1 หน่วยเลือกตั้ง

-และ หนองคาย 2 หน่วยเลือกตั้ง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า กกต. จะให้มีการนับคะแนนใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน นี้



-ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยืนยันไม่กังวลการนับคะแนนใหม่ และ มั่นใจว่าพรรคก้าวไกล อาจจะได้คะแนนมากขึ้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีที่กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ 47 หน่วย ว่า ไม่กังวล และย้ำพรรคก้าวไกล ชัดเจนมาโดยตลอดไม่มีเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ส่วนหากมีการเลือกตั้งใหม่ ก็ยืนยันว่าพร้อมสู้ ทั้งนี้มั่นใจว่าภายหลังการนับคะแนนใหม่ น่าจะได้คะแนนมากขึ้น

ส่วนเมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าคะแนนเขย่งมาได้อย่างไร นายพิธา บอกว่า ตนเป็นห่วงเรื่องบัตรโหล ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ที่ไม่มีชื่อ ไม่มีหมายเลข ไม่มีโลโก้ของพรรคการเมือง ใช้ทั่วประเทศ ก็ทำให้กังวล แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรมาถึงตน



-ขณะที่เมื่อวาน "กลุ่ม 24 มิถุนา" บุก กกต. จี้ให้เร่งรับรอง ส.ส.ภายใน 20 มิ.ย.นี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการโหวตนายกฯและตั้งรัฐบาล และขอให้ตีตกคำร้องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา

นี่เป็นบรรยากาศที่กลุ่ม 24 มิถุนายนประชาธิปไตย นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่อาคาร B ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งโดยเร็ว โดยช่วงหนึ่งได้นำนกหวีดมาเป่าเพื่อเร่งรัดการทำงานของ กกต.

ทางกลุ่ม ระบุว่า การที่ กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ทำให้กระบวนการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่าช้าและไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้โดยเร็ว ทำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรักษาการรัฐบาลอยู่ในอำนาจต่อไป และเปิดโอกาสให้อำนาจนอกระบบประชาธิปไตยและผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเข้าแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

จึงเรียกร้องให้ กกต. เร่งประกาศการรับรองผลการเลือกตั้งภายในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ โดยในวันที่ 20 มิ.ย.จะเดินทางมา กกต.อีกครั้ง เพื่อสอบถามความคืบหน้า

และเรียกร้องให้ กกต.เร่งพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นไอทีวี แต่ทั้งนี้ทางกลุ่มมองว่า กกต.ไม่ควรรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย เพราะจะเป็นการใช้ข้อกำหนดรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และอาจจะนำไปสู่การออกมาชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่ได้

เพราะสังคมรับรู้ว่า itv ไม่มีอยู่จริง นายพิธาไม่ได้ถือหุ้นตั้งแต่มีสื่อ itv แต่เป็นการได้รับมรดก และวันนี้ได้โอนไปให้ทายาทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการถือหุ้นเป็นหุ้นที่น้อยมาก ไม่สามารถสั่งการใดๆใน itvได้ การร้องเรียนและการรับเรื่องเป็นไปในทิศทางที่มีเจตนาร้ายและเป็นการโค่นล้มประชาธิปไตย

ทั้งนี้ ทางกลุ่มทำกิจกรรมอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะยื่นหนังสือและเดินทางกลับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 50 นาย มาดูแลสถานการณ์



-พรรคเพื่อไทย ลั่นไม่ทนเตรียมฟ้อง ’สนธิญา’ ฐานร้องเท็จ ปมกระเป๋าดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ชี้เป็นกลั่นแกล้งรังแกให้พรรคเสียหาย

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกรณีนายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นเรื่องร้องเรียน กกต. เพื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย โดยอ้างเหตุชะลอนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ว่าการกระทำดังกล่าว ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหาย สร้างความสับสนวุ่นวาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของผู้ที่ลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย

นางสาวตรีชฎา ระบุว่า นายสนธิญา เพิ่งจะมีจดหมายกราบขอโทษส่งถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังแพ้คดี กรณีที่นายสนธิญาไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.และ กกต. ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังไม่ให้อภัย เพราะต้องการให้นายสนธิญารับกรรมในสิ่งที่ทำไว้ แทนที่นายสนธิญาจะสำนึกว่าการร้องเรียนเพื่อสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้ามไม่หยุดไม่หย่อน จนตัวเองถูกศาลสั่งลงโทษ เหตุใดจึงยังไม่เข็ดหลาบ

หากพรรคการเมืองไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ เหตุใดนายสนธิญาไม่ไปร้อง กกต. กรณีพรรคพลังประชารัฐ อยู่มา 4 ปี ไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ตอนเลือกตั้งปี 2562 ทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 - 425 บาท จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท และอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้ทำตามที่หาเสียงไว้

ดังนั้นการกระทำของนายสนธิญา จงใจใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในสังคม เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 มาตรา 101 ....ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้่งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

"ดังนั้นครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่ทน และไม่ต้องมาขออภัย เพราะที่ผ่านมารังแก กลั่นแกล้งกันเกินไป นักร้องต้องได้รับผลพวงของการกระทำของตัวเองที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นเสียที"


-นอกจากนายสนธิญา สวัสดี แล้ว ยังมีนายศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่ง 2 นักร้อง ยืนยันว่าพร้อมสู้คดี หลังพรรคเพื่อไทย ฟ้องกลับ ฐานร้องเท็จต่อ กกต.


เมื่อวานนี้ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร บอกว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมฟ้องกลับ หลังไปยื่นยุบพรรค ประเด็นชะลอแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ก็ออกมาเตือน ว่า พรรคเพื่อไทยสามารถฟ้องตนได้ แต่ขอไปอ่านกฎหมายให้ดี เพราะ "หากตนเอาเรื่องจริงมาพูด ไม่ใช่เรื่องเท็จ พรรคเพื่อไทยจะโดนโทษเป็น 2 เท่า ถึงขั้นถูกการยุบพรรค"

นายสนธิญา ย้อนว่า พรรคเพื่อไทย บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย ก็อยากให้เคารพตามระบอบประชาธิปไตย และตั้งคำถามว่า นี่เป็นการฟ้องเพื่อปิดปากหรือไม่

ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยืนยันไม่มีอะไรน่ากังวล กรณีนายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ แจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ฐานแจ้งความเท็จใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย หลังกกต.ตีตกคำร้องไปยื่นยุบพรรค จากการแถลงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน

ก็บอกว่า จริงๆ ผู้ที่จะร้องเอาผิด ต้องเป็นหน้าที่ของ กกต. จะพิจารณาว่า เข้าข่ายเป็นการร้องเท็จหรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคการเมือง แต่ส่วนตัวพร้อมสู้ตามกระบวนการ และมั่นใจว่า การยื่นตรวจสอบเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ

และยืนยันว่า จากนี้ยังเดินหน้าตรวจสอบ และ อาจเข้มข้นกว่าเดิมด้วย บอกว่าเรื่องที่ถูกฟ้องนั้น เป็นแค่เรื่อง “ขี้ปะติ๋ว”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fSzbBg_PHmg

คุณอาจสนใจ

Related News