สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 30 พ.ค.66 ซัดกันนัวปมส่วยสติกเกอร์ - ชลน่านยันเพื่อไทยไม่มีดีลลับ - บิ๊กตู่ปัดตอบรอส้มหล่น

โดย nattachat_c

30 พ.ค. 2566

65 views

- ซัดกันนัวปมส่วยสติกเกอร์ ทางหลวงฯ ชี้ต้องแก้ที่ต้นตอ คือกฎหมาย เอาผิดผู้ประกอบการใช้รถบรรทุกเกินน้ำหนัก ไม่ใช่แค่จับปรับคนขับ ลุยตั้งคณะทำงานสอบหากพบเจ้าหน้าที่เอี่ยว ดำเนินคดีทุกนาย ห้ามอ้างทำอาชีพตำรวจไม่พอกินไม่ได้ ถ้างั้นก็ให้ไปทำอาชีพอื่น


สหพันธ์ขนส่งทางบกฯ แฉยับ มีคำเรียกรถที่มีสติกเกอร์นี้ว่า รถติดเทอร์โบ แพงสุด 3 หมื่นต่อเดือน คาดเม็ดเงินสะพัดเดือนละพันล้าน ชี้ต้นตอส่วยคือตำรวจ ไม่บังคับใช้กฎหมายจริงจัง รับแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว


ด้านสิงห์รถบรรทุกนครปฐมเปิดข้อมูลใหม่ ส่วนสติกเกอร์ ไจแอนท์ เสียเดือนละเฉียดหมื่น เคลียร์วิ่งแบก บรรทุกน้ำหนักเกินกฎหมาย 15 ตัน ขับข้ามจังหวัดภาคกลาง ไม่ถูกเรียก คาดมีติดรถกว่า 800 คัน


- โล่งอก ผลตรวจเลือดและปัสสาวะ สาว 19 ที่สอบติดคณะเภสัช ม.ขอนแก่น รอบ 2 จาก รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ยันไม่พบสารเสพติด พ่อย้ำชัดลูกเป็นเด็กดี ไม่เกเร ส่วนผลตรวจยาผิวขาวจะออกมายังไงครอบครัวไม่ติดใจ


รองเลขา อย. เชื่อผลตรวจรอบแรกพบฉี่ม่วง อาจเป็นผลลวง เพราะใช้ Test Kit ทำให้วิเคราะห์ผลไม่ชัดเจน ยันอาหารเสริมชนิดนี้ไม่ส่วนผสม เมทแอมเฟตามีน - ไร้สรรพคุณช่วยปรับสีผิวให้ขาวตามที่กล่าวอ้าง


- ตำรวจ พม. บุกตรวจสถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี หลังโซเชียลแฉ พี่เลี้ยงลงโทษเด็กโหด จับมัดมือมัดเท้า ให้นอนห้องน้ำ ขังห้องมืด สั่งย้าย-สอบสวน ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ พักงานพี่เลี้ยงเด็ก ปลัด พม.สั่งสอบข้อเท็จจริง เรียกถกด่วนเย็นวานนี้ จัดระบบสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศใหม่


- อุทาหรณ์ หนุ่มพาครอบครัวเที่ยวสวนสัตว์ ถูกอูฐกัดหูขวาแหว่ง ขณะอุ้มลูกให้อาหารควาย คนดูแลแจงแล้ว นักท่องเที่ยวมายื่นผักบุ้งให้อาหารควายที่อยู่ใกล้กับอูฐ ซึ่งอูฐไม่รู้นึกว่าจะมาให้เขาด้วย จึงโน้มคอมางับ ยันเป็นอุบัติเหตุ จากนี้จะเปลี่ยนป้ายเตือนให้ใหญ่ขึ้น และสร้างรั้วตาข่ายให้สูงกว่าเดิม ไม่ให้อูฐเอาหัวออกมากินอาหารได้ ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ


- เจ้าอาวาสวัดดังอำเภอแม่ริม ขับกระบะถอยชนดะกลางลานจอดรถบ้านเอื้ออาทร รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เสียหาย 8 คัน หลวงพ่ออ้างคนขับรถไม่ว่างเลยต้องขับเข้าเมืองเชียงใหม่ ซื้อของทำงานบุญ และแวะหาน้องชายแต่เกิดวูบ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เท้าที่เหยียบคันเร่งขยับไม่ได้ พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ตำรวจตรวจไม่พบแอลกอฮอล์


เรื่องเล่าการเมือง


- เมื่อวานนี้ เป็นที่ฮือฮา ท่ามกลางกระแสข่าวดีลลับให้พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ แต่อยู่ ๆ กลับมีภาพที่ คุณเศรษฐา ทวีสิน กับ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ไปดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ที่อังกฤษ ด้วยกัน ซึ่งคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา โพสต์ไว้ในเพจกรรมกรข่าว มีคนมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ว่าตอกย้ำกระแสข่าวดีลลับ


โดยภาพดังกล่าวทั่งคู่ไป ชมการแข่งขัน ฟุตบอล เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโปรมแกรม นัดสุดท้ายก่อนจบฤดูกาล


หลังเป็นกระแสออกไป ทางคุณเศรษฐา ทวิตชี้แจงบอกว่า ตนเองกับครอบครัว คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ สนิทกันมานานหลายปี เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ตอนที่เลสเตอร์ ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกตนก็มาร่วมฉลอง วันนี้เลสเตอร์แข่งนัดสุดท้ายเพื่อหนีตกชั้น ผมก็ต้องมาให้กำลังใจกัน ในฐานะคนบ้าบอล เรื่องนี้ผมแพลนไว้ก่อนหน้าแล้วเป็นเดือน


ส่วนคุณหนูนั้น ตนรู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และบังเอิญเจอกันก็ยิ้ม ทักทายกันตามประสาคนรู้จัก เท่านั้น ไม่มีคุยหรือดีลเรื่องการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าจะคุยกันคงไม่ต้องมาถึงอังกฤษมั้งครับ


เช่นเดียวกับ คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เชื่อว่า คุณเศรษฐาไม่ใช่คนแบบอย่างที่มีการกล่าวหา และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่องนี้ แม้คุณเศรษฐา จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่ภารกิจในการเดินทางไปต่างประเทศเป็นภารกิจส่วนตัวไม่ใช่ภารกิจของพรรค


- กระแสดีลลับยังมีข้อมูลจาก คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่โพสต์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้มีการโพสต์ ประเด็น ดีลลับ "ลังกาวี"


คุณชูวิทย์ บอกว่า ดีลลับ ลังกาวี ไกลจากไทยแค่ 4 กิโลเมตร และใกล้สิงคโปร์ ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย มีการประชุมลับ ดีลพิเศษ สนับสนุนให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน และให้เพื่อไทยถอยไปเป็นรัฐบาลขั้วใหม่กับ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา


ด้วยความเคารพ ผมคิดว่าประชาชนคนไทยที่หย่อนบัตรเลือกตั้งมีสิทธิจะรู้ ประชุม "ดีลเดิมต้องล้ม ดีลใหม่ไม่มีก้าวไกล ถึงกลับบ้านได้" แต่นี่เป็น "วิถีฝืนธรรมชาติ" ผมพูดได้แค่นี้ ไม่ได้ขัดใคร สนับสนุนให้บ้านเมืองสงบ อย่ามาบอกว่าผมปั่น บาปกรรมตาย คุณชูวิทย์ ระบุ


เรื่องนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าว ยืนยันย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีดีลลับกับพรรคใดๆ ตามที่เป็นข่าว ยังคงเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลที่ลงนามไว้ในเอ็มโอยู เท่านั้น และอยากให้ไปถามคนที่ปล่อยข่าวว่าหากเป็นดีลลับทำไมถึงมีคนรู้


ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวที่ คุณชูวิทย์ โพสต์ โดยย้ำว่าพรรคก้าวไกล ยังคงยึดมั่น การทำงานร่วมกัน การให้เกียรติ ให้ความเคารพ และความไว้วางใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะหากพรรคมัวแต่กังวลต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น การทำงานร่วมกันคงยาก


- ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวานเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามท่านเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง ทั้งเรื่องนายกฯส้มหล่นและเรื่องอนาคตการเมือง


โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีภารกิจให้ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าทั่วประเทศ เข้าพบ ก่อนจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ช่วงหนึ่งนักข่าวถามว่าช่วงนี้หลายประเด็นมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาล ปัจจุบัน ว่าเหมือนท่านนายกฯรอส้มหล่นอยู่หรือเปล่า


พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับว่า "ส้มที่ไหนหล่น หล่นเรื่องอะไร....อย่ามาพูดการเมืองกับผม ผมก็อยู่ของผมอย่างนี้ ทำหน้าที่ของผมให้เรียบร้อย และพร้อมส่งมอบ ใครจะเป็น ก็เป็นไปสิ ที่บอกว่าผมจะเป็นหรือจะเลิก ผมไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎกติกา"


นักข่าวก็พยายามย้ำว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ ท่านนายกฯ ก็บอก "อย่ามาถ้า​ อย่ามาถ้ากับผม​ ถ้าไม่ได้หรอก​ ไม่มีถ้า​ มันเป็นเรื่องของอนาคต"


- เรื่องคดีหุ้น คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อไอทีวี เมื่อวาน กกต. เรียกผู้ร้องมาให้ถ้อยคำ ขณะที่คุณเรืองไกร นอกจากมาให้ถ้อยคำ ยังร้องให้ กกต.สอบเอาผิดคุณพิธา ตั้งแต่ปี 2562


ผู้ที่ กกต.เรียกมาให้ถ้อยคำเมื่อวาน ได้แก่ คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ คุณนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 และคุณสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร


สำหรับ คุณเรืองไกร นอกจากเข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต. แล้ว ยังยื่นเรื่องเพิ่มเติมให้ กกต. ไปตรวจสอบย้อนหลังไป อีกว่า การถือหุ้นไอทีวี ของคุณพิธา เข้าข่ายเป็นการถือหุ้นสื่อมวลชน ที่ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 แล้วหรือไม่ เพราะคุณพิธา รับมอบมรดกหุ้นสื่อมาตั้งแต่ก่อนปี 2562


และเห็นว่า กกต. ต้องตรวจสอบไปถึงขั้นการดำเนินคดีอาญาด้วย เพราะเคยมีแนวคำวินิจฉัยของ กกต. ไว้แล้ว เมื่อครั้งที่ไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ท่านหนึ่งที่ถือหุ้นสื่อ และหลังจากที่ศาลวินิจฉัยให้พ้น ส.ส. กกต.ก็วินิจฉัยสั่งดำเนินคดีอาญา ตามกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 151 ฐานรู้อยู่แล้วว่า ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังฝ่าฝืนลงสมัคร มีโทษ จำคุก 1-10 ปี ตัดสิทธิ์ เลือกตั้ง 20 ปี


ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคกล้าวไกล กล่าวว่า พรรคได้เตรียมความพร้อมเรื่องคดีหุ้นนายพิธาไว้นานแล้ว เพราะ มั่นใจว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้พรรคมั่นใจว่า หากกระบวนการการตัดสินเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามบรรทัดฐาน และกฎหมาย ก็จะไม่มีปัญหาใด ๆ


- ส่วนที่ต้องจับตาวันนี้คือการหารือของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล และไฮไลท์จะเป็นการปิดห้องคุยกันของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยในเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานเปิดป้าย Road to Bangkok World Pride 2028 ถึงการหารือร่วมกันของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า จะหารือถึงการตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเพื่อกำหนดเป็นทิศทางการทำงานร่วมกัน หลังการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไม่ให้มีรอยต่อในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเอาปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง เช่น ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ภัยแล้ง เป็นต้น


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกล จะเสนอให้มีการประชุมร่วมกันเป็นวาระประจำ โดยวนไปประชุมตามสถานที่ของแต่ละพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และเตรียมตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือ Transition Team เพื่อไม่ให้ช่วงระยะเวลา 1-2 เดือนก่อนการตั้งรัฐบาลหมดไปโดยไม่มีการเตรียมความพร้อม


ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า ในการหารือกันพรุ่งนี้จะมีการพูดคุยกัน "เป็นการภายใน" ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล


ด้านพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวหลังการประชุมแกนนำพรรค โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ร่วมประชุมด้วย ถึงข้อเสนอของกลุ่มเสื้อแดงเอฟซีเพื่อไทย ที่ให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ว่า พรรคยังยืนยันเจตจำนงเดิม ว่า ยอมรับความต้องการของประชาชน 25 ล้านเสียง ที่เลือกพรรคก้าวไกลมา 14.2 ล้านเสียง เลือกพรรคเพื่อไทย 10.8 ล้านเสียง ที่อยากมีรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตย ในการมุ่งมั่นตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aHcs5bRF_Ew



คุณอาจสนใจ

Related News