สรุปข่าว
เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 25 พ.ค.66 ชลน่านฉุนศิธา-กินขนมชั้นติดคอดับ-รถบรรทุกขับขวางรถพยาบาล
โดย thichaphat_d
25 พ.ค. 2566
72 views
-โจรบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง ยิงเปิดทางหนี เจอ ตร.ยิงสวน สาหัส
-สลด หนุ่มใหญ่กินขนมชั้นติดคอเสียชีวิต
-รถบรรทุกขับขวางรถพยาบาล ทำเด็ก 10 เดือนป่วยวิกฤต เสียชีวิต
-บิ๊กโจ๊กเผยเจอตัวคนขายสารพิษให้แอม ไซยาไนด์แล้ว
-มหาภัยไม่เลิก จับแล้วสาวปาฉี่-อุจจาระ-น้ำกรด
เรื่องเล่าการเมือง
-เรื่องร้อนที่สุดเมื่อวาน คือ กรณีระหว่างคุณหมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับน.ต.ศิธา จากพรรคไทยสร้างไทย ที่มีประเด็นกันมาตั้งแต่วันแถลง MOU ที่นายศิธา สวมบทสื่อมาจี้ถามเรื่อง Advance MOU เมื่อวานคุณหมอชลน่าน ถึงขั้นบอกว่า “ถ้าชกได้ ผมชกแล้ว”
เมื่อวาน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ 2 รอบ รอบแรกก่อนเข้าประชุมสัมมนาของพรรค เป็นการตอบโต้กรณี นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย โพสต์หลัง นพ.ชลน่าน ตำหนิผ่านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยไป โดยเฉพาะที่บอกว่า นพ.ชลน่าน โดนใครตำหนิหรือรับบรีฟ จากใครมา จู่ ๆ จึงมาออกมาตำหนิว่าเสียมารยาท
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การที่มาใส่ร้ายว่า ตนถูกรับบรีฟมาหรือเปล่า เป็นการใส่ร้าย แบบนี้คิดว่า ตนทำงานกับ น.ต.ศิธาลำบากมาก เพราะเมื่อวันที่ตนยกประเด็นขึ้นมา คุณหญิงสุดารัตน์ ก็พูดก็ขอโทษกันแล้ว ถือว่า จบ แต่พอ น.ต.ศิธา ไปขยายต่อ ซึ่งไม่แฟร์กับตน
จากนั้นไม่นาน น.ต.ศิธา ได้โพสต์ขอโทษ โดยช่วงหนึ่งบอกว่า “หากคำถามของผมมันล้ำหน้า (Advance)มากเกินไป จนทำให้ไม่สบายใจ ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย...
ต่อไปนี้ ไม่ล้ำเส้น ไม่เร่ง ไม่บีบคั้น / เรามาเดินหน้าต่อแบบพอดีๆ / ไปด้วยกันครับ”
หลังสัมมนาพรรคเสร็จ นพ.ชลน่าน มาแถลงข่าว และถูกถามถึงเรื่องนี้อีกครั้ง นักข่าวเลยถามประเด็นที่ น.ต.ศิธา โพสต์ขอโทษ นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธ แต่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในร่องในรอย ถ้าขอโทษก็ยินดีรับ อย่างไรก็ตาม นพ.ชลน่าน ย้ำว่า ไม่สบายใจที่จะร่วมงานกับ น.ต.ศิธา ไม่สบายใจกับเรื่องนี้
และตอนท้ายได้บอกว่า เป็นเรื่องของพรรคแกนนำที่ต้องไปทำความเข้าใจกับพรรคร่วมอื่นๆ โดยเฉพาะกับพรรคไทยสร้างไทย ว่าพฤติกรรมแบบนี้ จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่ ถ้าพูดจบ ตนก็จบ แต่ถ้ายังปล่อยปละละเลยแบบนี้ ตนก็ไม่สบายใจ
หลังจากลงจากเวทีแถลง นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ย้ำว่าไม่สบายใจ ถ้าพรรคแกนนำไม่จัดการเรื่องนี้ ถ้าเห็นเขาสำคัญ เห็นตนไม่สำคัญ ก็คงต้องย้อนถามกัน แต่ถ้าเห็น 6 เสียงมากกว่า 141 เสียง ตนก็ยอม
เมื่อถามว่า หมายถึงจะต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเป้าหมายหลักของเราคือการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ควรมาเป็นประเด็น ถ้าเขาสำนึกได้ เขาขอโทษก็จบ และมันเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่ต้องมาเคลียร์เรื่องนี้
เมื่อถามว่า น.ต.ศิธาต้องขอโทษในรูปแบบใด นพ.ชลน่านกล่าวว่า แบบใดก็ได้ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาสำนึก
เมื่อถามว่า ถึงขั้นต้องลดบทบาท น.ต.ศิธา หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคแกนนำ เพราะตนไม่มีอำนาจพอที่จะไปชี้เอานั่นไม่เอานั่น เพียงแต่ขอให้เกียรติกันเท่านั้น ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทำงานร่วมกันยาก
ทั้งนี้ ก่อนที่ นพ.ชลน่าน จะเดินออกจากห้องสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามว่า "ทำไมวันนี้เดือดจัง" นพ.ชลน่าน สวนกลับมาทันทีว่า "ถ้าชกได้ ผมชกแล้ว"
ส่วนทางด้านของ น.ต.ศิธา หลังจากนั้นได้มีการโพสต์ข้อความเป็นบทเพลง “อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ ว่าอะไรสำคัญไปกว่าแค่รักกัน อีกหน่อยซึ่งคงไม่นาน ถึงวันนั้นแล้วเธอจะเข้าใจ”
แต่ต่อมา น.ต.ศิธา โพสต์อีกครั้งว่า “พรรคไทยสร้างไทย พูดชัดเจนมาโดยตลอด ว่ายินดียกมือสนับสนุน ให้พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ได้จับมือกันตั้งรัฐบาล ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล
หากต้องการเสียงของไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ติดขัดที่ตัวผม ผมยินดีลาออกจากพรรคให้ทันที ยืนยันว่าเราไม่ใช่เงื่อนไขที่จะทำให้ประชาธิปไตยต้องหยุดชะงัก ครับ”
-ประเด็นต่อเนื่องเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ หลังจากคุณปิยบุตร ออกมาระบุว่าพรรคก้าวไกลต้องไม่ปล่อยตำแหน่งนี้ให้พรรคอื่น เมื่อวานพรรคก้าวไกลออกมาแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะต้องการตำแหน่งนี้ไว้กับพรรค
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ความเห็นของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็เหมือนกับที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า ตำแหน่งประธานสภฯ เป็นตำแหน่งที่พรรคก้าวไกล อยากรักษาประเพณีที่เคยทำกันมา ซึ่งในอดีตหากไม่นับรวมเมื่อปี 2562 จะพบว่าพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภาฯด้วย เพื่อผลักดันกฎหมายต่างๆ
ยืนยันว่า ทางพรรคก้าวไกลต้องขอตำแหน่งนี้ไว้เอง แต่พรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่าใครเหมาะจะนั่งตำแหน่งนี้
หลังจากนั้นเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกลได้โพสต์ ข้อความเรื่อง “3 วาระที่พรรคก้าวไกลต้องผลักดันในฐานะประธานสภา” ได้แก่
วาระแรก เพื่อผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า ซึ่งในสัญญาประชาคมที่พรรคก้าวไกลให้ไว้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีกฎหมายอย่างน้อย 45 ฉบับของพรรคก้าวไกลที่ต้องผ่านสภาฯ
วาระที่สอง: ผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเดินหน้าอย่างราบรื่น
วาระที่สาม: ผลักดันหลักการ “รัฐสภาโปร่งใส” และ “ประชาชนมีส่วนร่วม” ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
พร้อมระบุว่า “พรรคก้าวไกลต้องการให้ผู้แทนฯของพรรคดำรงตำแหน่งประธานสภา ไม่ใช่เพื่อตำแหน่ง แต่ต้องการอำนาจเข้าไปเปลี่ยนแปลงรัฐสภาไทย ให้สามารถออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์/แก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้จริง และเป็นรัฐสภาที่เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้”
-ขณะที่ทางพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีชัดเจนว่าก็ต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ โดยเฉพาะนายอดิศร เพียงเกษ พูดชัดเจนว่าก้าวไกลจะกินรวบทั้งหมดไม่ได้เพราะได้เสียงมาไม่เกินครึ่ง
นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เคารพการแสดงความเห็นของนายปิยบุตร ที่จะกินรวบทุกตำแหน่งโดยเข้าใจว่าตัวเองมีเสียงข้างมาก แต่ความจริง 152 เสียง ยังเป็นเสียงที่ไม่ได้เกินครึ่ง ถ้าอยากได้ทุกตำแหน่งต้องทำให้ได้เหมือนพรรคไทยรักไทย 377 เสียงที่จะชี้เป็นชี้ตายเอาตำแหน่งไหนก็ได้
นายอดิศร ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยินดีที่จะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี "แต่เมื่อพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคที่ได้ไข่เป็ดไข่ไก่ ไม่ใช่ว่าได้ฝ่ายบริหารแล้วจะไม่ให้พรรคอื่นไปดำรงตำแหน่งฝ่ายนิติบัญญัติ"
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องของตำแหน่งต่างๆ เพราะเป้าหมายแรกคือ เราต้องเลือกนายกฯให้ได้ก่อน
ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯต้องเป็นของพรรคเสียงข้างมากหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่ที่การตกลงพูดคุยกัน ดูเรื่องของความเหมาะสม ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัยไม่เหมือนกัน และยกตัวอย่างสมัยประธาน อุทัย พิมพ์ใจชน มี 3 เสียงยังได้เป็นประธานสภาฯ
เมื่อถามว่า ในพรรคเพื่อไทยมีบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นประธานสภาฯใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน บอก เราเป็นพรรคการเมืองที่อยู่มานานกว่า 20 ปี มีบุคลากรที่ผ่านการทำงานมาเยอะ แต่ไม่ขอบอกว่า เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่ยืนยันว่ามีบุคลากรที่พร้อม
-ขณะที่เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุพายุถล่ม ที่จังหวัดพิจิตร ก็ย้ำรัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน
ในการลงพื้นที่จังหวัดพิจิตร ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ที่น่าสนใจ นอกจาก รัฐมนตรีหลายคนที่ร่วมคณะไปด้วยแล้ว
ยังมี นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ซึ่งก่อนหน้านี้แสดงจุดยืนไม่โหวตสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี) เดินขนาบข้างระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ เดินพบปะให้กำลังใจ ชาวบ้าน และนักเรียน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุถล่ม ด้วย โดย ส.ว.กิตติศักดิ์ ระบุกับผู้สื่อข่าว ว่า "มาในฐานะคนในพื้นที่"
โดย นายกรัฐมนตรี ไปตรวจทั้งจุดเกิดเหตุ บริเวณลานสนามฟุตบอล โรงเรียนวัดเนินปอ ดูสภาพความเสียหาย ก็ขอให้ถอดบทเรียน และกำชับเรื่องการดูแลเยียวยาให้เร็วที่สุด รวมถึงไปเคารพศพผู้เสียชีวิต และเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลพิจิตร
ช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวพบปะกับประชาชน ยืนยัน รัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน และบอกรักทุกคนเหมือนเดิม ยิ่งเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ยิ่งรักมากกว่าเดิม
บรรยากาศเมื่อวานนี้ ก็มีประชาชน และ เด็ก ทั้ง ตะโกนเชียร์ เสียงดัง ว่า "เรารักลุงตู่" และเข้ามาขอถ่ายรูปอย่างคึกคัก ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า กำลังใจดี ยังทำงานอยู่ ส่วนเมื่อถามว่า มีประชาชนเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก็ดี และ บอกใครจะเป็นก็เหมือนกัน ต้องรักสามัคคี
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/pAT1kmu46TY
แท็กที่เกี่ยวข้อง เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง ,เรื่องเล่าการเมือง ,ข่าวการเมือง ,สรุปข่าว