สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 24 พ.ค.66 พิธาหารือสภาอุตฯ - ชัชชาติแจงผลงาน1ปี - สาวถูกบังคับกินอึหมา

โดย thichaphat_d

24 พ.ค. 2566

89 views

-พิธา เดินสายหารือสภาอุตฯ รับฟังข้อเสนอต่อนโยบายก้าวไกล เตรียมเดินหน้าสร้างความมั่นใจนักลงทุน และแถลงย้ำ ลงนาม MOU กับพรรคร่วม เป็นเพียงการทำงานร่วมขั้นต่ำเท่านั้น เร่งเดินหน้าค่าแรง 450 บาท รับฟังทุกฝ่ายรอบคอบ

กลุ่มผู้ชุมนุม ใช้พื้นที่หน้ารัฐสภา จัดเวที-อ่านจดหมายส่งเสียงถึง ส.ว.เคารพเจตจำนง ประชาชน โหวตพิธานั่งนายกฯ มีสาวปริศนาบุกเวที เผยเป็นด้อมส้มแท้ แต่ไม่เห็นด้วยที่กดดัน ส.ว. หวั่นทำให้การตั้งรัฐบาลสะดุด ส่วนวุฒิสภาปิดการประชุมตั้งแต่บ่าย 2 ก่อนผู้ชุมนุมนัดหมาย

-ผู้ว่าฯพิจิตร สั่งสอบโครงสร้าง-หาสาเหตุ หลังคาโดมโรงเรียน ถูกพายุพัดถล่มคร่า 7 ชีวิต พร้อมประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ส่วนผู้บาดเจ็บพ้นขีดอันตรายทุกคนแล้ว แม่เด็กที่เสียชีวิตร่ำไห้จัดงานศพ เผยคำพูดสุดท้ายลูกขอฮอตด็อกไว้ แต่สุดท้ายไม่ได้กลับมากิน วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะลงพื้นที่พิจิตรเยี่ยมครอบครัวเหยื่อ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน

-นรกบนดิน! สาวลูกครึ่งถูกแฟนหนุ่มจับขัง ซ้อมทรมาน เตะต่อย ใช้พัดลมฟาดจนคิ้วแตก ตาแตก แขนฉีก ใช้มีดจี้บังคับให้กิน ปัสสาวะ อุจจาระสุนัข แล้วบีบคอหมาจนตาย ทนไม่ไหวหนีออกมาขอความช่วยเหลือกัน จอมพลัง

ตำรวจคุมตัวแฟนหนุ่มที่ก่อเหตุ ชี้จุดทิ้งซากสุนัข พร้อมแจ้งข้อหาหนัก เจ้าตัวสารภาพ เป็นคนขี้โมโห ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แต่ไม่ได้ติดยา อยากขอโทษแฟนสาวที่ทำลงไป

-ชัชชาติ แจงผลงาน 1 ปี ทำไปแล้ว 196 จาก 216 นโยบาย บางอันทำเสร็จแล้ว เริ่มเห็นผล ส่วนใหญ่เน้นลงสู่เส้นเลือดฝอย ส่วนนโยบายที่เหลืออยู่ระหว่างทบทวน ว่าเหมาะกับสภาพปัจจุบันหรือไม่ ยก Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) มีคนแจ้งเหตุ 3 แสนเรื่อง แก้ไขไปแล้วมากกว่า 2 แสนเรื่อง

-ชาวบ้านที่บุรีรัมย์ โวยน้ำประปาหมู่บ้าน กลิ่นเหม็น อาบแล้วเกิดผื่นพุพองทั่วร่างกาย ต้องต้มน้ำก่อนอาบ จี้หน่วยงานแก้ปัญหาด่วน นายก อบต. แจงปัญหาเกิดจากเครื่องกรองน้ำทำงานไม่ทัน เพราะดึงน้ำดิบจากแหล่งอื่นมาเสริมให้ชาวบ้าน เร่งของบแก้ปัญหาด่วน



เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นต่อเนื่องหลัง 8 พรรคการเมืองนำโดยพรรคก้าวไกลร่วมลงนามใน MOU จัดตั้งรัฐบาล เมื่อวานนายพิธา ระบุว่า MOU กับพรรคร่วมฯ เป็นแค่วาระการทำงานขั้นต่ำเท่านั้น ส่วนที่นายปิยบุตร ออกมาติงนั้น ก็เข้าใจ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการแถลงข่าวถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วม MOU กับพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า การทำ MOU ของ 8 พรรค เป็นเพียงวาระการทำงานร่วมกันขั้นต่ำ ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะผลักดัน 300 นโยบาย ที่พรรคเคยหาเสียงไว้ให้สำเร็จด้วย

โดยในฐานะที่ตนเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี ก็จะมีอำนาจในการบริหารจัดการให้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงให้ได้มากที่สุด

สอง คืออำนาจรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลที่จะอยู่ในกระทรวงต่างๆ

สาม หากพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นเจ้ากระทรวง ก็จะประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ในการพูดคุยเจรจาให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงผลักดันนโยบายของพรรค

รวมถึงอีกส่วนที่จะผลักดันผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ โดยเฉพาะ 45 กฎหมายที่เราได้สัญญากับประชาชนไว้

นายพิธา ยังตอบคำถามสื่อมวลชนประเด็นการเมืองถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความกังวลที่เนื้อหา MOU ไม่มีเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง รวมถึงการเขียนข้อความที่อาจกลายเป็น "บ่วงรัดคอ" ว่า เข้าใจความกังวลใจของนายปิยบุตร แต่ข้อความก็คือข้อความ เนื้อหาใน MOU ก็สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร



-ขณะที่เมื่อวานนายปิยบุตร ออกมาแสดงความเห็นอีกประเด็น บอกว่าพรรคก้าวไกลจะต้องไม่ยอมเสียตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ ให้พรรคอื่นเป็นอันขาด

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล โดยระบุถึงการต่อรองต่าง ๆ ในขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาล

ประเด็นสำคัญ นายปิยบุตร ระบุว่า "สองสามวันมานี้ มีข่าวปรากฏออกมาตามสื่อมวลชนว่า พรรคเพื่อไทยขอให้พรรคก้าวไกลปล่อยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ผมเห็นว่าพรรคก้าวไกลปล่อยตำแหน่งนี้ให้กับพรรคใดๆไม่ได้"

นายปิยบุตร ระบุว่า "การเจรจาต่อรองเพื่อกำหนดเนื้อหาใน MOU ได้ผ่านพ้นไปด้วยดี ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลได้ถอยในหลายประเด็น...

เมื่อถึงคราวจัดสรรกระทรวงให้แต่ละพรรค พรรคก้าวไกลก็คงต้องยินยอม "เฉือน" อีกหลายกระทรวงให้กับพรรคอื่นๆ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ โดยเฉพาะกระทรวงเกรด A

สภาพการประนีประนอม การเจรจาต่อรอง ระหว่างพรรคการเมือง และการยอมถอยให้พรรคการเมืองอื่น จะดำเนินเช่นนี้เรื่อยไปตลอดระยะเวลาของรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่เรื่องประหลาดในทางการเมือง และเป็นเรื่องปกติในรัฐบาลผสม

ปัญหามีอยู่ว่า พรรคก้าวไกลจะต้องถอยจนถึงเมื่อไร ต้องยินยอมถึงขนาดไหน เพื่อให้ทุกพรรคพอใจและตั้งรัฐบาลได้? และไปต่อได้?"

ก่อนจะบอกว่า "ผมเห็นว่า การประนีประนอม การเจรจาต่อรองของพรรคก้าวไกล จะต้องไม่ไปถึงขนาดที่ยกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับ ส.ส.พรรคอื่น"

และร่ายถึงความจำเป็นในการที่พรรคก้าวไกลต้องเก็บตำแหน่งประธานสภาฯไว้ ตั้งแต่เรื่องการผลักดันกฎหมายที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ โดยเฉพาะการนิรโทษกรรมในคดีความผิดเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมือง และการแก้ไข มาตรา 112 และที่สำคัญ คือ การคุมเกมในการประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกฯ ก่อนจะลงท้ายว่า "หวังว่าพรรคก้าวไกลจะพิจารณาประเด็นนี้ให้ถ้วนถี่"



-ขณะที่ ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ์" ออกมาเรียกร้อง ส.ว. สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ด้วยการยืนยันว่าจะเคารพเสียงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสความไม่มั่นใจของนักลงทุนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล ว่า พรรคก้าวไกลได้ให้ความชัดเจนแล้ว 2 เรื่องคือ การลงนาม MOU ร่วมกัน 8 พรรคการเมือง 313 เสียง และประเด็นวาระงานขั้นต่ำที่นำเสนอผ่าน MOU

หากต้องการให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น ขอเรียกร้องให้ ส.ว. ออกมายืนยันพร้อมจะเคารพเสียงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง และสนับสนุน นายกฯและพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ ตามหลักประชาธิปไตยสากล

ยึดหลักการเดิมที่ ส.ว.เคยให้ไว้ในการโหวตพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2562 ว่า เป็นเพราะพลเอกประยุทธ์รวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภา


-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกถามประเด็นเกี่ยวกับโฉมหน้าครม.ใหม่ แต่ท่านระบุว่า “โนคอมเมนต์” และย้ำจะทำหน้าที่รักษาการ นายกรัฐมนตรี ให้ดีที่สุด

เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาประชุมครม.ไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จสิ้น และทั้งก่อนและหลังประชุม ปรากฎว่ามีจังหวะที่ถอดแมสก์ จนแว่นหลุดถึง 2 รอบ ทำให้ผู้สื่อข่าวแซว ซึ่งท่านนายกฯ ขอร้อง ว่า อย่าจุกจิกมาก และจับตาดูทุกอย่าง เพราะไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่ประเด็น

เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามถามประเด็นการเมือง ทั้งเรื่อง MOU รัฐบาลก้าวไกล โฉมหน้าครม.ใหม่ รวมถึง สเปครัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนต่อไป แต่ท่านนายกฯ บอกว่า "โนคอมเม้นต์" เมื่อถามย้ำว่า No Problem ด้วยหรือไม่ ท่านนายกฯ ระบุว่า "ไม่ขอตอบ และย้อนให้ถามอะไรอย่างอื่นที่ดีกว่านี้ได้หรือไม่" พร้อมย้ำว่า ตนจะทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ให้ดีที่สุด จนกว่าจะไม่ได้ทำ


-ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อวานนี้ ออกมาสยบข่าวลือ โดยย้ำว่า ยังไม่คิดวางมือทางการเมือง ขณะที่ช่วงบ่ายได้เรียกประชุมปลุกใจแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ให้เดินหน้าต่อ ไม่มีการยุบรวมกับพรรคการเมืองใด

เมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ หลังประชุมครม. ซึ่งช่วงแรกยังตอบคำถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังมีกระแสข่าววางมือทางการเมือง ก็บอกว่า "ยังไม่ได้คิด และขอให้ไปถามคนที่วิเคราะห์" และย้ำวันนี้ ตนยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

แต่ช่วงที่ผู้สื่อข่าว พยายามถาม ว่า ท่านจะไม่ลาออกใช่หรือไม่ รวมถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ จะยุบรวมกับพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร เริ่มตอบอย่างมีอารมณ์และกัดฟันตอบ ว่า “ต้องไปถามคนที่เขาคิด แล้วพูดมา และยืนยัน ตนอยู่เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย”

ขณะที่เมื่อวานหลังเสร็จสิ้นประชุมครม. มีรายงานว่าช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร ได้เรียกประชุมแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยเน้นย้ำ ถึงการเดินหน้าขับเคลื่อนพรรค อยู่ท่ามกลางวิกฤตการต่อสู้ ไม่ยุบไม่รวมกับพรรคไหน

พร้อมฝากพรรคไว้กับทุกคน อย่าให้ใครดูถูก ว่าเราเป็นพรรคเฉพาะกิจ ขอให้ช่วยดูแลกันต่อไป

พูดถึงกระแสข่าว พรรคพลังประชารัฐ จะไปยุบรวมกับพรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ ยังมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาปฏิเสธ บอกว่า เป็นเฟคนิวส์ และ เชื่อว่าไม่มีใครบังอาจตั้งเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล ให้ พล.อ.ประวิตร ลาออกได้



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Hp-ZvfL93nA

คุณอาจสนใจ

Related News