สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 12 พ.ค.66 สี่พรรคม้าเต็ง ดีเบตช่อง 3 - ศรีสุวรรณโดนต่อยอีก - พยานใหม่คดีแอม

โดย thichaphat_d

12 พ.ค. 2566

61 views

-บุกต่อย พ่อนักร้อง ศรีสุวรรณ หน้า กกต.จนปากแตก หลังให้สัมภาษณ์ ปมร้องให้เร่งสอบ "พรรคเพื่อไทย" กรณีเงินดิจิทัล 10,000 บาท (ปล่อยคลิปตอนเกิดเหตุ) ขณะที่เจ้าตัวยืนยันการร้องเรียนเป็นสิทธิของประชาชน ก่อนโร่แจ้งความที่ ทุ่งสองห้อง ลั่นไม่รับคำขอโทษ เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ก่อนเผย คงอดกินน้ำพริกหลายวัน เตรียมเสริมทีมดูแลความปลอดภัยหลังเพื่อนเป็นห่วง

ด้านอดีตอาจารย์ มือชก เปิดปากเล่า ไม่ได้ต่อยแค่ตบปากแตก ชี้ไม่ได้เตรียมการมา แค่มาทำธุระแล้วบังเอิญเจอ เผยหมั่นไส้ร้องเรียนตะพึดตะพือ ยันไม่ได้รับจ้างใคร-ทำเพื่อสังคม ไม่ห่วงเรื่องเรียกค่าเสียหาย

-สุดสลดกล้องหน้ารถจับภาพชัด ขณะเบนซ์ซิ่งพุ่งชนกวาดพังยับ 4 คันรวด ทำพ่อค้าขายไก่ทอด เสียชีวิตกลางถนน ขณะเป็นพลเมืองดีช่วยเหลือรถเสียข้างทาง หลังเกิดเหตุมีคนในรถ 2 คนใช้ช่วงชุลมุนเดินข้ามถนนหายไป ด้านเมียช็อกร่ำไห้ หลังสังหรณ์ใจ ที่หายไปนานจึงออกตามหา จนพบเป็นศพถูกรถชน ก่อนเล่าทั้งน้ำตาว่าสามีขับรถออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของที่ตลาดเพื่อเตรียมขายของในช่วงเช้า แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุวอนตำรวจเร่งสอบหวังขอความเป็นธรรม

-มูลนิธิวินวิน พาพยานรายใหม่ระบุ เป็นคนที่แอม ไซยาไนด์ ไว้ใจ เข้าให้ปากคำตร. หลังพบมีการส่งพัสดุมาที่บ้านพัก จ.เพชรบุรี 5 วันหลังก้อย เท้าแชร์ เสียชีวิต เปิดกล่องพบ ทรัพย์สินก้อยรวม 6 ชิ้น กระเป๋าเอกสารใบเสร็จและโทรศัพท์มือถือ อยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อผู้ส่งใน อ.ท่ามะกา ด้าน บิ๊กโจ๊ก ชี้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเผย เร่งนำข้อมูลเข้าสู่สำนวน ก่อนขยายความเชื่อมโยงว่าไปถึง

-พล.ต.ท.นิธิธร ชี้พฤติการณ์ชุมนุมที่ สน.สำราญราษฎร์ เลยเถิด “การเมืองเชิงสัญลักษณ์” ระบุ เตรียมซ่อมแซม หาสถานที่สำรองบริการประชาชนชั่วคราว วอนเห็นใจตำรวจชั้นประทวน ศีรษะแตกเพราะกระป๋องสี เครื่องแบบเสียหาย ชี้ผู้ชุมนุมมีพฤติการณ์ เกินเลยว่าการเรียกร้อง ล่าสุด ตร.นำตัวตะวัน – แบม กับพวกรวม 9 คน ส่งศาลอาญาฝากขังแล้ว

-ผู้การลำปาง สั่ง สนธิกำลัง ร่วมกับชุดสืบสวนภาค 5 ตำรวจตระเวนชายแดน นำสุนัขดมกลิ่น อากาศยานไร้คนขับ จับความร้อนบินสำรวจ ปูพรมค้นหาน้องปิงปอง เพื่อนสาวหนุ่มลูกครึ่ง ที่ถูกสังหารโหดทุกมิติ หลังหายตัวไป 5 วัน แต่ยังไร้วี่แวว รับผู้สูญหายยังเป็นเยาวชน ให้ข้อมูลเชิงลึกไม่ได้ เชื่อการก่อเหตุครั้งนี้ น่าจะมีผู้ร่วมกระบวนการ



เรื่องเล่าการเมือง

-เวทีดีเบตเปลี่ยนใหม่หรือไปต่อครั้งสุดท้าย ของช่อง3 กับ 4 พรรคการเมืองม้าเต็ง จัดขึ้นที่ลานปาร์ค พารากอน เมื่อวานนี้ มีพรรคเพื่อไทย /พรรคก้าวไกล/พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ เรียกได้ว่าดุเดือดเข้มข้น

โดยเฉพาะประเด็นรัฐประหาร และการสืบทอดอำนาจที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่มีทางจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเป็นพรรคการเมืองที่มีดีเอ็นเอของคนเคยทำรัฐประหาร เมื่อปี 2557 อยู่

ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ สวนกลับว่า เหตุผลที่พรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักไทยถูกรัฐประหาร เพราะมีการทุจริตจำนวนมาก ซึ่งประเด็นนี้ นพ.สุรพงษ์ มองว่าคดีทุจริตที่ถูกอ้างถึง นั้น เกิดจากกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหาและจำเป็นจะต้องกลับมาพิสูจน์ใหม่กันอีกครั้ง

เช่นเดียวกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ตอบคำถามประเด็นองค์ประกอบ ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลจะไม่มีการจับมือพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ เช่นกัน และการบริหารงานของพรรคก้าวไกล ปัจจัยไม่ได้อยู่ที่กระทรวงแต่จะยึดนโยบายของพรรคเป็นที่ตั้ง

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าส่วนตัวรู้สึกน้อยใจที่พรรคก้าวไกลไม่อยากจับมือด้วย พร้อมตั้งคำถามกลับไปยังพรรคอื่นๆด้วยว่ามีใครอย่างอยู่กับพรรคก้าวไกลบ้าง โดยมองว่าหลายนโยบายของพรรคก้าวไกลเป็นระเบิดเวลาที่จะทำให้รัฐบาลล้มลงได้

ขณะที่ความชัดเจนการจับมือร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ ทั้ง2 พรรคมองตรงกันว่าต้องดูที่ผลเลือกตั้งก่อน แล้วจึงจะหารือกันในเรื่องนโยบาย

โดยประเด็นสำคัญที่ ทั้ง 2 พรรคถูกสรยุทธ ตั้งคำถาม คือ ถ้าในท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ไม่สามารถตกลงร่วมรัฐบาลได้ต้องทำอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ในมุมของพรรคเพื่อไทย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ พรรคก้าวไกลจะรักษาสัญญา ที่เคยพูดไว้หลายครั้ง ว่าแม้ไม่ร่วมรัฐบาลก็ยังจะโหวตให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว.

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้แจงประเด็นนี้ว่า ปัจจัยขึ้นอยู่กับพรรคใดจะได้ ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับหนึ่งแล้วไม่ได้ร่วมกับพรรคก้าวไกลแต่ไปร่วมกับพรรคอื่นที่พรรคก้าวไกล ไม่สามารถยกมือโหวตให้ได้ พรรคก้าวไกลก็จะยอมเป็นฝ่ายค้านและจะไม่ยกมือให้



-ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงหาเสียงหนักในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวานนี้ไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็อ้อนขอโอกาส "เชื่อใจผมอีกครั้ง"

เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ นำทีมแกนนำ ลงพื้นที่หาเสียงจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสักการะศาลหลักเมือง พร้อมอธิษฐานขอให้บ้านเมืองปลอดภัย ให้คนไทยปลอดภัย และ พรรครวมไทยสร้างชาติประสบความสำเร็จ ได้ ส.ส.นครศรีธรรมราช ยกจังหวัด

ขณะที่บรรยากาศ ก็มีกองเชียร์ มาให้กำลังใจอย่างคึกคัก ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปหาเสียง ที่โรงเรียนชะอวด นอกจากประชาชน ยังมีเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นช่วงพักกลางวันพอดี บางส่วน มาขอถ่ายรูป ส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่น

เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยในหลายจุด ช่วงขึ้นเวที ที่อำเภอปากพนัง พล.อ.ประยุทธ์ ก็อ้อนขอโอกาส เชื่อใจผมอีกครั้ง และบอกว่า "ถ้าการเมืองดีอยู่แล้ว..ผมก็คงไม่ต้องเข้ามา" นอกจากนี้ ยังพยายามย้ำ ว่า ตนไม่ใช่ศัตรูของลูกหลาน แต่เป็นศัตรูกับคนทุจริต ซึ่งชีวิตไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว ไม่เคยคอร์รัปชัน และรับได้ที่ถูกด่า เพราะผมเป็นคนรักประชาชน



-ด้านพรรคเพื่อไทย ก็เร่งหาเสียงต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน หลังเสร็จสิ้นจากปราศรัยเชียงใหม่ ลงมาช่วยหาเสียง ที่จังหวัดนนทบุรี โดยปลุกประชาชนตื่นจากความฝัน มาเลือกพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล ที่ทำได้จริงทุกนโยบาย

เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นำทีมลงพื้นที่หาเสียง ในช่วงโค้งสุดท้าย ที่จังหวัดนนทบุรี

นายเศรษฐา ขึ้นรถกล่าวปราศรัยว่า อีก 2 วัน จะถึงการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ เราต้องตื่นจากความฝัน มาอยู่ความเป็นจริง และดูว่าพรรคการเมืองใด มีแคนดิเดตนายก และทีมงาน ที่พร้อมทำงาน และทำได้จริงทุกนโยบาย



-ขณะที่เมื่อวานนี้ผู้บัญชาการทหารบก ถูกถามถึงสถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้ง ก็บอกว่า บ้านเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน พร้อมย้ำไม่ควรมีคำว่า ’ปฏิวัติ’ และต้องออกจากพจนานุกรมกองทัพ

เมื่อวานนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารบก ถูกถามว่าเป็นห่วงสถานการณ์หลังเลือกตั้ง เพราะมองว่าจะมีความวุ่นวาย จะเดือดร้อนทหารอีกหรือไม่ ว่า "ตนไม่ห่วง เพราะเชื่อว่าเรามีบทเรียนมามากแล้วในอดีต แต่ทุกคนต้องมีสติ ว่าอะไรควร ไม่ควร เพราะบ้านเมืองต้องการความสงบ หากวุ่นวายคนส่วนใหญ่ก็จะเดือดร้อน ดังนั้นจะเรียบร้อยหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีการปฏิวัติหลังการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พลเอกณรงค์พันธ์ บอกว่า คำพวกนี้ไม่ควรพูด ไม่ควรถาม เพราะจะเป็นการปลุกความคิดที่ขัดแย้งต่อเนื่อง ซึ่งไม่ควรมีคำพวกนี้แล้ว และสำหรับผม “ต้องลบออกจากพจนานุกรมของกองทัพ”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Z4h8Cg3Aw2g

คุณอาจสนใจ

Related News