เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 11 พ.ค.66 เรืองไกรร้องสอบพิธา / รอลงอาญาปอ-โรเบิร์ต / เผาร่างก้อยเหยื่อแอม

-ศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษาคดีแตงโม สั่งจำคุกปอ 2 ปี 9 เดือน ปรับ 6 หมื่น 4 พัน บาท / โรเบิร์ต 2 ปี 2 เดือน ปรับ 5 หมื่น 4 พันบาท รอการลงโทษ 3 ปี แม่ภนิดาพอใจผลตัดสิน เชื่อแตงโมดลใจผู้พิพากษาให้ตัดสินคดีเป็นธรรม ยันไม่ได้รักทั้งคู่เพราะหน้าเงิน ไม่ติดใจหรือสงสัยสาเหตุที่เกิดเหตุบนเรืออีกแล้ว พร้อมเปิดสัญญาเยียวยาฉบับใหม่ ให้ปอ – โรเบิร์ต จ่ายโบนัสให้คุณแม่เพิ่มทุกปี จนกว่าจะพอใจ

ด้านแซน วิศาพัช ยันไม่รับสารภาพคดีการเสียชีวิตของแตงโม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ถึงแม้สารภาพแล้วจะทำให้เรื่องจบเร็ว แต่มันไม่ยุติธรรมกับตนเอง ขอสู้ในชั้นศาล ส่วนข้อตกลง ปอ – โรเบิร์ต จ่ายโบนัสให้แม่แตงโม ก็ไม่เกี่ยวกับตน และไม่สนเรื่องเงินเยียวยา เพราะที่ผ่านมาแม่น่าจะได้ไปพอแล้ว

ขณะที่ ทนายเดชา ชี้ ปอ – โรเบิร์ต คดีสิ้นสุดแล้ว ไม่มียื่นอุทธรณ์ – ฎีกา ถือว่าพ้นเวรกรรมพ้นเคราะห์ คล้ายเกิดใหม่ไปแล้ว แถมการรับสารภาพเป็นผลดีกับจำเลย 4 คนที่เหลือ นำไปสู้คดี ฝากความห่วงใยถึงแม่แตงโม ขอให้รักษาสุขภาพ ค่าเสียหายจะเรียกร้องเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานรายได้ของแตงโมมายืนยันด้วย จากนี้ไปไม่ขอยุ่งด้วย

-สุดเศร้า! ฌาปนกิจร่างก้อย ผู้เสียชีวิตที่ถูกแอม วางยาไซยาไนด์ โดยมีภาพเหยื่อ 13 รายมาติดไว้ที่ข้างเมรุ ด้าน น้องข้าวหอม ร่ำไห้ขอวิญญาณแม่ขึ้นสวรรค์ ส่วนคนที่ฆ่าขอให้ได้รับผลกรรมอย่างสาสม

ครอบครัวเหยื่อแอมรายอื่น เดินทางมาร่วมงาน แม่ของทรายรู้สึกได้รับความเป็นธรรม หลังตำรวจออกหมายจับแอม คดีนี้เพิ่ม เชื่อเอาผิดได้ ขอให้แอมถูกประหารชีวิต

ด้านหมอพรทิพย์ ชี้เหยื่อแอมมีลักษณะคล้ายกันคือ ตายผิดธรรมชาติ กะทันหัน ไม่คาดคิด และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง บิ๊กโจ๊กยันข้อมูลเป็นประโยชน์ สอดคล้องแนวทางของคณะสืบสวน มั่นใจพยานหลักฐานทุกอย่างเชื่อมกันแล้วทั้งหมด

-ศาลตัดสินจำคุกแชร์แม่มณี – แฟนหนุ่ม 12,640 ปี หลอกลงทุนออมเงิน ให้ผลตอบแทนมหาศาล พบเหยื่อ 2 พัน 5 ร้อยราย ความเสียหายกว่า 1 พัน 3 ร้อยล้านบาท จำคุก แต่กฎหมายให้รับโทษสูงสุด 20 ปี ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง ทำให้ญาติๆ ต่างพากันดีใจ ทันทีที่ฟังคำตัดสิน พี่สาว 1 ในลูกจ้างที่ถูกยกฟ้อง เปิดใจ รอความยุติธรรมมากว่า 4 ปี ยันน้องสาวบริสุทธิ์ แต่ถูกหางเลขเพราะเป็นพนักงานบัญชี

-ครอบครัว เดินทางมาเยี่ยมดีเจแมน – ใบเตย ที่เรือนจำแต่เช้า แต่เข้าไม่ได้เพราะทั้งคู่ถูกกักตัวตามมาตรการโควิด ทำได้แค่ฝากเงิน – ซื้อของใช้ส่วนตัวให้เท่านั้น กรมราชทัณฑ์ออกแถลง ใบเตย มีอาการเครียดเล็กน้อย นอนไม่หลับ และยังไม่กินข้าว ส่วน ดีเจแมน กินได้ นอนได้ ไม่มีภาวะเครียด

-หวิดปะทะ! พ่อแม่เหยื่อตะโกนสาปแช่งนายชัยวัฒน์ ขณะทำแผนฆ่าหนุ่มลูกครึ่งทิ้งป่าละเมาะ ญาติปรี่เข้ามาใช้ไม้ฟาดศีรษะผู้ต้องหา จนไม้หัก เจ้าหน้าที่ต้องรีบกันตัวออก – เจ้าตัวยังไม่ปริปากเอา “น้องปิงปอง” ซ่อนที่ไหน หลังตำรวจปูพรมค้นหากว่า 4 วันไร้วี่แวว



เรื่องเล่าการเมือง

-กรณีนายพิธา ถือหุ้น ไอทีวี 42,000 หุ้น เมื่อวานนี้ คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าคุณพิธา ไม่ได้แจ้งทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ด้วย

เมื่อวานนี้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชี่อ พรรคพลังประชารัฐ ไปที่ กกต. ขอให้ กกต. ตรวจสอบ การถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าเข้าข่าย มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ ห้ามผู้ที่เป็นเจ้าของ หรือ ผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ลงสมัคร ส.ส.

นอกจากยื่น ต่อ กกต.แล้ว นายเรืองไกร เปิดเผยด้วยว่า ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบรายการทรัพย์สินของนายพิธา ด้วยเช่นกัน หลังจากที่นายพิธา ชี้แจงว่าได้ยื่นรายการทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช. ไปนานแล้ว ทั้งที่ในรายการบัญชีทรัพย์สิน ของนายพิธา เมื่อปี 62 ไม่มีการแจ้ง การถือหุ้นดังกล่าว

ทางด้านนายพิธา เมื่อวานนี้ก็ย้ำอีกครั้งว่า ตัวเองพร้อมที่จะชี้แจง ต่อ กกต. เพราะมีทั้งหลักฐาน และหลักการทางกฎหมาย ไม่กังวล ส่วนเรื่องที่มีการร้อง ป.ป.ช. ว่าเข้าข่ายปกปิดบัญชีทรัพย์สินหรือไม่นั้น นายพิธา ระบุว่าต้องดูคำร้องก่อน



-กรณีของนายพิธา ที่ไม่พบว่ามีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช. กรณีถือหุ้นไอทีวี กว่า 4 หมื่นหุ้น ทางเลขาธิการ ป.ป.ช. ออกมาให้ความเห็นคาดว่าเป็นการยื่นเพิ่มในภายหลัง

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. บอกว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายพิธา ได้แจ้งรายการทรัพย์สิน ถือหุ้นดังกล่าว ต่อ ป.ป.ช.แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่า เป็นการยื่นในช่วงใด อาจจะยื่นเพิ่มเข้ามาในภายหลัง รับตำแหน่ง ส.ส. เพราะสามารถทำได้ ส่วนประเด็นการถือหุ้นดังกล่าวจะทำให้ขาดคุณสมบัติหรือไม่ เลขา ป.ป.ช. บอกว่า เป็นหน้าที่ของ กกต.วินิจฉัย

ซึ่งเรื่องคุณสมบัติ ลงสมัคร ส.ส. ของนายพิธานั้น มีความเห็นจากนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กไว้ โดยบอกว่า นายพิธา น่าจะรอดเรื่องนี้ เนื่องจากมีตัวอย่าง คดีของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถูก กกต. เพิกถอนสิทธิรับสมัครเพราะถือหุ้น AIS 200 หุ้น แต่สุดท้าย ชนะคดี

โดยศาลพิพากษาคืนสิทธิให้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. เนื่องจาก หุ้นAIS เพียง 200 หุ้น ถือว่ามีสัดส่วนน้อยมาก ไม่มีอำนาจสั่งการบริษัทได้ ดังนั้นการตีความว่าจะทำให้ขาดคุณสมบัติ จึงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ



-ขณะที่การหาเสียง เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว เมื่อวานนี้พรรคเพื่อไทย ไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นฐานเสียงสำคัญ ก็เปรียบการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นมวย ว่าต้องชนะน็อก “พล.อ.ประยุทธ์” ด้วยการแลนด์สไลด์ และพรรคเดียว ก็คือ “เพื่อไทย”

เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำทีมพรรคเพื่อไทย เดินทางด้วยการนั่งรถแดง มาที่เวทีปราศรัย จัดขึ้นบริเวณประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นเวทีส่งท้ายในการหาเสียงต่างจังหวัด

นายเศรษฐา ระบุว่า “หากมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ในอีก 4 ปีข้างหน้า ความยากจนของทุกคนจะหมดไป และการประชุมครม.ครั้งแรกค่าไฟฟ้าลดทันที

ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอีกคน ได้วิดีโอคอลร่วมปราศรัย โดยกล่าวทักทายเป็นภาษาคำเมือง บอกว่า “วันนี้พรรคเพื่อไทย เอาความหวัง ที่ไม่ลมๆแล้งๆมาให้ชาวเชียงใหม่ และคนไทยทั้งประเทศ พร้อมขออย่าปันใจ เข้าคูหาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ให้แลน์สไลด์ที่เชียงใหม่

แต่คนที่ปราศรัยดุเดือด คือ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่ประกาศเป้าหมายส่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับบ้าน ก็ย้ำว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าเปรียบเป็นมวยต้องชนะน็อกเท่านั้น และ พรรคที่ชนะเกินครึ่ง มีเพียงพรรคเดียว คือ เพื่อไทยเท่านั้น ไม่มีพรรคอื่น



-ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวานนี้ ยังคงเดินสายหาเสียงภาคใต้ ไปที่จังหวัดชุมพร ก็มีการปลุกพลังเงียบ เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อเดินหน้าประเทศ

เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลาราชการลงพื้นที่แต่เช้า ไปเดินสายหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย รอบ 2 ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเปิดเวทีปราศรัยใหญ่มาแล้ว ก็มีแฟนคลับ สวมเสื้อเหลืองมารอต้อนรับ รุมถ่ายรูป ตะโกนเชียร์อย่างคึกคัก

ระหว่างขึ้นรถแห่หาเสียง ที่ ตลาดอำเภอท่าแซะ นอกจากประชาชน นำดอกไม้ สะตอ ยังมีกล้วยมามอบให้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าจะได้กล้วยๆใช่หรือไม่ ก่อนจะบอกว่า เห็นคนมาต้อนรับเยอะ หายเหนื่อย และอ้อนแหลงเป็นภาษาใต้ว่า มาด้วยความ “คิดถึงจังฮู้”

ช่วงหนึ่งในการปราศรัยบนรถหาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า "ผมพูดไม่เพราะ มีโมโหบ้าง ก็ถามว่า ประชาชนต้องการคนจริงใจ หรือ หรือต้องการคนพูดหวานๆ แต่โกหก แต่สำหรับ ลุงตู่คนนี้ คนที่ไม่เคยทรยศประเทศชาติ พร้อมช่วยกันส่งพลังเงียบออกมา อย่าให้ใครเขาว่าเราเป็นช้างป่วย เพราะเราเป็นช้างศึกไม่ใช่ช้างป่วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/krIPSOdhmq4