เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 8 พ.ค.66 เลือกตั้งล่วงหน้า-กกต.รับ จนท.จ่าหน้าซองผิด-อดีตพระคมปัดโกงเงิน

-ผู้การฯ กองปราบ เผย "อดีตพระคม" ยังยืนกรานปฏิเสธข้อหา อ้างไม่มีเจตนาจะโกงเงินวัด ขณะที่น้องสาวพระคม-อดีตเจ้าอาวาส รับสารภาพ ซัดทอดนายคม สั่งให้เบิกเงินวัดออกเป็นก้อนใหญ่ หลายครั้งให้น้องสาวจริง ด้านตำรวจยังไม่พบผู้ร่วมขบวนการอื่น แต่ยังต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อความชัดเจน ก่อนประสานสำนักพุทธฯ เปิดตู้เซฟวัดฯ ตรวจรายการทรัพย์สินสูญหาย 8 พ.ค.นี้

-ยืนยันความบริสุทธิ์ “ไอซ์ ปรีชญา” และแม่ พร้อมทนาย แสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนบางเขน ปมสั่งซื้อไซยาไนด์ล็อตเดียวกับผู้ต้องหาคดีวางยาเหยื่อ 14 ศพ แจงใช้ไซยาไนด์ ใช้เพื่อกำจัดสัตว์เลื้อยคลาน ไม่มีเจตนานำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ยันไม่เกี่ยวข้องกับคดี ด้านแม่แจงปมถูกโยงการตายของอดีตผู้จัดการว่า เป็นฝีมือไอซ์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องเพราะอดีตผู้จัดการตายด้วยโรคหัวใจ เตรียมดำเนินคดีกับเพจที่ได้นำข้อมูลเท็จ

-ระทึกกลางถนนพระราม 2 กล้องหน้ารถจับภาพชัดขณะแผ่นปูนทางด่วนขนาดใหญ่ร่วงลงจากเสากระแทกพื้นทับคนงานเสียชีวิต 1 ศพ ด้านผู้เสียหาย ชี้ตอนเกิดเหตุเห็นฝุ่นตรงคานก่อนแผ่นปูนตกลงมาจนฝุ่นตลบ พื้นสะเทือน เศษปูนกระเด็นถูกรถกระบะจนยางหลังระเบิด กระจกหน้าแตก ก่อนแฉซ้ำ ผู้คุมงานโยนกันความผิดปัดรับผิดชอบ ด้านการทางพิเศษ แจงเกิดจาก บาร์ที่ใช้ยึดขาดทำรับน้ำหนักไม่ไหว ยันรับผิดชอบความเสียหายทุกราย

-ระทึกกลางใจเมือง หลังเก๋งขาวขับชน ก่อนกลุ่มวินจักรยานยนต์เข้าล้อมให้จอดแต่ไม่ยอม กลับซิ่งหนีร่วม 10 กิโล ตั้งแต่ย่านเอกมัยไปถึงบางนา-ตราด ด้านกลุ่มวิน ไม่ยอมขี่ตามจี้พร้อมกับบีบแตรลั่นถนน สุดท้ายเจอรถบรรทุกช่วยขับปิดทางทำให้หนีไม่รอด ตรวจสอบในรถพบเศษกระจกแตกเต็มเบาะขณะที่คนขับอยู่ในอาการตื่นตระหนก หลังถูกลุ่มวินเข้ารุมต่อว่า ก่อนมีกู้ภัยเข้ามาช่วยเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น

-อากาศร้อนจัดอุณหภูมิพุ่ง 41 องศา ทำพิษผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเป็นลมระนาว 14 ราย คาหน่วยเลือกตั้ง ม.รามฯ ด้าน กทม.สั่ง เสริมรถน้ำ ฉีดละอองน้ำรอบพื้นที่ เพื่อบรรเทาอากาศร้อน และเพิ่มเต็นท์พักคอยและพัดลมไอน้ำ ส่วนกรมอุตุฯ เผย วันที่ 8-10 พ.ค. 66 คาดเกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง


เรื่องเล่าการเมือง

-บรรยากาศการมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นไปอย่างคึกคักทั่วประเทศ แต่ปรากฏว่าได้เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่เขียนชื่อเขตเลือกตั้งและจังหวัดของผู้มาใช้สิทธิที่ซองใส่คะแนนผิดจำนวนมาก

กรณีการเขียนหน้าซองผิดของเจ้าหน้าที่เป็นประเด็นขึ้นมาหลังจากมีประชาชนรายหนึ่งร้องมาที่เพจเรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นกรณีของ น.ส.อภัสนันท์ หรือโอ๋ เชื่อถือเจริญกิจ อายุ 45 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ระนอง เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ จ.นนทบุรี แต่เจ้าหน้าที่กลับเขียนหน้าซองใส่บัตรลงคะแนนว่าเธออยู่ จ.ระนอง เขต 2 ทำให้เธอทักท้วงขึ้นมา

และพบว่ามีกรณีผู้มาใช้สิทธิรายอื่นที่เจอลักษณะเดียวกับเธอเหมือนกัน ซึ่งต่อมามีการทักท้วงจนประธานประจำหน่วยเข้ามาดูแล และพบว่าเจ้าหน้าที่เขียนหน้าซองผิดและสั่งให้แก้ไขใหม่

อย่างไรก็ตาม น.ส.อภัสนันท์ บอกว่า ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะอาจทำให้บัตรของเธอกลายเป็นบัตรเสีย หรือถ้าไม่มีการแก้ไขบัตรของเธอก็อาจถูกส่งไปผิดที่

ต่อมา พบว่ากรณีปัญหาลักษณะเดียวกันได้เกิดขึ้นที่หน่วยเลือกตั้งกลางที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง ด้วย ซึ่งในช่วงบ่าย นางสาวณิชกานต์ วรรณูปถัมภ์ ภูมิลำเนา เขต 2 จังหวัดสุรินทร์ ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่ได้เขตหน้าซองบัตรเลือกตั้งของตนว่าอยู่เขต 6 จึงมาขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนให้ผู้เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบ เพราะกังวลว่า สิทธิ์ที่ใช้ไปจะไม่ตรงกับเจตนาในการเลือกผู้สมัครส.ส. และห่วงว่าจะกลายเป็นบัตรเสีย

ต่อมา นายชูชาติ พุ่มน้อย ผู้อำนวยการเขตดินแดง ได้เข้ามารับฟังปัญหา และยอมรับว่าเจ้าหน้าที่อาจมีความสับสนในการเขียนหน้าซอง และเพื่อให้เกิดสบายใจ หลังปิดหีบเลือกตั้งจะเปิดกล่องที่บรรจุซองเลือกตั้งดังกล่าวให้ผู้มาใช้สิทธิ์ได้ตรวจสอบร่วมกัน

และภายหลังเวลาปิดหีบเลือกตั้ง เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ชุดที่ 44 ที่ถูกร้องเรียน โดยได้ตรวจสอบซองบัตรเลือกตั้งทั้งหมด พบว่ามีการเขียนหน้าซองบัตรเลือกตั้งผิดพลาดเป็นเขต 6 จำนวน 380 ซอง จากผู้มาใช้สิทธิ์หน่วยนี้ 481 ซอง เท่ากับมีเขียนถูกต้องเพียง 101 ซอง/ ทั้งนี้ซองบัตรเลือกตั้ง 380 ที่พบผิดพลาดนั้น เจ้าหน้าที่ได้แก้ไขให้ถูกต้องตามภูมิลำเนาของผู้มาใช้สิทธิ์



-ขณะที่ เลขาธิการ กกต. แถลงยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดจริง แต่ถึงแม้ว่าจะผิดพลาด แต่ก็มีระบบตรวจสอบส่งถึงเขตเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน ขอให้สบายใจได้

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ยืนยันว่า กกต.มีระบบการตรวจสอบหน้าซองบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนส่งกลับไปยังเขตเลือกตั้งตามทะเบียนบ้าน โดยตรวจสอบ จากรหัสเขตเลือกตั้ง 5 หลักที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรหัสไปรษณีย์ เทียบเคียงกับกระดาษจดลำดับที่ก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง ซึ่งกระดาษดังกล่าวจะระบุลำดับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ชื่อจังหวัด เลขเขตเลือกตั้ง และ รหัสเขตเลือกตั้ง โดยเลขาธิการ กกต.ยืนยันว่าข้อมูลกระดาษจดลำดับดังกล่าวจะไม่มีความผิดพลาด

แต่ความผิดพลาดเกิดจาก กรรมการประจำหน่วยซึ่งเป็นคนที่ระบุเขตเลือกตั้งลงหน้าซองเนื่องจากไปสับสนกับเลขหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าขณะที่ประจำหน่วยอยู่ แต่ยืนยันว่ารหัสเขตเลือกตั้งหน้าซองจะไม่มีความผิดพลาดเพราะต้อง กรอกจากกระดาษจดลำดับโดยตรง

อย่างไรก็ตามความผิดพลาดที่เกิดขึ้นถูกตั้งคำถามอย่างมากกับ งบประมาณที่ใช้จัดเลือกตั้งเกือบ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเลขาธิการ กกต. ยืนยันว่าความผิดพลาดทั้งหมดไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น และตนทำได้เพียงกำชับไปยัง ผอ.เขตเลือกตั้ง แต่ก็มีปัญหาว่า กรรมการประจำหน่วยเป็นชาวบ้านที่อาสาสมัครมา ก็ต้องเข้าใจ



-เลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมาตั้งคำถามกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้มีความผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย จนทำให้สงสัยว่าเป็นความบกพร่องโดยสุจริต หรือ จงใจบกพร่องเพื่อบิดเบือนคะแนนเสียงของประชาชน และบอกว่า พรรคก้าวไกลจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการทางกฎหมายต่อ กกต. ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องคะแนนเสียงของประชาชน



-ส่วนบรรยากาศการหาเสียงในโค้งสุดท้าย ที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียว มีความเข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื้อหาการปราศรัยและการให้สัมภาษณ์จะมีความดุเดือดขึ้น

เริ่มจากพรรคก้าวไกลที่ตอนนี้กระแสกำลังแรง เมื่อวานนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลงพื้นที่หาเสียงใน 2 ภาค โดยช่วงสายและบ่ายไปหาเสียงที่ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี และ ระยอง มีกองเชียร์ต้อนรับแน่น ก่อนที่ช่วงค่ำจะไปขึ้นเวทีปราศรัยที่ภาคใต้ ที่ จ.สงขลา

ส่วนพรรคเพื่อไทย เมื่อวาน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดนัดจตุจักร โดยมี คุณเอม พินทองทา ชินวัตร ลูกสาวอีกคนของคุณทักษิณ พร้อมสามี และลูกสาวฝาแฝดร่วมลงพื้นที่หาเสียงด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ น.ส.พิณทองทา ลงพื้นที่หาเสียงด้วยแบบนี้

นายเศรษฐา ได้กล่าวถึงการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า จะเน้นการนำเสนอนโยบายต่อเนื่อง ประเทศชาติบอบช้ำมา 8 ปีแล้ว ไม่มีเวลาลองของใหม่

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวานนำทัพพรรครวมไทยสร้างชาติไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต โดยยังเน้นย้ำจุดขายเรื่องการสร้างความสงบ ประเทศชาติต้องไม่แตกแยก และยืนยันว่าสุขภาพท่านยังแข็งแรง ยังไม่แก่ และ ไม่โกง

ด้านพรรคภูมิใจไทย เมื่อวานนายอนุทิน ชาญวีรกูล นำลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.กาญจนบุรี ช่วงหนึ่งปราศรัยบนเวทีอย่างดุเดือดว่า เลือกอนุทิน แผ่นดินจะไม่ลุกเป็นไฟ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/X424FrCgU_0