สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 3 พ.ค.66 เศรษฐาปะทะอนุทิน-พบไซยาไนด์ในขวดน้ำเหยื่อแอม-เก็บบัตรปชช.เวทีปราศรัย

โดย thichaphat_d

3 พ.ค. 2566

42 views

-บิ๊กโจ๊ก เตรียมขอศาลออกหมายจับ คนใกล้ชิดแอม เพิ่มอีก 1 รายวันนี้ เป็นตำรวจ พบความเชื่อมโยง เป็นที่ปรึกษาในการก่อเหตุฆาตกรรม สร้างพยานหลักฐานในคดี หลังแอมก่อเหตุจะไปต่างจังหวัดด้วยกัน และตรงกับวันหยุดของคนนี้พอดี

ส่วนแรงจูงใจของแอม มาจากปัญหาทางการเงิน มีหนี้สินเพียบ พอถูกทวงหนี้บัตรเครดิต ก็จะก่อเหตุเพื่อเอาทรัพย์สินเหยื่อ แต่พอได้เงินมาก็ไม่เอาไปใช้หนี้ และพบว่าแอมติดพนันออนไลน์

คุณกิ๊ก ตัวแทนประกันภัย ตั้งข้อสงสัยแอมติดต่อซื้อ แต่มักจี้ถามเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ ว่าครอบคลุมเรื่อง วูบ – หมอสติ หรือไม่? เตือนตัวแทนคนไหนซื้อขายประกันกับแอม เช็กข้อมูลให้ดี ไม่อยากให้กลายเป็นใบสั่งตาย

-ผลตรวจตู้เย็นของครูอ๊อด 1 ในเหยื่อแอมพบสารไซยาไนด์ ปนเปื้อนในขวดน้ำ อาจารย์อ๊อด เผยมีหลักฐานส่งมาให้ตรวจถึง 400 ชิ้น คาดได้ผลการตรวจอย่างเร็วที่สุดภายในศุกร์นี้

ตำรวจชุดคลี่คลายคดีแอม ตรวจค้นบริษัทนำเข้าสารเคมีย่านลาดกระบัง ที่เชื่อมโยงจากหมายเลขผลิตในขวดไซยาไนด์ ที่แอมให้หลานของแด้ นำไปทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบสารพิษนี้ แต่ลุยตรวจสอบบุคคลทุกคนที่เข้ามาสั่งสาร

ส่วนผลตรวจยาสมุนไพรที่ตรวจยึดจากบ้านพี่สาวแอม ไม่พบสารไซยาไนด์ เจ้าหน้าที่ส่งกล่องพัสดุต้องสงสัยให้ผู้เชี่ยวชาญได้นำไปตรวจสอบเพิ่ม เพื่อให้ได้ผลที่แน่ชัด

-ชูวิทย์ บุกเวทีปราศรัยภูมิใจไทย ย่านดินแดง จังหวะอนุทินขึ้นเวที ถือโทรโข่งตะโกนลั่นกัญชามอมเมาเยาวชน จนเกิดชุลมุนทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนตำรวจดินแดงเข้าห้าม และพาตัวชูวิทย์ออกมา อนุทิน เผยไม่รู้สึกอะไร ชูวิทย์ป่วนเวที เย้ยไม่เสียสมาธิ ได้พูดนโยบายอย่างครบถ้วน ชี้ชูวิทย์มาแบบนี้ดี ช่วยโปรโมเตอร์ไม่ต้องจ้าง ลั่นเอาไว้ละครปิดทุกฉาก ทุกอย่างจบลง ทุกคนเกษียณ เดี๋ยวก็ได้คุยกัน

-ผู้ค้ายอมถอยเปิดทางเข้าวัดพระธาตุพนม หลังประท้วงทนายอนันต์ชัยที่ออกมาจัดระเบียบจนปะทะคารมเดือด! พร้อมขอความเห็นใจ เพราะพื้นที่ให้ขายใหม่อยู่ห่างวัด ทำรายได้หด ย้ำไม่มีมาเฟียอยู่เบื้องหลัง ทนายอนันต์ชัย ลั่นไม่คิดเอาเปรียบใคร ทำตามมติกรรมวัด มุ่งผลักดันให้เป็นมรดกโลก เน้นประโยชน์ถึงส่วนรวม พร้อมถอนแจ้งความผู้ค้า ถ้ายอมปฏิบัติระเบียบวัด

-หนุ่มขโมยรถจักรยานยนต์สายตรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ซิ่งหนี 10 กิโลเมตร ก่อนขี่ไปในอู่รถยนต์ เดินไปหาไขควงหวังถอดป้ายทะเบียนออก แต่ไปไม่รอดถูกตำรวจตามรวบคาอู่ ตรวจพบสติไม่ดี อ้างชื่อแบงก์ ตู้กระจก ได้รถเพราะทะลุกระจกเข้าไปเอามา



เรื่องเล่าการเมือง

-คู่เดือดทางการเมืองตอนนี้ ต้องยกให้คู่ของนายเศรษฐา กับนายอนุทิน เมื่อวานนายเศรษฐาโต้กลับนายอนุทินแบบนิ่ม ๆ และยังปราศรัยโจมตีพรรคภูมิใจไทยเรื่องกัญชาต่อ

เป็นกรณีที่เกิดขึ้นหลังนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ปราศรัยโจมตีพรรคภูมิใจไทยอยู่หลายรอบระหว่างลงพื้นที่ภาคอีสาน แล้วนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยโต้กลับอย่างดุเดือด

ช่วงเช้าเมื่อวานนายเศรษฐา ตอบกลับนายอนุทินผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ใจความสำคัญ คือ ยืนยันว่ายังเป็นนายเศรษฐา คนเดิม ไม่ได้เป็นตามที่นายอนุทินบอกว่าตนเปลี่ยนไปเยอะ

ในช่วงที่ผ่านมาที่ลงพื้นที่ สัมผัสถึงความทุกข์ใจของพี่น้องประชาชนที่ไม่พอใจกับภาพการปล่อยให้เกิดภาพนักเรียนอายุ 10 ขวบสูบกัญชาหรือ การเกิดปัญหายาเสพติดอื่นๆมากขึ้นในชุมชนต่างๆ เป็นภาพที่ตนและประชาชนยอมรับไม่ได้

ส่วนตัวไม่ใช่คนที่จะไปขัดแย้งกับใคร แต่ก็พร้อมที่จะขัดแย้ง ที่อาจทำให้ทางเดินทางการเมือง "แคบลง" เพื่อ "เปิดกว้าง" อนาคตให้กับลูกหลาน

ขณะที่เมื่อวาน นายอนุทินให้สัมภาษณ์เรื่องนี้อีกรอบ บอกให้สิทธิ์ลูกพรรคในการฟ้องร้อง หากใครเห็นว่าเสียหายจากสิ่งที่นายเศรษฐาพูด ยืนยัน จะไม่มีการเคลียร์ใจกับนายเศรษฐา และมั่นใจว่ายังมีช่องทางพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยหลังเลือกตั้ง

และระหว่างลงพื้นที่ จ.นครปฐม ช่วงบ่ายเมื่อวาน นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้อีกครั้ง ระบุว่า เป็นสิทธิ์หากภูมิใจไทยจะยื่นฟ้อง ซึ่งได้มอบให้ทางพรรคดูแลเรื่องข้อกฎหมาย ยืนยันไม่โกรธนายอนุทิน ยังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล เพราะต้องดูตัวเลขหลังการเลือกตั้ง

และในการขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.กาญจนบุรีในช่วงค่ำ นายเศรษฐา ยังปราศรัยโจมตีพรรคภูมิใจไทยเกี่ยวกับเรื่องกัญชาเหมือนเดิม



-เมื่อวานคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย มาให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการ "กรรมกรข่าวเปิดอกคุย" มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ

ประเด็นแรกสรยุทธถามถึงความแตกต่างของพรรคไทยสร้างไทยกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งคุณหญิง ก็ตอบชัดเจน ตั้งแต่ ไทยสร้างไทยไม่เป็นนอมินี ไม่ต้องฟังคำสั่งจากใคร ประชาชนคือนายใหญ่ ไปจนถึง ถ้าใครเบื่อลุง กลัวความขัดแย้ง ไม่ต้องการให้มีการสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร ต้องเลือกไทยสร้างไทย

อีกประเด็นไฮไลท์ คือ การพูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร ที่เพิ่งประกาศจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน โดยบอกว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายทักษิณ แต่อีกด้านนายทักษิณ ก็ต้องไม่สร้างเงื่อนไขหรือดีลพิเศษที่ทำให้เป็นเงื่อนไขเกิดการรัฐประหาร และบอกว่าส่วนตัวยังเคารพและมีความปรารถนาดีกับนายทักษิณ และไม่อยากให้นายทักษิณโดนหลอกอีก


-ขณะที่ท่านนายกฯ เมื่อวาน ก็ถูกถามกรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร เตรียมกลับมาเลี้ยงหลาน แต่ก็ใช้การยิ้ม เพื่อเลี่ยงแทนการตอบคำถาม

เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 2 รอบ ทั้งก่อนและหลังประชุมครม. กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความ ขออนุญาตกลับมาเลี้ยงหลาน

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยิ้มให้กับผู้สื่อข่าว โดยไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ผู้สื่อข่าว ถามย้ำว่า นายทักษิณต้องขออนุญาตใคร ก็ไม่ตอบคำถามเช่นกัน

ขณะที่ช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลาราชการ สวมบทบาทในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ นำทีมแกนนำลงพื้นที่หาเสียง ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ดูแลของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไหว้ศาลเจ้าสว่างผลหนองมน ซึ่งคนในพื้นที่ให้การนับถือ ก่อนเดินหาเสียงที่ตลาดหนองมน บรรยากาศก็มีกองเชียร์มาให้กำลังใจอย่างคึกคัก

จากนั้นช่วงค่ำ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเวทีปราศรัย ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี โดยนายสุชาติ ปราศรัยอย่างดุเดือด ช่วงหนึ่ง ถามชาวชลบุรีอยากได้ผู้นำแบบไหน แบบตัดสินใจได้เอง หรือเลือกแบบต้องไปถามคุณพ่อก่อน

พร้อมประกาศชลบุรี เป็นเมืองหลวงของคนเสื้อเหลือง เพราะทุกคนเคยลำบากเมื่อปี 52- 53 มาแล้ว จึงขอให้จำภาพเหล่านั้นไว้ว่าอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปิดท้าย ก็ระบุว่า ตนเป็นชาวชลบุรี เพราะจบโรงเรียนนายร้อยฯ รับราชการบรรจุว่าที่ร้อยตรีที่นี่ ทำให้มีวันนี้ จึงตื่นเต้น เพราะมีคนต้อนรับจำนวนมาก แสดงว่า พวกเรายังรักกันอยู่ พร้อมอ้อน “ขอให้เลือก ส.ส.ชลบุรีพรรครวมไทยสร้างชาติยกจังหวัด

พล.อ.ประยุทธ์ ขออย่าปล่อยให้ตนโดดเดี่ยว อย่าให้ใครมาด้อยค่าประเทศ ไม่สร้างความขัดแย้ง พร้อมบอกว่า รับได้ ที่มีคนบอกว่า ตนเป็นยาม เป็น รปภ. เพราะมีหน้าที่ในการปกป้องประเทศ ดูแลประชาชน



-ส่วนอีกประเด็นร้อนที่เป็นดรามา เมื่อวานนี้ หลังอดีต กกต.สมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาโพสต์ภาพการเก็บบัตรประชาชน ระบุว่าเป็นช่วงการปราศรัยของพรรคการเมืองหนึ่ง ที่จังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมเรียกร้องให้ กกต.ตรวจสอบ

เมื่อวานนี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย โพสต์ภาพ ระบุว่า เกิดขึ้นระหว่างเวทีปราศรัยพรรคการเมือง ซึ่งผู้มาฟังถูกรวบรวมบัตรประชาชน เพื่อเก็บข้อมูล เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมแจ้งพิกัดวัดป่ากุลเชฏโฐ อ.ลืออำนาจ เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดอำนาจเจริญ

นายสมชัย ให้สัมภาษณ์ บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการปราศรัยของพรรคการเมืองของชายผู้สูงอายุ ก็เรียกร้องกกต.ต้องเข้าไปตรวจสอบ โดยไม่จำเป็นต้องมีคนร้อง

แม้จะไม่มีระบุชื่อชัดๆ แต่ในโซเชียลมีการโจมตีว่าเป็นเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ก็ชี้แจง ยืนยันว่าไม่มีการเก็บบัตรประชาชน เป็นการตัดต่อ

ขณะที่ นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี ผู้สมัคร เขต 2 จังหวัดอำนาจเจริญ พรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาชี้แจง หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์มาจาก ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ก็บอกว่า เป็นการใส่ร้ายป้ายสี พร้อมเตือนใครที่กล่าวหา เรื่องที่ไม่เป็นความจริง ตนจะขอแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด

ทั้งนี้ในช่วงค่ำเมื่อวานนี้ สำนักงาน กกต. ได้ชี้แจงกรณีภาพ ที่อ้างมีการเก็บบัตรประชาชนซื้อเสียง ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า ภาพดังกล่าว เป็นการสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากบันทึกข้อมูลเสร็จแล้วได้คืนบัตรประจำตัวประชาชนให้กับผู้ที่มาร่วมกิจกรรม ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นการนำภาพต่างเวลา-ต่างสถานที่รวมเป็นเรื่องเดียวกัน พร้อมยืนยัน กกต. ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และ จะตรวจสอบเพื่อดำเนินการกับผู้ไม่ประสงค์ดีต่อไป



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aA5q1YCwbqw

คุณอาจสนใจ

Related News