เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 15 ก.พ.66 จับตาอภิปราย ม.152 - เบนซ์ เดม่อน ถึงไทย - สั่งสอบสารวัตรซัว

-เบนซ์ เดม่อน เดินทางถึงไทย ตามนัด 21.30 น. คนเดียว ไร้เงาน้องชายทั้ง 2 เหตุไม่ได้มีหมายจับ เจ้าตัวร้องขอทนาย ตำรวจคุมตัวไป บช.สอท. แจ้งวัฒนะ ขณะที่เจ้าตัวยังปิดปากเงียบ ปัดตอบคำถามสื่อ หลังโดนจี้ถามเจ้าตัวมีความเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์หรือไม่

-ผบ.ตร. สั่งจเรตำรวจแห่งชาติ สอบข้อเท็จจริง นายพล จ. – สารวัตรซัว เอี่ยวพนันออนไลน์ - น้ำมันเถื่อน รายงานผลใน 15 วัน ลั่นถ้าเชื่อมโยงใคร ฟันเอาผิดทุกราย ทั้งอาญา วินัย ด้านสารวัตรซัว โพสต์ IG อยู่ที่ตุรกี พร้อมข้อความ “ขอบคุณมากสำหรับการทำตลาดให้ฟรี ขอให้ทำต่อไป”

-ชูวิทย์ โต้ข่าว นายพล จ. โทรเคลียร์ ยันไม่รู้จัก ไม่เคยเจรจาใดๆ เตรียมให้ข้อมูลกับจเรตำรวจเพิ่ม พร้อมเปิดตัวละครใหม่ ดาบศรมียศดาบ แต่ใช้ชีวิตร่ำรวย มีรถตู้หรู 3 คัน รีสอร์ตอีกหลายแห่ง เชื่อเป็นหน้าเสื่อให้นายพล จ. ย้ำลูกชายและคนในครอบครัวไร้เอี่ยวธุรกิจกับสารวัตรซัว ถ้าไม่จริงขอให้ล่มจม

ด้าน ทนายตั้ม โพสต์นายพล จ. คือ บิ๊กแจง - พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่เฉลย เพราะเห็นสังคมสงสัย และไปพาดพิงถึงตำรวจที่ดี ไม่หวั่นถูกฟ้องกลับ ไม่อยากให้คนสับสน เชื่ออีกไม่นาน ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางน่าจะทำคดีที่คนสนใจ

-DSI สั่งฟ้องดีเจแมน-ใบเตย และพวกรวม 8 คน คดีแชร์ Forex-3D ทั้งสิ้น 3 ข้อหาหนัก หลังพบเส้นทางเงินเชื่อมโยง และไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ ใบเตยโพสต์เฟซบุ๊ก ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่คิดหลบหนี ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ขอโอกาสพิสูจน์

-จ่อเรียกลูกชาย-ลูกสะใภ้ สอบปมกักขัง-วางยาเฮียโต ฮุบสมบัติ 65 ล้าน คนรอบตัวเสียงแตก อดีตครูประจำชั้น ชี้ลูกเฮียโตหัวอ่อนไม่ทันคน วอนศิษย์พูดความจริง ญาติลูกสะใภ้ ชี้ ไม่มีกรอกยา แต่กักขัง เพราะเฮียโต มีอาการอัลไซเมอร์

ทนายเดชา วิเคราะห์คดีเฮียโต แจ้งความลูกชายแท้ๆ กักขัง โอละพ่อ มีพิรุธหลายจุด – ขาดแรงจูงใจ ลั่นความจริงใกล้ปรากฏหลัง ลูกชาย – สะใภ้ เดินทางกลับจากเที่ยวฮ่องกง



เรื่องเล่าการเมือง

-ไฮไลท์การเมืองวันนี้ ฝ่ายค้านจะมีการเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล คล้ายๆกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่จะไม่มีการลงมติ ซึ่งคุณชวน หลีกภัย ก็งัดไม้เด็ด เตรียมรับมือ ส.ส.ที่โดดประชุม ไว้แล้ว

การอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันนี้ตามกำหนดการจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.30น. เป็นการอภิปรายเพื่อเสนอแนะและซักถามปัญหาต่างๆจากรัฐบาล โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านต้องการอภิปรายให้ประชาชนได้เห็นปัญหาความล้มเหลวด้านต่างๆของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ลงมติในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวความพยายามทำให้สภาล่มเพื่อไม่ให้มีการอภิปราย

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าขณะนี้ ส.ส. ในสภา มีทั้งหมด 419 คน เป็นฝ่ายรัฐบาล 233 คน ฝ่ายค้าน 186 คน ซึ่งรัฐบาลยังมีเสียงมากพอสมควร แต่มีปัญหารัฐบาลคุมองค์ประชุมไม่ได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นโอกาสที่รัฐมนตรีได้ชี้แจง ถ้ารัฐมนตรีมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด

ส่วนปัญหา ส.ส.ไม่เข้าประชุม คุณชวนบอกว่า คู่แข่งของ ส.ส. ที่จะลงเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด สามารถมาขอดูข้อมูลการประชุมของคู่แข่งได้ ว่าเข้าประชุมสภากี่ครั้งมีความรับผิดชอบหรือไม่ จะได้เอาไปบอกประชาชน

ขณะที่เพจพรรคก้าวไกล โพสต์เชิญชวนติดตามการอภิปรายในวันนี้ โดยไฮไลท์อยู่ที่การอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม ที่ทางพรรคระบุว่า ข้อมูลเด็ดสุดของขบวนการ "ไทยเทา" ที่ไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน และระบุว่าเป็นศึกครั้งสุดท้ายในสภา ภายใต้ชื่อ "เช็คบิลปรสิต ปิดสวิตซ์ 3 ป."

ก็ต้องจับตาว่าการอภิปรายจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ องค์ประชุมจะครบหรือไม่ หรือจะมีปัญหาสภาล่มกลางคันหรือไม่

-เมื่อวานวันวาเลนไทน์ ในส่วนของการเมืองมีการประชันส่งมอบความสุขให้ประชาชนกันอย่างคึกคัก เริ่มจากเพจพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ภาพ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรค และประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ในอิริยาบท ใบหน้าอมยิ้มและกำลังกอดธงชาติไทย พร้อมข้อความว่า "รักเธอประเทศไทย สุขสันต์วันแห่งความรัก...สุขสันต์วันแห่งความรัก"

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐก็ไม่น้อยหน้า โพสต์ภาพ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ใส่หมวกในลุคสุดเท่ พร้อมข้อความ "สุขสันต์วันแห่งความรัก ขอส่งใจไปถึงพี่น้องประชาชน ที่เป็นแรงบันดาลใจ สู่ใจบันดาลแรง ขอคนไทยทุกคน มีความรักความสุข ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา นำพาประเทศมั่นคง"

อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้โพสต์ส่งความรักวันวาเลนไทน์เช่นกัน โดยอวยพรให้ประชาชนจะได้ผู้นำที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชน

ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์คลิปส่งมินิฮาร์ทในสตอรี่เฟซบุ๊กส่วนตัว และโพสต์ภาพและข้อความว่า "ขอส่งความรักและกำลังใจให้กับทุกท่านด้วยความคิดถึงและห่วงใย...กว่า 8 ปีแล้วที่ประเทศต้องการคนที่รักประชาชนอย่างจริงใจ เข้าใจ ถึงความทุกข์ยากที่ประชาชนได้รับ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมความเหลื่อมล้ำของไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก

หวังว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ประชาชนจะได้ผู้นำที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชน รักและห่วงใยประชาชนจากใจจริง เพื่อเข้าไปทำงานให้กับทุกคนให้มีความกินดีกินดี มีความสุข"

-เมื่อวาน พล.อ.ประวิตร ถือฤกษ์วันวาเลนไทน์ลงหาเสียงในพื้นที่ กทม.อย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยไปที่เขต "ป้อมปราบศัตรูพ่าย" และ "ป้อมมหากาฬ" ท่ามกลางแดดร้อนจัด ทำให้บางช่วงท่านต้องพักเหนื่อย

โดยเมื่อวาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลาประชุม ครม. ก่อนจะมาลงพื้นที่ในช่วงบ่าย พร้อมแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค จุดแรก เป็นที่วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่

จากนั้นพลเอกประวิตร พร้อมคณะขึ้นรถแห่ไปยังวัดสระเกศ ระหว่างทาง พล.อ.ประวิตร และแกนนำก็ได้โบกมือทักทายประชาชนที่อยู่สองข้างทาง ท่ามกลางแดดร้อนจัด

หลังไปที่วัดสระเกศแล้ว พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปที่ป้อมมหากาฬ เขตพระนคร ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เมื่อไปถึงจุดนี้ พล.อ.ประวิตร ได้นั่งพักอยู่ในรถประมาณ 5 นาที

ก่อนจะลงมาถ่ายรูปร่วมกับแกนนำและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.ของพรรค และทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ โดยใช้เวลาที่จุดนี้เพียงประมาณ 3 นาทีเท่านั้น ก่อนจะกลับมาขึ้นรถ

หลังจาก พล.อ.ประวิตร ขึ้นไปนั่งในรถ (ท่าทางเหนื่อยๆ) ผู้สื่อข่าวถามจึงถามถึงการลงพื้นที่ กทม.ครั้งแรก ว่าเหนื่อยไหม พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ไม่เหนื่อย แต่ร้อน.."

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่ว่า ที่เลือกลงพื้นที่ กทม.วันนี้ เพราะเป็นวันแห่งความรักต้องการให้ทุกคนมีความรักและก้าวข้ามความขัดแย้ง ส่วนที่เลือกเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพราะอยากปราบความยากจน ไม่ใช่ปราบศัตรูเพราะไม่มีศัตรู



-กรณีดราม่า กกต. คำนวณจำนวน ส.ส. แต่ละจังหวัดโดย นำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทย มาคำนวณด้วยนั้น ล่าสุด กกต. มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว เพื่อให้เกิดความกระจ่าง

มีรายงานว่าจากสำนักงาน กกต. ว่าที่ประชุม กกต.วันนี้ กกต. มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการนำ นำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณจำนวน ส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมี และการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับกฎหมายหรือไม่

หลังจากที่ผ่านมา กกต. ปฏิบัติตามกฎหมายลูกว่าด้วยการเลืออกตั้ง กำหนดจำนวน ส.ส. จาก สัดส่วนราษฎร ที่กรมการปกครอง ประกาศมาตลอดซึ่ง ข้อมูลดังกล่าว เป็น ตัวเลขรวมระหว่าง ผู้มีสัญชาติไทย และไม่มีสัญชาติไทย ด้วย

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เปิด ความเคลือบแคลงสงสัยในการทำงานของ กกต. และเพื่อให้ศาลได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย มองว่า ถือเป็นเรื่องดี ที่ กกต. ยื่นให้ศาลตีความ เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่สังคมสงสัย ส่วนจะกระทบการเลือกตั้งหรือไม่ อ.วิษณุ บอกว่าวันเลือกตั้งกำหนดแล้วก็สามารถเลื่อนออกไปได้

เช่นเดียว กับ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ทเห็นด้วย กับการทำให้เรื่องนี้เกิดความชัดเจน ป้องกันไม่เกิดปัญหาในภายหน้า แต่ต้องไม่ใช้เรื่องนี้ทำให้การเลือกตั้งล่าช้า เพราะศาลเห็นว่า ไม่ให้นับรวมคนต่างด้าว ก็จะกระทบต่อการแบ่งเขตใหม่

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/vsjAL52zodY