สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 ก.พ.66 ส.ว.ลั่นไม่เอานายกฯหน่อมแน้ม-เบนซ์ เดม่อนบินกลับไทย-เฮียหมูให้อภัยลูกชาย

โดย thichaphat_d

14 ก.พ. 2566

72 views

-เฮียหมู เดินหน้าฟ้องเอาผิดลูกชาย-ลูกสะใภ้ พ่อตา-แม่ยาย หลังถูกกักขัง-ทรมาน จัดฉากให้ไร้ความสามารถ ก่อนโอนเงินรัวหวังฮุบสมบัติ เผยพร้อมให้อภัยลูกชายถ้ากลับใจมาร่วมมือและเป็นพยานให้ แต่ไม่ให้อภัยฝั่งลูกสะใภ้ ขณะที่ลูกชาย-ลูกสะใภ้ยังล่องหน

ล่าสุดตำรวจนำกำลังเข้าค้น 3 จุดต้องสงสัย ไม่พบตัวเจ้าของบ้าน ขณะที่ผู้การ ชี้มีหลักฐานเอาผิดคดีกักขัง พร้อมเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องสอบปากคำ หากไม่มาเตรียมขออนุมัติหมายจับทันที ส่วนคดีภรรยาเฮียหมู ยังไม่พบหลักฐานฆาตกรรม แต่พบสารตกค้างในกระเพาะอาหารหลังเสียชีวิต

-ทนายความเผย เบนซ์ เดม่อน เดินทางกลับไทยก่อนกำหนด พร้อมน้องชาย 2 คน บินถึงประเทศไทย 3 ทุ่ม วันนี้ 14 ก.พ. ก่อนระบุ เบนซ์ มีความเครียดสูง ลั่นขอพิสูจน์ความจริงตามกฎหมาย พร้อมโต้ดิว อริสรา พูดให้เป็นผู้ร้ายสังคม ส่วนปมทำร้ายร่างกายมีหลักฐานเตรียมชี้แจง ขณะที่ ตำรวจ ตม. เตรียมรวบตัวทันทีเพราะมีหมายจับยันไม่เป็นการมอบตัว

-สลดนักเรียนหญิง ม.1 จ.บุรีรัมย์ ไลน์หาแม่ขอให้ช่วย หลังถูกปู่บังคับข่มขืนตั้งแต่ ป.4 มิหนำซ้ำ ยังให้ 3 หลานชายมารุมข่มขืนต่อ ด้านเด็กเผยเคยบอกครู แต่กลับไม่สน บอกพ่อโดนตอบกลับไร้สาระ ผ่านไปหลายวันกว่าจะมีคนเชื่อ ขณะปู่ยืนกรานไม่เคยข่มขืน รับเพียงเคยแย่งโทรศัพท์อาจเหมือนเป็นปลุกปล้ำ แม่ยอมรับ ไม่เชื่อว่าปู่ทำจริง จึงปล่อยเวลาล่วงเลยมา ตอนนี้สงสารลูกสาวมาก ยันจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด

-ลูกจ้างสาวสุดช้ำ ถูกเจ้าของร้านทุเรียนข่มขืน ใช้ร่มตีอวัยวะเพศ ซ้อม 3 ชม. เมียรู้แก้ผ้าประจาน จับยัดกระสอบ ก่อนใช้กรรไกรมากล้อนผม ทรมานทารุณเกินมนุษย์ ไปแจ้งความตำรวจกลับลงแค่บันทึกประจำวันทำร้ายร่างกาย ส่วนคดีล่วงละเมิดบอกให้รอไกล่เกลี่ย

ด้านบิ๊กโจ๊ก ลั่นดำเนินการให้ถึงที่สุด ตรวจสอบสำนวนพบไม่มีความคืบหน้า พร้อมตำหนิชุดทำงานเตรียมส่งพนักงานสอบสวนส่วนตัวช่วยในพื้นที่ ยันเดินหน้าถึงที่สุดหลากพยานหลักฐานพร้อมออกหมายจับได้ทันที

-ดราม่าสนั่นโซเชียล คลิปนักเรียนเข้าค่ายลูกเสือพักแรม นั่งแพข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ไร้เสื้อชูชีพสวมใส่ ชาวเน็ตติงหวั่นอันตราย ล่มมาใครจะรับผิดชอบ ด้านทางผู้บริหารค่าย ระบุ น้ำลึกเพียง 80 ซม.ยืนยัน มีเจ้าหน้าที่ดูแลทุกฐาน พร้อมเพิ่มความปลอดภัยอีก เพื่อความสบายใจของผู้ปกครอง



เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นร้อนต่อเนื่องเรื่อง ส.ว.กับการโหวตเลือกนายกฯ เมื่อวานยังมี ส.ว.ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ดุเดือดที่สุดก็น่าจะเป็น ส.ว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ในการเลือกนายกฯ เชื่อว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะเคารพเสียงของประชาชน และทำเพื่อบ้านเมืองเท่านั้น โดย ส.ว. จะดูว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ต้องเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ ไม่มีเบื้องหลังทุจริต นำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อย

ส่วนหากพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และมีเสียงเลือกตั้งประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง ส.ว.พร้อมโหวตให้หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า หากเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์และได้ ส.ส.เกินครึ่งก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่สำหรับการเลือกนายกฯ เป็นสิทธิของ ส.ว. เพราะประเทศชาติไม่ใช่ของเล่น ถ้าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีจริงต้องสร้างผลงาน

และบอกว่า น.ส.แพทองธาร "ควรจะเสริมกระดูกทางการเมืองอีกสักหนึ่งสมัย แล้วค่อยมาว่ากัน เพราะเราเคยมีประสบการณ์แล้วว่านายกฯที่หน่อมแน้ม สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติ ในสถานการณ์โลกแบบนี้ขอ คนที่กระดูกแข็ง ๆ หน่อย"

ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.ตั้งธงว่าแม้เพื่อไทยจะชนะแลนด์สไลด์ก็จะไม่เลือกนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เห็นตัวตนของ ส.ว. อย่างชัดเจน อย่างที่รู้ว่าใครเป็นตั้ง ส.ว. เพื่อมาทำภารกิจอะไร ดั้งนั้นจึงต้องปกป้องและช่วยเหลือ พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร

วันนี้จึงไม่ได้คาดหวังว่าเสียง 250 จาก ส.ว.แต่คาดหวังเสียง ส.ส.250 ขึ้นไปเพื่อตั้งรัฐบาลได้



-กรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากนิวซีแลนด์ 1542 ใบ ในการเลือกตั้งปี62 ที่มาถึงไทยล่าช้า จนกลายเป็นบัตรเสีย เมื่อวานนี้ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง อดีตรองเลขา กกต.แล้ว

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กกต. ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานอย่างร้ายแรง และยังหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

สืบเนื่องจากการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เมื่อปี 2562 มีปัญหาการส่งบัตรจากนิวซีแลนด์ล่าช้ากว่ากำหนด โดยบัตรเดินทางถึงประเทศไทย ในคืนวันที่ 23 มี.ค. ก่อนการลงคะแนนเลือกตั้ง ในประเทศเพียง 1วัน ทำให้ไม่ทันต่อการกระจายบัตรเพื่อส่งไปนับคะแนนที่เขตเลือกตั้งต่างๆได้ ส่งผลให้ กกต.มีมติไม่นับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งดังกล่าวทั้งหมด

และจากการไต่สวน ของ ป.ป.ช. พบว่า อดีต รองเลขาธิการ กกต. ทราบปัญหาล่าช้า ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. แล้ว แต่กลับไม่ดำเนินการแก้ไข หรือรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

จนกระทั่งบัตรเลือกตั้ง มาถึงไทยแล้ว อดีตรองเลขาธิการ กกต. ก็รับทราบ แต่ก็ไม่สั่งการหรือประสานงานให้ไปรับบัตร เป็นเหตุให้บัตรเลือกตั้งทั้งหมดกลายเป็นบัตรเสีย

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ ป.ป.ช. บอกว่า คดีนี้ไม่ได้มีความผิดทางอาญา เป็นเพียงความผิดทางวินัยร้ายแรง การลงโทษก็จะขึ้นอยู่กับ กกต. หน่วยงานต้นสังกัด ดำเนินการไปตามระเบียบ ของ กกต. ซึ่ง กกต. อาจจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ทางแพ่งได้


-อีกประเด็นร้อนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง คือ เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ในจังหวัดต่างๆ เมื่อวานพรรคเพื่อไทยออกมาคัดค้านรูปแบบการแบ่งเขตในพื้นที่ กทม. มีการเปรียบว่าเหมือนถูกรัฐประหารด้วยการแบ่งเขต

ทั้งนี้ กกต. กทม.ได้ประกาศรูปแบบการแบ่งเขตพื้นที่ กทม.ออกมาทั้งหมด 8 รูปแบบ โดยประกาศออกมา 2 รอบ รอบแรกวันที่ 3 ก.พ. ประกาศ 5 รูปแบบ และต่อมา วันที่ 9 ก.พ. ประกาศเพิ่มอีก 3 รูปแบบ ตามคำสั่งของเลขาธิการ กกต.ที่ให้แบ่งภายใต้โจทย์ให้จำนวนราษฎรใกล้เคียงกันมากที่สุด

เมื่อวานพรรคเพื่อไทยแถลงข่าวคัดค้านการแบ่งเขตแบบที่ 6-8 ที่เพิ่มมาทีหลัง โดยบอกว่าเป็นการแบ่งเขตที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งที่บิดเบี้ยว ไม่เป็นไปตามธรรมชาติของแต่ละพื้นที่ และไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่ต้องยึดถือการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเดิมเสียก่อน

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย การแบ่งเขตในรูปแบบที่ 6-8 มีโอกาสสร้างความสับสนให้ประชาชนมากกว่า เหมือนเป็นการแบ่งพื้นที่ตามแขวง แบบนี้คงเรียก ส.ส. เขต ไม่ได้ ต้องเรียกว่า ส.ส. แขวง

ขณะที่ นางสุภาพร คงวุฒิปัญญา ส.ส.กทม. ระบุว่า การแบ่งเขตในรูปแบบที่ 6-8 เหมือนประชาชนกำลังถูกรัฐประหารผ่านการแบ่งเขตเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้พรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค ได้ไปยื่นต่อ กกต.คัดค้านการประกาศเขตเลือกตั้ง กทม. ในรูปแบบที่ 6-8 เช่นกัน โดยให้เหตุผลลักษณะเดียวกัน คือ แบ่งเขตขัดหลักที่ให้คำนึงเรื่องเคยอยู่เขตเดียวกัน หรือ ชุมชนใกล้เคียงกัน


-ความเคลื่อนไหว ของแกนนำรัฐบาล เมื่อวานนี้ ทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ต่างก็เดินสายลงพื้นที่ พบปะประชาชน

เริ่มต้นที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไปพร้อมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย คุณสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีแรงงาน คุณธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

ติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัย และปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน

โดยท่านนายกฯ ได้สักการะบูชาพระบรมธาตุไชยา ที่ วัดพระบรมธาตุไชยา ท่ามกลางบรรยากาศประชาชน ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ แห่มาต้อนรับ ขอถ่ายรูปจำนวนมาก มีการนำดอกกุกลาบมามอบให้เนื่องในวันวาเลนไทน์ ด้วย

จากนั้นไป ที่ว่าการอำเภอไชยา รับฟังรายงานแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมเป็นสักขีพยานในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำกินของประชาชน ซึ่งท่านนายกฯก็บอกว่า ดีใจที่ได้มา จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งใจมาดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม

นอกจากนี้ ท่านนายกฯ ยังได้เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมว่าวสุราษฎร์ธานี ส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุรักษ์การละเล่นของไทย ด้วย ภายในงานมีการจัดแสดงว่าวแฟนซีหาดูยากสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานอย่างมาก

ส่วน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ไปในนามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หาเสียงเลือกตั้ง และปราศรัย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ตามรายงานบอกว่า มีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัย มากถึง20,000คน

มีการเปิดตัว พลเอกประวิตร ขึ้นพูดบนเวที โดยใช้ลิฟท์ไฮดรอลิก ด้วย ซึ่งพลเอกประวิตร บอกว่าการมา จ.กาญจนบุรี ครั้งนี้ มาเพื่อให้พี่น้องได้มั่นใจ ว่าพรรคพลังประชารัฐจะคัดสรรคนที่ดีที่สุด มาทำงานให้กับทุกคน

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปเปิดเวทีปราศรัย ที่ชุมชนหมู่บ้านพัฒนา 70 ไร่ เขตคลองเตย ปราศรัยหาเสียง ให้กับผู้สมัครของพรรค โดยคุณอนุทิน ยืนยันว่า ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้ขับเคลื่อนเรื่องขนส่งมวลชนให้กับ กรุงเทพมหานคร มีรถไฟฟ้า และมีรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพร้อม จะเข้ามาทำให้พื้นที่คลองเตยเป็นสวรรค์ของประชาชน


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LEyQ06qMpxk

คุณอาจสนใจ

Related News