สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 30 พ.ค.65 จับตา กกต.รับรองชัชชาติ-เต้เตือน 4 ทนายดัง-สาวไทยดับปริศนาที่โอมาน

โดย thichaphat_d

30 พ.ค. 2565

62 views

-ทำแผนวุ่น ญาติลุกฮือ รุมประชาทัณฑ์ หนุ่มกราดยิง หน้าร้านชำ ตาย 2 สาหัส 1 อ้างแค้นถูกต่อว่า นิสัยส่วนตัว ภรรยาคนเจ็บ ลั่นทำคนอื่นตาย ก็ควรจะตายตามกันไป ไม่น่าทำกันได้ เพราะทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน ด้านแม่ผู้ต้องหา รับลูกทำผิด ขอโทษแทนลูก เผยมีอาการป่วยจิตรเวช ไม่ได้รับยามาปีเศษแล้ว

-ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ เดือด ออกโรงป้องทีมงานคดีแม่แตงโม ประกาศกร้าว เตือนครั้งสุดท้าย 4 ทนายดัง ทนายเดชา ทนายตั้ม ทนายรัชพล และทนายรณรงค์ ให้หยุดออกความเห็นกระทบคดีแตงโม หรือทำให้แม่ภนิดา เกิดความหวาดกลัว หากไม่หยุด จำเป็นต้องใช้วิธีการทางการเมืองจัดการ

ด้านทนายเดชา ขอไม่อยู่เฉย เดินหน้าร้องกองปราบฯ วันนี้ ขณะที่แม่แตงโมขู่ ทนายเดชา หากปล่อยข่าวทำให้เสื่อมเสีย จะฟ้องกลับทันที

-สลด สาวไทยชาวสกลนคร ดับปริศนาที่โอมาน หลังถูกสามีโหดทำร้ายร่างกายก่อนตกตึกเสียชีวิต เพื่อนร้องขอความเป็นธรรม วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยส่งร่างกลับไทย บำเพ็ญกุศลบ้านเกิด

-กรมควบคุมโรค รายงาน ทั่วโลกป่วยฝีดาษลิงแล้ว 484 จากราย 27 ประเทศ โดย 5 อันดับแรก ที่สเปน 139 ราย ตามด้วย อังกฤษ // โปรตุเกส // แคนาดา และเยอรมัน // และพบใหม่ที่ อิหร่าน ขณะที่ องค์การอนามัยโลก ยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน เพราะยังสามารถควบคุมได้ เตือนให้ตระหนัก รับรู้ความเสี่ยง

-สุดอั้น บริษัทน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ปรับขึ้นราคา นายกสมาคมผู้ค้าส่ง-ปลีกไทย เผยเป๊ปซี่ แจ้งปรับราคาขายปลีกทุกขนาด และทุกแพ็กเกจจิ้ง 1-2 บาท ต่อขวด / กระป๋อง หลังแบกรับต้นทุนบรรจุภัณฑ์ไม่ไหว โดยราคาขายปลีกใหม่จะปรับขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้

-อัยการ แจงกฎหมายใหม่ปลดล็อกกัญชา 9 มิถุนายนนี้ ผลิต-ขาย-นำเข้า-ส่งออก-เสพ-ครอบครอง พ้นคดีหมด คดีระหว่างถูกดำเนินคดี พ้นความผิด ศาลขังต่อไม่ได้ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาต้องยกฟ้อง อยู่ระหว่างรับโทษ การลงโทษสิ้นสุดลง คดีเก่าได้ล้างมลทิน เอามาเป็นเหตุเพิ่มโทษ บวกโทษ หรือไม่รอการลงโทษในคดีหลังไม่ได้ ริบของกลางไม่ได้

-สุดวุ่น กลางงานบุญบั้งไฟ ศรีสะเกษ เซียนบั้งไฟนับร้อย ลุกฮือล้อมกรอบขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ หลังบุกจับลอบจุดบั้งไฟเถื่อน ขนาดใหญ่เกิน 3 นิ้ว โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต



เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นการทางเมืองช่วงนี้ยังอยู่ที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. และที่ต้องจับตาในวันนี้ คือ ในช่วงบ่าย กกต.จะมีการประชุมพิจารณาผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ซึ่งต้องรอดูว่า กกต.จะรับรองนายชัชชาติเลยหรือไม่

โดยมีรายงานว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะเสนอรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) และสมาชิกกรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เข้าสู่ที่ประชุม กกต. ซึ่งการจะพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งของผู้สมัครรายใด ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียน

ในส่วนของนายชัชชาติ นั้น ล่าสุดถูกร้องทั้งหมด 3 เรื่อง โดย 2 เรื่องแรกถูกร้องมาก่อนหน้านี้ คือ

1. นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องต่อ กกต.กรณีป้ายหาเสียงเป็นผ้าไวนิลที่นำไปรีไซเคิลทำกระเป๋า-ผ้ากันเปื้อน ได้ ว่าเข้าข่ายจูงใจให้ลงคะแนนให้ - จัดทำให้ - เสนอให้ - สัญญาว่าจะให้ - หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือ ผลประโยชน์อื่นใดหรือไม่

2. มีผู้ร้องเรียนหน่วยงานอื่นว่า "ชัชชาติ" ระบุว่า ระบบราชการอาจจะส่งผลต่ออุปสรรคการปฏิบัติงาน เหมือนเป็นการดูถูกระบบราชการ หรือ ด้อยค่าระบบราชการ

ส่วนข้อ 3 นายศรีสุวรรณ เพิ่งไปแจ้งความที่ สน.ลำผักชี เมื่อวานว่า นายชัชชาติ รวมทั้งผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. และ ผู้สมัคร ส.ก.บางคนยังไม่เก็บป้ายหาเสียง ขัดคำสั่ง กกต.ที่กำหนดว่าต้องเก็บป้ายภายใน 3 วัน และขัด พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และเตรียมไปร้องต่อ กกต.ในวันนี้ด้วย

ด้าน นายชัชชาติ ระบุว่า ได้ชี้แจ้งข้อกล่าวหา 2 เรื่องแรก ต่อ กกต. แล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สบายๆ

ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กำหนดว่า กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง หากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม // แต่ กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริต ให้ กกต.สืบสวนหรือไต่สวนให้แล้วเสร็จ และประกาศผลการเลือกตั้ง หรือจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง



-ส่วนเรื่องการลงพื้นที่ เมื่อวานนายชัชาติ ยังคงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เท่ากับตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้ง คุณชัชชาติ ลงพื้นที่ทุกวัน

โดยนายชัชชาติ พร้อมด้วย ว่าที่ สก.เขตวัฒนา ของพรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่ชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ เขตวัฒนา เพื่อสำรวจพื้นที่ชุมชนแออัดที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง และสำรวจคลองเป้ง ซึ่งอยู่ติดกับชุมชน พร้อมทั้งพบปะประชาชนที่มาฉีดวัคซีน

นายชัชชาติ ระบุว่า ทองหล่อถือเป็นใจกลางเมือง แต่กลับมีชุมชนแออัดที่ซ่อนอยู่ 3-4 แห่ง มีประชากรรวมกันอยู่ 300-400 หลังคาเรือน ซึ่งหลักๆหลายชุมชนอยู่อย่างผิดกฎหมาย ไม่มีโฉนด รุกล้ำสาธารณะ และกลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนที่ขับเคลื่อนเมือง ทำงานอยู่ในพื้นที่เอกมัย ทองหล่อ เช่น อาชีพแม่บ้าน รปภ. ซึ่งอยู่ไกลที่ทำงานไม่ได้

ทั้งนี้จะต้องพยายามปรับให้คนในชุมชนไปอยู่ในที่ที่ถูกกฎหมาย และช่วงเปลี่ยนถ่าย หาที่อยู่ที่ถูกกฎหมาย ก็ต้องดูแลเรื่องคุณภาพชีวิตด้วย

และในการลงพื้นที่ มีชาวบ้านเป็นคุณยายอายุประมาณ 70 ปี เดินออกมาร้องขอให้ช่วย บอกว่า อยู่ใจกลางเมือง แต่กลับไม่มีน้ำใช้ ต้องอาศัยต่อท่อประปามาจาก สน.ทองหล่อ เข้าใจดีว่าพื้นที่ชุมชนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูพื้นที่และช่วยเหลือ



-ในช่วงเย็น จริงๆ นายชัชชาติไม่ได้มีกำหนดการลงพื้นที่ แต่ปรากฏว่า จู่ๆ นายชัชชาติ ก็ได้ไปปรากฏตัวในกิจกรรมของกลุ่มราษฎร ที่จัดในซอยทองหล่อ และมีการตอบคำถาม เรื่อง มาตรา 112 ด้วย

โดยในช่วงบ่ายกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองได้จัดกิจกรรม "ตลาดนัดราษฎร" มีการจัดเสวนา เรื่องเล่า หลังกรงขัง และมียังมีการแสดงดนตรีและจำหน่ายสินค้าต่างๆ ที่สวนครูองุ่น ซอยทองหล่อ 3

ปรากฏว่า ในเวลา 17.24 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่า กทม. ได้ปรากฏตัวในงาน โดยนายชัชชาติบอกว่ากำลังจะเดินเข้าบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสวนครูองุ่น เพื่อเตรียมตัวไปงานแต่งงาน ระหว่างทางเห็นมีกิจกรรมจึงแวะเข้ามาเยี่ยมชม โดยนายชัชชาติได้ทักทายพ่อค้าแม่ค้าที่มาออกร้าน พร้อมอุดหนุนสินค้า

ช่วงหนึ่งพิธีกรได้เชิญนายชัชชาติ กล่าวกับผู้ร่วมกิจกรรมถึงการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ในอนาคต เพราะที่ผ่านมาถูกกฎหมายควบคุมไม่ให้จัดกิจกรรม นายชัชชาติกล่าวว่า บ้านตนอยู่ใกล้แถวนี้ ซึ่งเดินผ่านไปมาตลอดและเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ทรงคุณค่า ซึ่งตนมีนโยบายเรื่องการจัดพื้นที่สาธารณะเพื่อให้แสดงออก เพราะเห็นว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน

ช่วงหนึ่ง นายชัชชาติ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงชัยชนะของตน แต่หมายถึงชัยชนะของพวกเรา ซึ่งมีพลังขึ้น

จากนั้น น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ถามความเห็นนายชัชชาติ ถึงเรื่องการยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งนายชัชชาติก็มีคำตอบ โดยย้ำว่า จะต้องไม่นำมาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง การเลิกมาตรา 112 ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมียุทธศาสตร์ในการเดิน และบอกว่า "ผมก็อดทนมา 8 ปี"



-ความเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกเรื่องที่ต้องจับตา คือการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2566 ที่จะเริ่มวาระแรกในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) และฝ่ายค้านขู่จะคว่ำร่าง

เริ่มจากนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย บอกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เพราะเห็นว่ากู้จนเต็มเพดาน แต่งบประมาณพัฒนาประเทศแทบจะไม่มี แต่กลับมีงบประมาณซื้อเครื่องบินรบลำใหม่รุ่น F35 จำนวน 2 ลำ ลำละ 2,700 ล้านบาท แถมเป็นเครื่องบินเปล่าไม่มีอาวุธ นายกฯต้องมีคำตอบ ไม่เช่นนั้นจะไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯนี้

เช่นเดียวกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มองว่างบประมาณปี 66 เหมือนงบช้างป่วยที่ปรับตัวไม่ได้ เพราะงบประมาณที่ได้รับมากที่สุดคืองบกลาง ประมาณ 5 แสนกว่าล้านบาท โดย 80% เป็นงบบำเหน็จ บำนาญ และงบรักษาพยาบาลของข้าราชการ แทนที่จะเป็นเรื่องการฟื้นฟูประเทศ พรรคก้าวไกลจึงไม่สามารถที่จะให้งบประมาณผ่านวาระแรกไปได้

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ไม่อยากให้ใช้วิธีทางการเมืองกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย เพราะหากงบประมาณไม่ผ่านสภา ผู้ที่จะได้รับผลกระทบ คือประชาชนและประเทศ หากไม่ชอบการทำงานของรัฐมนตรีท่านใด ก็ขอให้ไปใช้เวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/AGm9MVkY86c


คุณอาจสนใจ

Related News