สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 12 พ.ค.65 บิ๊กป้อมรักษาการนายกฯ-แห่รีวิวอาหารพระบิดา-อัยการเผยคดีแตงโม

โดย thichaphat_d

12 พ.ค. 2565

49 views

-หมอปลา บุกวัดป่าเมืองยโสธร ลุยสอบหลวงปู่ชื่อดัง หลังหญิงสาวร้องเรียนถูก กระชากกอด ล้วงหน้าอก – อวดอุตริ สิ่งปฏิกูลในร่างกายกลายเป็น พระธาตุ ให้ลูกศิษย์บูชา ด้านพระเลขาฯ แจงหลวงปู่อายุ 90 กว่าปีแล้ว ป่วยอัลไซเมอร์ พอสื่อถามจี้ ทำหลวงปู่ไม่พอใจ โยนเหรียญวัตถุมงคลใส่หมอปลาและเจ้าหน้าที่ พร้อมไล่ให้ออกไป อ้างจะจำวัด

-พระเลขาฯ อีกองค์ ยอมรับหลวงปู่จับหน้าอกสีกาจริง เพราะเป็นการรักษาโรคมะเร็ง ยัน ปัสสาวะ อุจาระ เลือด และเส้นผม ของหลวงปู่ก็กลายเป็นพระธาตุจริงๆ เพราะเป็นพระอรหันต์ พระลูกวัด ดื่ม ฉี่หลวงปู่โชว์ต่อหน้าสื่อ อ้างเป็นการรักษาโรค สำนักพุทธจังหวัดลุยเอาผิดทันที ตำรวจเร่งสอบพื้นที่วัดเข้าข่ายอยู่ในป่าสงวน

-น้ำฟ้า ภรรยาหมอปลา เผยเรื่องสุดเศร้า ศพเด็กวัย 1 ขวบ 17 วันที่อยู่ในสำนักพระบิดา เกิดจากป่วยลูคีเมีย แต่รักษาไม่หาย พ่อเลยพามาสำนัก ให้ลูกดื่มฉี่ กินขี้ไคล พระบิดา ก่อนเสียชีวิต เพราะ ติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อปลายปี 63 พ่อเด็กติดใจพาลูกรักษาผิดวิธีทำลูกจากไป

-ชาวติ๊กตอกแห่รีวิว อาหาร และขนม ที่มีหน้าตาคล้ายสินค้าที่พระบิดาขาย พร้อมตั้งคำถามใช่ยี่ห้อเดียวกันไหม ด้านตัวแทนจำหน่ายขนมเปี๊ยะไก่หยอง แจงพระบิดาไม่ได้ผลิตแค่รับของไปขาย ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งด่วน หยุดขาย – บริโภค และสั่งเก็บสินค้าพระบิดาทันที

-หลวงพี่เผย ชายร่างท้วมท่าทางตุ้งติ้ง นำถุงยางใส่บาตร ให้เณรที่บิณฑบาต แถวโรงรับจำนำเมืองเชียงราย ตอนแรกเณรคิดว่าเป็นซอสพริก พอแกะดูถึงรู้ว่าเป็นถุงยาง ด้วยความคะนองจึงเอามาเป่าเล่น พอหลวงพี่เห็นจึงนำมาโพสต์เตือนสติสังคมว่า อย่าหาทำ

-อัยการนนทบุรี ลั่นไม่อนุญาตให้คนนอก หรือคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีแตงโม เข้าพบ ขอให้มั่นใจการทำงาน ด้านผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดใจ แชตคุยกับ อดีตศัลยแพทย์ ปมบาดแผลแตงโม ถูกอัจฉริยะ ตัดมาแฉแค่บางช่วง

-ตำรวจมหาสารคาม บุกจับพ่อโหดตบ 2 ลูกน้อยหน้าหัน ค้นเจอยาบ้า 13 เม็ด ยอมรับเครียด – เมายา ด้านลูกสาววัย 9 ขวบ ร่ำไห้ เคยถูกพ่อเอาเชือกผูกคอ 3 ครั้ง ทำร้ายอีกนับไม่ถ้วน คาดเสียใจเพราะแม่ทิ้งไป อยากให้พ่อไปบำบัด

-ครอบครัวนำ 2 โจ๋ขอโทษ หลังอาละวาด ถือมีดไล่ทำร้าย ด่าพยาบาล ถีบเจ้าหน้าที่ แต่ผู้ก่อเหตุสวนกลับพ่อ “ขอโทษแล้วจะเอาอะไรหนักหนา” จนแม่ต้องร่ำไห้ยกมือขอโทษแทน ด้าน รพ.ไม่ได้ติดใจ แต่คดีก็ให้ว่ากันตามกฎหมาย



เรื่องเล่าการเมือง


-กรณี กลุ่ม 16 ส.ส. นำโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ไปนัดรับประทานอาหารร่วมกับพรรคเพื่อไทย ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ มีมติลงโทษแล้ว

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อพิจารณาบทลงโทษต่อนายพิเชษฐ สถริชวาล

โดยพบว่า พฤติกรรมของนายพิเชษฐ ทั้งกรณีจัดตั้งกลุ่มการเมืองในชื่อ “กลุ่ม 16” เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และกรณีการไปร่วมรับประทานอาหารกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 2 ครั้งนั้น เกิดขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพรรค ถือ เป็นการทำลายความเป็นเอกภาพ และตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรคพลังประชารัฐ มีการฝ่าฝืนข้อบังคับของพรรคหลายประการ

นอกจากนี้ยังพบว่า นายพิเชษฐ ได้โทรศัพท์ไป พูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร บุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีด้วย ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีสำนึกต่อเสถียรภาพของพรรค และไม่มีจิตสำนึกต่ออุดมคติของพรรค ทำให้พรรคเกิดความเสียหาย

จึงมีมติลงโทษโดยการ แบน นายพิเชษฐ ไม่ให้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับพรรค เป็นเวลา 6 เดือน

ด้านนายพิเชษฐ สถริชวาล หลังทราบ มติดังกล่าว ก็บอกว่า เป็นมติที่ไร้เหตุผล มีการตั้งธงไว้อยู่แล้วว่าจะลงโทษ

แต่กลับไม่พูดถึงปัญหา ที่ตนได้ออกมาตรวจสอบการทุจริต ในโครงการระบบท่อส่งน้ำ อีอีซี ของรัฐบาล ยืนยันว่าหลังจากนี้จะเดินหน้าตรวจสอบโครงการดังกล่าวต่อไป ในนามหัวหน้ากลุ่ม 16

โดยเฉพาะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็จะไปขอโควตาฝ่ายค้านมาอภิปราย ความไม่โปร่งใส ดังกล่าว และจะลงมติไม่ไว้วางใจ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย



-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯที่ทำหน้าที่รักษาการนายกฯในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่ เมื่อวานถูกผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ถึง 3 รอบ

รอบแรกและรอบที่สองเป็นการสัมภาษณ์ก่อนและหลัง พล.อ.ประวิตร เข้าประชุมมอบนโยบายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ตึกสันติไมตรี ซึ่งท่านให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พล.อ.ประวิตร อาจเข้าข่ายแทรกแซงหรือครอบงำการทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ไม่ให้ร้อยเอกธรรมนัสไปร่วมรับประทานอาหารกับ นายยุทธพงศ์

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส บอกเองว่าไม่ได้ไปร่วม ตนไม่ได้ครอบงำ ส่วนกรณีที่นายกฯเดินทางไปสหรัฐ ก็ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ และบอกว่า ปกติคุยกันทุกวันอยู่แล้ว

และรอบที่สาม เป็นการสัมภาษณ์หลังจาก พล.อ.ประวิตร ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ตึกบัญชาการ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเตรียมสัมภาษณ์ ท่านก็พูดกลับว่า "ถามเช้า ถามกลางวัน ถามเย็น ถามทุกวัน" ผู้สื่อข่าว จึงตอบกลับว่า "วันนี้ท่านเป็นรักษาการนายกฯ" พล.อ.ประวิตร จึงหยุดเดินและยืนให้สัมภาษณ์ โดยรวมคือ ไม่มีความกังวลต่อเรื่องใด ทั้งเรื่องวาระนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กำลังจะครบ 8 ปี และเสถียรภาพรัฐบาล

ขณะที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จนถึงล่าสุดยังไม่เห็น ร.อ.ธรรมนัส ออกมาปฏิเสธ ว่าจะไม่มาร่วมรับประทานอาหารกับตนในวันที่ 23 พฤษภาคม

ทั้งนี้ กำลังให้คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคเพื่อไทยรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณาว่าการดำเนินการของ พล.อ.ประวิตร เข้าข่ายแทรกแซงก้าวก่ายพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ และจะยื่นเรื่องให้มีการยุบพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร เคยพูดในลักษณะที่อาจจะเข้าข่ายแทรกแซงก้าวก่ายเศรษฐกิจไทยหลายครั้ง



-อีก 10 วัน จะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. มีผลสำรวจความเห็นประชาชนของ 2 สำนักออกมา ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังคงนำเป็นที่หนึ่ง และรองลงมาเป็นผู้ยังไม่ตัดสินใจเหมือนกัน

สำนักแรก คือ บ้านสมเด็จโพลล์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งสำรวจความเห็นชาวกรุงเทพฯจำนวนทั้งสิ้น 1,113 กลุ่มตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 6 - 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

พบว่าอันดับหนึ่ง คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้คะแนน ร้อยละ 29.8

รองลงมา เป็นผู้ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 13.9

อันดับ 3 คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร  ได้ร้อยละ 10.9

อันดับ 4 คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง  ร้อยละ 8.1

อันดับ 5 ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ร้อยละ 7.5

อีกโพลเป็นของสถาบันพระปกเกล้า สำรวจประชาชน 1,038 คน พบว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาอันดับหนึ่งเช่นกัน และได้คะแนนสูงถึง ร้อยละ 42.4 (ของบ้านสมเด็จได้ ร้อยละ 29.8) / อันดับสอง คือผู้ยังไม่ตัดสินใจ 18.2%

ส่วนอันดับ 3-4-5 มีการสลับกันกับบ้านสมเด็จโพลล์ คือ เป็น ดร.เอ้ สุชัชร์ ได้ที่ 3 ร้อยละ 12% / อันดับ 4 คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ร้อยละ 6.7 / และ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร มาเป็นอันดับ 5 คือ 5.7% เท่ากับนายสกลธี ภัททิยกุล

นอกจากนี้บ้านสมเด็จโพลล์ ได้สอบถามประชาชนด้วยว่าอยากได้ผู้ว่าฯ กทม.แบบใดมากที่สุด พบว่า อันดับแรก คือ ผู้ที่ปฏิบัติตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้

และอยากให้ผู้ว่าฯ กทม. แก้ไขปัญหาใดอย่างเร่งด่วนมากที่สุด ซึ่งอันดับแรก คือ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

อีกด้าน เมื่อวาน นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการ กกต.กทม.เปิดเผยว่า กกต.ได้มีคำวินิจฉัยสั่งถอนชื่อ นายสราวุธ เบญจกุล อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ออกจากรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 28 เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากพบว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง จากเหตุถูกคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) พิจารณาผิดวินัยร้ายแรง ลงโทษไล่ออกจากราชการ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ราชการ เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา

ฉะนั้นล่าสุดก็จะเหลือผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทั้งหมด 29 คน จากที่ลงสมัครทั้งหมด 31 คน โดยก่อนหน้านี้ กกต.ไม่รับรอง นายไกรเดช บุนนาค ผู้สมัครหมายเลข 19 เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามเพราะถือหุ้นสื่อ



- เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อกลับไปใช้ บัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัตร 2 ใบ มีการมองว่าเรื่องจะทำให้พรรคเล็ก เสียเปรียบ จนต้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ นั้น ในที่สุดเมื่อวานนี้ศาลมีมติ “ไม่รับคำร้อง”ไว้พิจารณา

เรื่องนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่

เพราะตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญต้องการให้เป็นบัตรใบเดียวเพื่อทำให้คะแนนของประชาชนทุกคะแนนมีความหมายไม่สูญเปล่า แม้จะเลือกคนแพ้ก็ตาม

อย่างไรก็ตามกรณีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องดังกล่าว ของ นพ.ระวี ไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการดำเนินการในทางนิติบัญญัติ และไม่ปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยตรงจากการกระทำ

นอกจากเรื่องบัตรเลือกตั้ง2ใบแล้ว เมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังพิจารณาคำร้องของนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ แกนนำกลุ่มวีโว่ ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า การประกาศใช พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของรัฐบาล และ ไม่ให้มีการชุมนุมทางการเมืองนั้น เป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาล กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา และลงมติ วินิจฉัย ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/4PIJDm22oi8


คุณอาจสนใจ

Related News