พนังกั้นน้ำแตก! มวลน้ำทะลักท่วม อ.อินทร์บุรี ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง - อยุธยายังหนัก น้ำขยายวงกว้าง 11 อำเภอ

อำเภออินทร์บุรีวิกฤติ น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วม บ้านเรือนและสถานที่สำคัญ ทั้งตัวอำเภอแล้ว หลังพนังกั้นน้ำเจ้าพระยา ที่วัดปราสาทพังเมื่อเย็นวานนี้ ล่าสุดพบพนังกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาพังหลายจุด รวมถึงโรงพยาบาลอินทร์บุรี



โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.40 น.เย็นวานนี้ พนังกั้นน้ำช่วงหลังวัดปราสาท อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรีแตก ทำให้มวลน้ำทะลักแนวอุดช่องฟันหลอ ไหลเร็วและแรง ประชาชนไม่ได้เตรียมตัวในการอพยพ ส่งผลน้ำหลากท่วมอย่างรวดเร็ว



มีการแจ้งเตือนให้ประชาชน ให้ย้ายพาหนะออกจากพื้นที่ด่วน มวลน้ำทะลักมุ่งหน้าไปที่ว่าการอำเภออินทร์บุรี สถานีตำรวจภูธรอำเภออินทร์บุรี วัดสำโรง



ล่าสุด น้ำได้หลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่งอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ที่ว่าการอำเภออินทร์บุรี กรมทางหลวงอินทร์บุรี สถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรี โรงเรียนอินทร์บุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอินทร์บุรี รวมถึงไปรษณีย์อำเภออินทร์บุรี ถูกน้ำเข้าท่วมทั้งหมดแล้ว โดยโรงเรียนอินทร์บุรีต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว



ขณะที่โรงพยาบาลอินทร์บุรี เทศบาลอินทร์บุรี มีการนำดินลูกรังมาทำเป็นทางเดินเพื่อสัญจรเข้าออก โดยมวลน้ำที่ไหลมาจากวัดสำโรงกำลังเดินทางไปที่โรงพยาบาลอินทร์บุรี



ส่วนนี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่ทีมข่าวบันทึกไว้ได้ ขณะเจ้าที่อาสาสมัครกู้ภัยเร่งปั๊มหัวใจ และรีบนำตัวผู้ประสบเหตุรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ภัยที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ถูกไฟดูดหมดสติและหยุดหายใจ



เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ ต้องช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลอินทร์บุรีด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากรถกู้ภัยและรถฉุกเฉินในพื้นที่ ไม่สามารถนำผู้ป่วยเข้าไปในโรงพยาบาลได้ ต้องใช้รถยกสูงเท่านั้น



ตอนนี้ทางโรงพยาบาล ได้ตั้งเต้นท์บริการชั่วคราวด้านหน้าโรงพยาบาล เพราะรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถเข้าไปในโรงพยาบาลได้ คนป่วยที่มาโรงพยาบาล ต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้พื้นที่โดยรอบโรงพยาบาล มีน้ำท่วมสูงล้อมรอบ ส่วนตัวโรงพยาบาลอินทร์บุรี ยังสามารถให้บริการประชาชนได้



ขณะเดียวกันพบว่าแนวพนังกั้นน้ำ ของแม่น้ำเจ้าพระยา กับพื้นที่ชุมชนในเขตอำเภออินทร์บุรี มีจุดที่พนังแตกเพิ่มอีกหลายจุด ที่บริเวณวัดสำโรง และแนวคันดินบริเวณ ริมถนนสี่แยกหนองสุ่ม ทางขึ้นสะพานอินทร์บุรี



ทำให้ขณะนี้พื้นที่ในตำบลอินทร์บุรี ฝั่งตัวอำเภอถูกน้ำท่วมสูงทั้ง 5 หมู่บ้าน ตั้งแต่หมู่ที่ 1 ถึงหมู่ที่ 5 ส่วนพื้นที่อีก 5 หมู่บ้าน ฝั่งตลาดอินทร์บุรี หมู่ 6-10 ขณะนี้น้ำยังไม่เข้าท่วม แต่ระดับน้ำเหลืออีก 30 เซนติเมตร ก็จะข้ามผนังกั้นน้ำที่ทางอำเภอได้ทำไว้แล้ว



สิ่งสำคัญที่ทางพื้นที่เร่งทำในขณะนี้ คือการทำแนวป้องกันน้ำท่วมถนนหนองสุ่ม ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสำคัญใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากฝั่งที่ทำการอำเภอหนองสุ่ม ไปยังฝั่งตลาดอินทร์บุรี และเป็นเส้นหลักที่จะเชื่อมไปยังพื้นที่อื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นมุ่งหน้าสู่เขตอำเภอเมืองสิงห์บุรี หรือมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี



สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ ถือว่าอำเภออินทร์บุรี อยู่ในภาวะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นในทุกพื้นที่ จากนี้ไปมวลน้ำจะไหลเข้าสู่เขตอำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ดังนั้น พื้นที่รับน้ำต่อจากอำเภออินทร์บุรี ต้องเฝ้าระวังขั้นสูงสุด

หลังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปล่อยน้ำเพิ่ม ประกอบกับฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน จนถึงเช้านี้ส่งผลให้ระดับน้ำเจ้าพระยา ยังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำท่วมขังโบราณสถานหลายแห่งภายในเกาะเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะโบราณสถานวัดโลกยสุธาราม หรือที่เรียกว่าวัดพระนอนองค์ใหญ่ อายุกว่า 500 ปี ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญของจังหวัดฯ



ส่วนพื้นที่ ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล หลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับไปแล้ว น้ำยังคงขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยแล้ว 5-8 เซนติเมตร ในหลายพื้นที่ยังคงพยายามที่จะบล็อกน้ำ ป้องกันคันกั้นน้ำไม่ให้ไหลทะลักท่วมถนน สถานที่ราชการ วัด และโรงเรียน บ้านหลายหลังจมน้ำเหลือแต่หลังคา



ชาวบ้านบางคนต้องหนีน้ำไปอาศัยอยู่วัด หนึ่งในนั้นเป็นคุณยายอายุ 70 ปี ชื่อยายจำเนียร ต้องทิ้งบ้านที่ท่วมน้ำมาอยู่ที่ศาลาวัดกับเพื่อนบ้าน ยายจำเนียร บอกว่า ปีนี้เดือดร้อนหนักมาบ้านถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถอยู่พักอาศัยได้ ทำให้ต้องมาอาศัยอยู่วัดหลับนอนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย



นางวาสนา กำนันตำบลวัดตะกู พายเรือตระเวนไปรอบหมู่บ้าน สอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้าน บ้านเรือนมีสภาพไปแตกต่างกันจมน้ำอย่างน้อยครึ่งหลังทุกคนต้องหนุนบ้านอยู่อาศัยตามอัตภาพ



ส่วนพื้นที่ชุมชนหมู่ 1 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังมีคลิปสุดสะเทือนใจ ขณะคุณป้าซึ่งเป็นญาติของ น.ส.แคทรียา ไฉยากุล เจ้าของยาดมสมุนไพร "บ้านย่าสา เกาะเกร็ด" ต้องอุ้มผู้ป่วยสูงอายุกลับจากโรงพยาบาล โดยต้องอุ้มขึ้นเรือข้ามฟาก ก่อนเข็นรถวีลแชร์ลุยน้ำกลับบ้าน ท่ามกลางน้ำที่ท่วมสูงกว่า 50 เซ็นติเมตร



น.ส.แคทรียา เล่าว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 3 ทุ่ม คุณป้ามีอาการชักกำเริบ ต้องรีบอุ้มส่งโรงพยาบาลในสภาพน้ำท่วมสูงเกือบเอว ตอนนั้นเข็นรถเข็นไม่ได้เลย ต้องอุ้มอย่างเดียวเพราะน้ำสูง ซึ่งรถเข็นเปียกหมด วันต่อมาขากลับจากโรงพยาบาลก็ต้องอุ้มข้ามเรือกลับมาที่บ้านต่อ ชาวบ้านช่วยกันยกช่วยกันพากลับบ้าน เข็นรถเข็นวีลแชร์ฝ่าน้ำกลับด้วยความยากลำบาก ตอนคืนที่เกิดเหตุตนเหนื่อยมาก โทรหา 1669 เขาก็มาช่วย แต่ลำบากก็มายากเพราะระดับน้ำสูงมากจริงๆ



ปีนี้น้ำมาเร็วและแรงกว่าทุกปี ซึ่งชุมชนตำบลเกาะเกร็ดบ้านเราเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว คนแก่เยอะ ผู้ป่วยติดเตียงก็เยอะ ตอนนี้อยากให้มีเรือพยาบาล หรือพาหนะขนผู้ป่วยโดยเฉพาะเวลาน้ำท่วม เพราะมันลำบากมากจริงๆ ตอนนี้เวลาเข้าห้องน้ำชาวบ้านผู้สูงอายุไม่มีห้องน้ำใช้ก็ต้องเดินลุยน้ำไปวัดปรมัยฯ ระยะทางกว่า 500 เมตร อยากให้หน่วยงานมาช่วยทำห้องสุขาเคลื่อนที่ให้คนแก่ เพราะกลางคืนอันตราย ไหนจะสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ซึ่งน้ำลงแค่ตอนตี 3 ถึงตี 5 เท่านั้น



ส่วนปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา ล่าสุดวันนี้

-เขื่อนภูมิพลก็ได้เต็มความจุอ่าง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปริมาณน้ำ 13,406 ล้าน ลบ.ม.

วันนี้ระบายน้ำออก 55.05 ล้าน ลบ.ม.

- เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 9,309 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 98 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง ระบายน้ำอยู่ที่ 5 ล้าน ลบ.ม.

- เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำ 953 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 101 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง/ระบายน้ำออก 5.18ล้าน ลบ.ม.

- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 920 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 96 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง/ ระบายน้ำออก 11 ล้าน ลบ.ม.



นายประสาน แสงจุ่ม ผู้ช่วย ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล บอกว่า จะระบายน้ำวันละ 55 ล้าน ลบ.ม.ไปจนถึงวันที่16 พ.ย.นี้ ก่อนประเมินปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอีกครั้ง เพื่อปรับเพิ่มระบายน้ำ ซึ่งศักยภาพระบายน้ำสูงสุดที่ 60 ล้าน ลบ.ม.

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/_1lNwffp3nA