รวบสาวกระหน่ำยิงแฟนทอมดับ พบมีประวัติป่วยซึมเศร้า เพื่อนบ้านเผย มีปัญหาระหองระแหงกับผู้ตายบ่อยครั้ง

วานนี้ (21 ธ.ค.) ตำรวจ สภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุร้าน ต.เจริญทรัพย์ ในพื้นที่ ม.4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแฝดฝั่งหนึ่งเปิดเป็นร้านค้า อีกฝั่งเป็นที่พักอาศัย ที่หน้าร้านพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ทราบชื่อ น.ส.ขวัญดาว นามวงศ์ หรือดาว อายุ 44 ปี โดยมีพลเมืองดีและกู้ภัยนำร่างออกมาจากภายในบ้านพัก ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ น.ส.จรรยวรรธน์ พะโลสัน หรือโย อายุ 33 ปี ที่คบหากันมามากกว่า 12 ปี ซึ่งเป็นแฟนกัน โดยที่หน้าบ้านยังพบรถยนต์สีขาวของผู้ตายจอดสตาร์ทเครื่องอยู่


ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมที่เกิดเหตุ ไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ เพราะผู้ก่อเหตุยังมีอาวุธปืนและยังอยู่ภายในห้อง


จากนั้นเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมอาวุธครบมือได้เข้าไปพิสูจน์ทราบภายในบ้า นพบว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.จรรยวรรธน์ ได้หลบหนีออกไปแล้วโดยใช้รถ จยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่ารุ่นแกรนด์ฟีร่าโน่ สีเขียวหลบหนีออกไปทางหน้าหมู่บ้าน โดยกล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้านสามารถบันทึกภาพขณะผู้ก่อเหตุขับออกไว้ได้ จากนั้นได้นำรถ จยย. คันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ที่ตลาดแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง ก่อนจะโบกรถยนต์แท็กซี่หลบหนีไป


ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมแพทย์ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชันสูตรศพผู้เสียชีวติเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าตามร่างกายบริเวณอกซ้าย 4 นัด ข้อมือขวา 1 นัด หลัง 1 นัด ในบ้านพักพบหัวกระสุนปืนตรงบันได 1 หัว ในเสื้อ 1 หัว


ต่อมาเวลา 15.00 น. นางภาวิณี แฟรนช์ อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือและมีความสนิทคุ้นเคยได้มีการโทรศัพท์ไปยังมารดาของ น.ส.จรรยวรรธน์ ผู้ก่อเหตุ โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุได้มีการโทรศัพท์ไปหาพี่สาวและจะขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่รอให้ถึงบ้านก่อน

จากการสอบถามทางด้าน น.ส.พิดสะหนา ชายผา อายุ 24ปี ลูกจ้าง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองกลับจากร้านไปเวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ตายและผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนรักกันและคบหากันมามากกว่า 10 ปี ยังพูดคุยกันปกติดี และเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) คือวันเกิดเหตุตนเองมาถึงร้านเวลาประมาณ 06.20 น.เพราะผู้ตายจะเดินทางไปต่างจังหวัด ตนเองมาถึงก็เก็บกวาดบ้านตามปกติ หลังจากนั้นผู้ตายก็ขับรถไปไว้ที่หน้าร้านและขึ้นไปอาบน้ำ


จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด แต่ตนเองไม่ได้เอะใจอะไร และเพื่อนบ้านก็ได้ยินเสียงดังเหมือนปืนเช่นกัน อีกทั้งรถยนต์ยังสตาร์ทเครื่องไว้กว่า 20 นาทีแล้ว เพื่อนบ้านจคงได้ไปเคาะหน้าบ้าน แต่ก็ไม่มีคนตอบรับ และพบร่างของผู้ตายนอนอยู่ตรงบันไดจึงนำตัวออกมาด้านนอก ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อพี่โย ยังเก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก สำหรับตนเองเป็นลูกจ้างที่นี่มา 2-3 ปีแล้ว โดยทั้งสองคนมีปากเสียงกันบ่อยซึ่งตนเองไม่ทราบว่าเรื่องอะไร และผู้ก่อเหตุที่ชื่อพี่โยนั้นรักษาตัวอยู่ด้วยโรคซึมเศร้า


น.ส.พิดสะหนา ยังบอกอีกว่าทั้งสองคนมีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง โดยล่าสุดที่ทะเลาะกันนั้น ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุมีการแยกกันอยู่ โดย น.ส.จรรยวรรธน์ เดินทางกลับบ้านที่ภาคอีสาน รอบล่าสุดเมื่อประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุได้กลับบ้านไปนานประมาณ 2 เดือน แต่ทุกครั้งเดินทางไปจะโทรศัพท์ติดต่อกันตลอด เหมือนปรับความเข้าใจกัน และเมื่อเข้าใจกันก็กลับมาอีก โดยล่าสุดผู้ตายมีการให้เงินไปจำนวนมาก คล้ายเป็นการแบ่งทรัพย์สินโดยครั้งนั้นบิดา มารดาของน.ส.จรรยวรรธน์ ผู้ก่อเหตุเดินทางมาด้วย


ส่วนทางด้านนายดำรงค์ ชุมพล อายุ 59 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยนั่งปรับทุกข์กับผู้ตาย หลังจากทะเลาะกันแล้ว ผู้ก่อเหตุกลับมาก็ไม่เหมือนเดิม ไม่มีความรัก มีแต่ความสงสาร ความเป็นห่วง โดยเมื่อครั้งเดือนเมษายนทั้งสองคนทำเหมือนจะเลิกกันขาดเลย โดยผู้ตายบอกว่าระหว่างรถยนต์โตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์กับเงินจะเอาอะไร ตอนแรกผู้ก่อเหตุบอกจะเอารถเพราะเป็นชื่อเขา แต่เอาไปก็ขับไม่เป็น เลยเอาเงินไป ตนเองยังถามผู้ตายว่าให้เงินไปเท่าไหร่ โดยผู้ตายบอกว่า 7-8 แสนบาท ซึ่งล่าสุดกลับมาก็ทำท่าเหมือนจะดีกัน แต่พอมาสักพักก็ทะเลาะกันอีก โดยทางผู้ก่อเหตุมีบัตรจิตเวช ต้องรับยาและกินยาตลอด ไม่รู้ว่าล่าสุดได้มีการรับประทานยาหรือไม่ ซึ่งผู้ตายต้องเป็นคนเช็คจำนวนยาว่าแฟนสาวกินยาตามหมอสั่งหรือไม่


ขณะที่นายโชติชัย อุไรกุล อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านอีกราย เปิดเผยว่า ตนเองมาอยู่ตั้งแต่ปี58 โดยทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยเห็นทะเลาะกัน แต่ที่ได้ข่าวมาคือเขาระหองระแหงกัน แต่เรื่องอะไรตนเองไม่ทราบ ตนเองต้องการอะไรก็มาซื้อที่ร้านเขาเพราะเป็นร้านใหญ่ วันก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดตนเองก็ยังมาซื้อของอยู่ กระทั่งเช้าวานนี้ (21 ธ.ค.) ตนเองไปตลาดกลับมาก็พบว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงแล้ว สำหรับคนก่อเหตุนั้นแต่ก่อนอวบอั๋นรูปร่างสวยใครเข้ามาในร้านเตะตา ช่วงหลังทราบว่าเป็นโรคซึมเศร้าแต่สาเหตุการก่อเหตุตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด


ด้านพ ล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว. ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า สาเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนอยู่ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เบื้องต้นก็ยังไม่ทราบมูลเหตุ แต่จากการสอบถามคุณพ่อของผู้เสียชีวิตก็พบว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันมานานแล้ว ส่วนช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ด้วยผู้ตาย และผู้ก่อเหตุอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน โดยมีพลเมืองดีซึ่งเป็นลูกจ้างมาเปิดร้านแล้วได้ยินเสียงปืนแล้วก็ได้เรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันนำร่างผู้บาดเจ็บออกมานอกบ้าน และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ส่วนของอาวุธเป็นอาวุธปืนแต่ยังไม่ทราบขนาดเพราะตอนนี้เรากำลังรอ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากร่องรอยที่เห็นถูกยิงที่ข้อมือหนึ่งจุดและพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ที่บริเวณบันไดทางขึ้น โดยสภาพร่างผู้ตายตอนแรกอยู่บริเวณริมบันได โดยตอนนี้ก็รอแพทย์เข้าตรวจสอบอีกครั้ง


จากนั้นเวลา 16.30 น.ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ จ.ขอนแก่น สามารถจับกุมตัวนางสาวจรรยวรรธน์ ได้แล้ว ขณะเดินทางมากับพี่สาวที่ บขส.จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนขนาด .38 จำนวน 5 ปลอก และกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด  โดยเจ้าหน้าที่ สภ.คลองหลวง ได้เดินทางไปรับตัวผู้ก่อเหตุกลับมายัง สภ.คลองหลวง  


ส่วนที่ จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 21.30 น. ห้องสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.จรรยวรรธน์ มาสอบสวนลงบันทึกจับกุมในคดีดังกล่าว และตรวจหาหลักฐานเขม่าดินปืนจากมือข้างซ้าย และ อาวุธปืนสั้น ลูกโม่ ที่เป็นของผู้ตาย และเป็นอาวุธในการก่อเหตุ ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา


ซึ่งบรรยากาศขณะนั้นทางญาติๆ ของน.ส.จรรยวรรธน์ ได้เข้าไปกอดและปลอบใจ พร้อมทั้งร้องไห้สะอื้นกันอยู่สักพัก ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง จะควบคุมตัว น.ส.จรรยวรรธน์ กลับไปดำเนินคดีนั้น โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงสาเหตุที่ลงมือยิงผู้ตายว่าเป็นเพราะอะไร แต่น.ส.จรรยวรรธน์ ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนจะขึ้นรถและทางตำรวจพาตัวเดินออกไปทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากข้อมูลของทางตำรวจชุดสืบสวน ทราบว่า ภายหลังจากที่น.ส.จรรยวรรธน์ ก่อเหตุ ก็ได้หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุทันทีด้วยรถจักรยานยนต์ ก่อนจะต่อขึ้นรถแท็กซี่ไปลงที่หมอชิต แล้วนั่งรถทัวร์โดยสารสาธารณะมาลงที่ บ.ข.ส.แห่งที่ 3 จ.ขอนแก่น เพื่อมาหาญาติ ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้เป็นการวางแผนแต่หลังจากก่อเหตุแล้วเกิดความตกใจจึงเตลิดออกมาและคิดถึงญาติพี่น้องก็ตัดสินใจมุ่งหน้ามาหาทันที กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมเอาไว้ได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/TlSjL8t9Jw8