แพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี แถลงปม 'น้องผิง' เสียชีวิต ชี้ ผลชันสูตรเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด

นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี แถลงชี้แจงกรณีศิลปินนักร้องหญิงรถแห่วัย 20 ปี เสียชีวิต จนเชื่อว่า อาจมาจากการไปนวดบิดคอ วันนี้แพทย์ชี้แจงว่า ผลชันสูตรการเสียชีวิตเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ส่วนจะเกิดจากการนวดผิดท่าจนทำให้เสียชีวิตหรือไม่นั้น ต้องรอผลสอบสวนจากตำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง


นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขอุดรธานี แถลงว่า การเสียชีวิตครั้งนี้ เกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด และมีเชื้อราร่วมด้วย โดยยังไม่ยืนยันว่า เกิดจากการนวดหรือไม่ หากญาติติดใจ สามารถร้องขอให้ตำรวจชันสูตรพลิกศพได้ ผู้เสียชีวิตวัย 20 ปี คนนี้ เริ่มรักษาตัว ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งช่วง วันที่ 6 พฤศจิกายน ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี คนไข้ปวดต้นคอ แขนขาอ่อนแรงขยับไม่ได้ จึงเจาะหลังไปตรวจ พบว่า ไขสันหลังอักเสบ โดยไม่มีปัญหาเรื่องกระดูกหักบริเวณต้นคอ ให้ยาแล้วอาการดีขึ้น กระทั่งวันที่ 18 พฤศจิกายน มีอาการเกร็งกระตุก และรักษาตัวเรื่อยมา กระทั่งเสียชีวิต


อีกด้านหนึ่ง พญ.ศรัญญา ยุทธโกวิท นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวว่า จากที่ดูฟิล์มเอ็กซ์เรย์ของผู้เสียชีวิต ที่โพสต์เพียงภาพเดียว พบ ว่า มีความผิดปกติ โดยมีความเสื่อมซ่อนบริเวณกระดูกต้นคออยู่ แต้ต้องทำ MRI เพิ่มเติมร่วมด้วย จึงจะได้ข้อมูล 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอาการลักษณะนี้ไม่ควรไปนวดบิดคอ จะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง รวมถึงผู้ที่มีอาการปวดคอ ร้าวลงแขน ปลายมือปลายนิ้วชา ไม่ควรไปนวดเด็ดขาด ควรพบแพทย์กระดูกรักษาให้ตรงจุด โดยเฉพาะต้นคอ คนที่มีอายุน้อยก็ต้องระวังการกดเส้นเลือดใหญ่ที่คอด้านหน้าและ ด้านหลัง


พญ.ศรัญญา ยังบอกอีกว่า การนวด ไม่น่านำไปสู่การติดเชื้อ เพราะ ไม่มีบาดแผล แต่อาจเกิดการติดเชื้อในโรงพบาบาล/ขณะเดียวกัน การนวดมีโอกาสไปกระตุ้นให้โรครุนแรงได้ อย่างกระดูกปลิ้นไปกดทับเส้นปราสาท จนเกิดอาการรุนแรงขึ้นได้


ทางด้าน พ.ต.อ.ฉกาจ เทียมวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี กล่าวว่า ในเรื่องนี้ หลังจากแม่ของน้องผิงมาแจ้งความเมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 ที่สภ.เมืองอุดรธานี ทางพนักงานสอบสวนอยูในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้การกระทำผิด ต้องผลการสอบสวนสืบสวน ทั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย