เมื่อเวลา 07.00 น. ว้นที่ 5 ธ.ค.67 “พ.ต.ท.ยุทธนา พุกสุก" สว.สอบสวน สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งมีคนพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในทุ่งนา พื้นที่ ม.1 (บ้านถนนงาม) ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร จึงได้ออกตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดคลองขลุง
ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาภายในหมู่บ้าน บริเวณถนนลูกรังข้างคันนา พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ ประมาณ 60 ปี สวมเสื้อคลุมสีดำแขนยาว และเสื้อยืดสีเขียว สวมกางเกงขายาวสีดำ สภาพกางเกงถูกถลกลงจากเอว นอนหงายเสียชีวิตในโคลนนา สภาพศพมีรอยเลือดบริเวณหน้าท้องและเอวด้านขวา ชายเสื้อถลกขึ้นไปเกือบถึงหน้าออก ใกล้กันพบรอยเลือดอยู่บนถนนลูกรังจำนวนมาก เศษขวดแตก และเศษหมวกกันน็อกและเศษกางเกงของผู้เสียชีวิต และพบรองเท้าของผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในน้ำเหนือศีรษะ ทราบชื่อคือ นายอุดม อายุ 60 ปี ชาวม.12 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
โดยผู้พบศพคนแรกคือ นายสมหมาย อายุ 59 ปี ชาวม.1 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้นำข้าวปลูกมาแช่ในแปลงนาดังกล่าว และเลือบไปเห็นร่างของผู้เสียชีวิตนอนจมโคลนอยู่ จึงได้ใหัลูกชายไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจให้เข้าตรวจสอบ
หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาตรวจสอบและนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากโคโรนาก็พบว่ามีรอยแผลตามร่างกายถูกของมีคมแทงบริเวณลำตัว 8 แผล ที่ศีรษะ 2 แผล ด้านหลัง 8 แผล ซึ่งจากนี้จะส่งศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
เจ้าของร้านคาราโอเกะได้ให้ข้อมูลว่า ค่าเหล้าที่เช็กบิล จำนวน 1,400 บาท ซึ่งเพื่อนผู้ตายไม่ยอมจ่าย และได้ทิ้งรถของเพื่อนผู้ตายไว้เป็นประกันและออกไป 3 คน เพื่อจะไปเอาเงินที่บ้านผู้ตายมาจ่าย
นายสมหมาย อายุ 59 ปี ผู้พบศพคนแรก เล่าว่า ตนเองและลูกชายนำข้าวปลูกไปแช่ในแปลงนาดังกล่าวเตรียมจะนำไปว่าน ได้สังเกตเห็นว่ามีคนนอนอยู่ในนา ตอนแรกคิดว่าคงจะเมาแล้วมานอน แต่พอเข้าไปดูใกล้ ๆ พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งก็ไม่เคยเห็นผู้ตายมาก่อน น่าจะไม่ใช่คนในหมู่บ้าน โดยข้างศพผู้ตายมีขวดเบียร์แตกอยู่ และมีขวดเบียร์แนบอยู่ข้างเอวผู้ตาย
น.ส.อนงค์ อายุ 49 ปี ชาว ม.2 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เจ้าของร้านคาราโอเกะที่ผู้ตายไปดื่มกินกับเพื่อนอีก 2 คน ก่อนจะมาพบเป็นศพในทุ่งนา เล่าว่า ผู้ตายมากินเหล้าที่ร้านคาราโอเกะของตนบ่อยครั้ง โดยช่วงกลางวันก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ซื้อเหล้าไว้ที่ร้าน ตกค่ำตนก็ได้โทรเรียกให้มากิน ซึ่งก็มีเพื่อนอีก 2 คน ผู้หญิงและผู้ชายตามเข้ามานั่งดื่มด้วย
หลังจากนั้นก็ได้เช็กบิลไป แต่เพื่อนผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงิน จึงพากันขับรถออกมาเอาเงินที่บ้านเพื่อน โดยภายในร้านก็ไม่ได้มีปากเสียงอะไรกัน ซึ่งปกติผู้ตายถึงบ้านก็จะโทรบอกตน แต่ครั้งนี้หายไปผิดสังเกตจนมาเจอเป็นศพที่ทุ่งนา
นายพิพัฒน์ อายุ 35 ปี ชาวม.12 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพขร หลานชายของผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของเมื่อคืน มีผู้หญิงเข้ามาขอซื้อน้ำมันที่อู่ของตน ตนเลยบอกว่าไม่มีน้ำมันขาย จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็เดินออกจากอู่ไป ซึ่งก็เหมือนมีคนสตาร์ตรถจักรยานยนต์และเร่งเครื่องรออยู่ข้างนอกจากนั้นก็ขับออกไป ซึ่งก็มีท่าทีลุกลี้ลุกลนน่าสงสัย
โดยปกติไม่มีใครมาเรียกซื้อน้ำมันยามค่ำคืนตนก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน จึงเซฟไฟล์ในกล้องวงจรปิดไว้และส่งให้ตำรวจ ซึ่งก็พบว่าเป็นคนเดียวกันที่ไปนั่งกินกับลุงตนที่ร้านคาราโอเกะ ผู้ตายเป็นลุงของตนเองปกติจะมีนิสัยชอบดื่มเหล้าเที่ยวเตร่ไปทั่ว เป็นคนสนุกสนานไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร ซึ่งผู้ตายก็ได้อยู่คนเดียวหลังจากที่แม่ได้เสียชีวิตลงไปช่วงเมษายนที่ผ่านมา
พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตได้ไปนั่งดื่มเหล้าที่ร้านคาราโอเกะในพื้นที่บ้านโค้งวิไล ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร จากนั้นก็มี 2 ผัวเมียตามเข้ามานั่งดื่มด้วย ซึ่งก็เป็นเพื่อนของผู้ตายสมัยเรียน ซึ่งก็ได้นั่งดื่มกันคนละโต๊ะ จากนั้นผู้ตายขับรถกลับออกมาก่อน โดยทางร้านได้เช็กบิลค่าเหล้ากับ 2 ผัวเมียแต่ไม่ยอมจ่ายอ้างว่าให้ผู้ตายเป็นคนจ่ายเพราะให้เงินไปแล้ว ซึ่งเจ้าของร้านก็ได้โทรตามผู้ตายให้ออกมาเคลียร์ ซึ่งผู้ตายก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการจ่ายเงินให้แต่อย่างใด จากนั้นก็ได้พากันขับรถออกมาเอาเงินที่บ้านของเพื่อนผู้ตายระหว่างนั้นก็ได้ถกเถียงกันจนเกิดเหตุดังกล่าว โดยมีผู้หญิงขับ ผู้ตายนั่งกลางและเพื่อนผู้ชายนั่งท้าย รวมกันมา 3 คน ซึ่งก็พบรอยขวดแตกในบริเวณที่เกิดเหตุโดยเชื่อว่าน่าจะทุบขวดให้แตกและใช้ช่วงแทงจนเสียชีวิตและลากศพลงไปในนา ซึ่งก็อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้ได้จัดชุดตำรวจไล่ล่าตามตัวผู้ก่อเหตุอยู่ซึ่งก็ทราบชื่อแล้วว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน