ปภ. เตือนภาคใต้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันรอบใหม่ 14 จังหวัด 3-5 ธ.ค.67

ภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง ตอนนี้หลายจังหวัดก็เริ่มคลี่คลาย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังคงประกาศเตือน 14 จังหวัดในพื้นที่ให้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังช่วงวันที่ 3-5 ธันวาคมนี้


สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลาเริ่มคลี่คลายลง หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันในช่วงวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2567 จนน้ำล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอเทพา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้มีความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐานของประชาชนในพื้นที่ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้นำทีมปฏิบัติการบินสำรวจประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นในอำเภอเทพา พร้อมกับนำถุงยังชีพจำนวนหนึ่ง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ซึ่งยังมีน้ำท่วมขัง แม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากนี้ทางจากหวัดจะเร่งแจกจ่ายถุงยังชีพ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก และการเร่งดำเนินการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด


ขณะที่ ชาวบ้านตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ ถือโอกาสที่ระดับน้ำเริ่มลดลง และ ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ ออกไปดักปลาไหลตามทุ่งนา ได้ปลาไหลจำนวนมาก มากกว่า 10 กิโลกรัม สามารถนำมาขายได้รายได้หลักพันบาท


ส่วนที่ยะลา หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านต่างเริ่มเก็บกวาดบ้านเรือน แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง อย่างเช่น ที่ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ร้านค้าและบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนถนนเปรมจิตต์-สุรพันธ์ ยังคงได้รับความเสียหาย ชาวบ้านเล่าว่า แม้ทางเทศบาลได้ประกาศแจ้งเตือนไว้ให้เฝ้าระวัง แต่น้ำในปีนี้ก็มากกว่าทุกปี เพราะบริเวณนี้ไม่เคยถูกน้ำท่วมมาก่อน เบื้องต้นอยากให้ภาครัฐออกมาช่วยเหลือ และ เยียวยา


ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้หารือการนำเสนอเงินเยียวยาสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ร่วมกับนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยตอนนี้กระทรวงมหาดไทยได้ส่งต่อไปยังคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. แล้ว แต่คาดว่าจะต้องเป็นการพิจารณาในช่วงสัปดาห์หน้า

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้ง 14 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ให้คงเฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 3 – 5 ธันวาค นี้ 67 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่เดิม ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้น้อยที่สุด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด


ขณะที่ กรมชลประทาน วันนี้ได้ประชุมสรุปวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และเตรียมพร้อมรับมือพายุอีก 1 ลูก จะมีฝนตกเพิ่มในภาคใต้ กลางเดือนนี้ โดยมีนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานประชุม พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ซึ่งเขื่อนบางลาง จ.ยะลา เขื่อนเดียวในจังหวัดชายแดนใต้ ขณะนี้กักเก็บน้ำ 1,180 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือพื้นที่รับน้ำได้อีก 18 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง / ล่าสุดทางคณะทำงานบริหารจัดการน้ำเขื่อนบางลาง ได้มีมติระบายน้ำแบบขั้นบันได ในช่องทางปกติ เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อนจังหวัดยะลาและปัตตานี โดยวันนี้ระบายน้ำอยู่ที่ 16 ล้าน ลูกบาศ์กเมตรต่อวัน (เพิ่มจากเมื่อวานนี้ 13 ล้าน ลูกบาศ์กเมตรต่อวัน ) เพื่อเตรียมรับน้ำฝนจากพายุอีกลูกที่จะเข้ามาเติมเพิ่ม