จากกรณีชาวบ้านแจ้งกู้ภัยช่วยเหลือเด็ก 3 คน ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย จนยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจ ล่าสุดวันนี้ ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครลงพื้นที่เข้ารับเด็กดูแลแล้ว ส่วนพี่เลี้ยงตำรวจนำตัวฝากขังศาลอาญาแล้ว ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กและผิดพ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว
ทีมข่าวลงพื้นที่ ชุมชนประชาร่วมใจ 1 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ เข้ามาตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ซึ่งสภาพ ภายในบ้านไม่ถูกสุขลักษณะ มีกองขยะ เสื้อผ้า ทิ้งกองรวมกัน ของใช้เด็กเกลื่อน ยังไม่มีการเก็บทำความสะอาด
ชาวบ้าน เล่าว่า บ้านหลังนี้ อยู่กัน 5 คน มีบุ้ง อายุ 39 ปี กับลูกชาย น้องกังฟู 11 ปี และมีเด็กอีก 3 คน ที่รับเลี้ยง เป็นเด็กเล็กวัย 6 เดือน, 7 เดือน และ 5 ขวบ ปกติบุ้งจะไม่เปิดบ้านเลย จะเห็นแค่ตอนที่พาเด็กเล็กออกมาเดินข้างนอกบ้าง
พฤติกรรม บุ้ง เป็นคนพูดจาดี ยิ้มแย้ม อัธยาศัยดีกับทุกคน ไม่เคยเห็นว่า มีพฤติกรรมรุนแรง หรือทุบตีเด็กเลย และทราบเพียงว่า บุ้งย้ายมาอยู่ใหม่ และเปิดรับเลี้ยงเด็กแบบอยู่ประจำ ในเด็ก 3 คน มีคนเล็ก 6 เดือน ที่มีแม่มารับอาทิตย์ละครั้ง แต่เด็กอีก 2 คน ไม่เห็นครอบครัวเข้ามาเยี่ยม หลายครั้งที่บุ้งไม่อยู่ ลูกชายกังฟู จะเป็นคนดูแลเด็กแทน บางครั้ง
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บ้านข้างๆ ได้ยินเสียงเด็กร้องตลอด เคยมาคุยกับบุ้ง แต่ถูกต่อว่ากลับไป จนเมื่อวาน ชาวบ้านทนไม่ไหว ปรึกษากัน โทรแจ้งตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบ และสามารถช่วยเด็กออกมาได้
ทีมข่าว ได้คุยกับ แม่บุ้ง ซึ่งอยู่บ้านอีกหลัง เล่าว่า ปกติ ตนกับลูกสาวไม่ค่อยจะคุยกัน เพราะทะเลาะกันบ่อย แต่รู้ว่าเขารับเลี้ยงเด็ก ซึ่งก็เคยเตือนว่าจะดูแลไหวไหม, เลี้ยงได้ไหม ส่วนเรื่องอารมณ์นิสัย เขาก็ปกติ ไม่เคยเห็นว่า จะความรุนแรง เวลาคุยกับคนอื่น เขาจะพูดดีแต่พ่อ กับแม่เขาจะโมโหง่าย ชอบเถียง
โดยตั้งแต่เขารับเลี้ยงเด็ก แม่ไม่เคยเข้าไปในบ้าน จึงไม่รู้ว่า มีสภาพความเป็นอยู่เป็นอย่างไร แต่เรื่องที่เขาทำร้ายเด็ก เราก็สงสารเด็ก ดีแล้วที่ตอนนี้ตำรวจ มาช่วยเด็กไปก่อน จะเกิดเรื่องที่ร้ายแรงกว่า
ในระหว่างนั้น ทีมรองผู้อำนวยการเขตจตุจักร และบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร พม. เดินทางมารับตัวเด็ก 1 คนอายุ 7 เดือน ซึ่งชาวบ้านที่รับดูแลอยู่ และยังไม่สามารถติดต่อพ่อ แม่เด็กได้
น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกทม. ระบุว่า จะรับตัวเด็ก 7 เดือน ไปดูแลที่บ้านเด็กอ่อนพญาไทก่อน ส่วนเด็กอีก 2 ราย จะส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยประเมินสภาพจิตใจ รวมไปถึงลูกชายของบุ้งด้วย ทั้งนี้บ้านที่บุ้ง เปิดรับเลี้ยงเด็ก ยังไม่ถือว่าเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก เพราะตามกฎหมายจะต้องมีเด็ก 6 คนขึ้นไป แต่ในห้องนี้ มีเด็กที่รับเลี้ยงเพียง 3 คน ซึ่งไม่เข้าองค์ประกอบของการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก
ขณะที่บรรยากาศ สน. ประชาชื่น ช่วงบ่ายทางครอบครัวของเด็ก วัย 6 เดือน ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจ ซึ่งทีมข่าวได้คุยกับแม่เด็กสั้นๆ เล่าว่า ไม่ได้รู้จักกับบุ้ง เป็นการส่วนตัว แต่เห็นประกาศจากเฟซบุ๊ก จึงนำลูกไปฝากเลี้ยง ซึ่งตอนนี้รับลูกกลับมา ไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ขอให้ปากคำตำรวจก่อน ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ใดๆ
ด้าน พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น ให้ข้อมูลว่าเบื้องต้น จะแจ้งข้อหา บุ้ง ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส และ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำ ด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550
กระทั่งเวลา 15.30 น. หลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติ อละทำหนังสือขออำนาจศาลฝากขัง น.ส.จันน์สุดา บุญประกอบ หรือ ผักบุ้ง ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งบุ้งก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว โดยจะฝากขังทั้งหมด 5 ผัด ผัดละ 6 วัน รวมเป็น 30 วัน ก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป