วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านอ่างเสือดำ พบผู้ใหญ่สมบูรณ์ แซ่โกว์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านอ่างเสือดำ ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากที่ก่อนหน้า ผู้ใหญ่สมบูรณ์ ได้มีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่มีการตัดพ้อ โอดถึงรัฐ ให้ลงมาแก้ไขปัญหาภัยจากช้างป่าทำลายพืชผลทางการเกษตรชาวบ้านในพื้นที่ โดยในเฟซบุ๊กจะเห็นว่าป่าสวนยางพาราของชาวบ้านได้รับความเสียหายหนัก พร้อมบรรยายว่าช้างป่าได้ทำลายหักโค่นต้นยางพาราชาวบ้านไปนับพันต้นแล้วจะทำอย่างไรกันดี
เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึง ผู้ใหญ่สมบูรณ์ แซ่โกว์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านอ่างเสือดำ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯ ทีมชาวบ้านจิตอาสาชุดเฝ้าระวังช้างป่า ก็พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ร่วมสำรวจความเสียหายจากการที่มีช้างป่ากว่า 30 ตัว มาทำลายหักโค่นต้นยางพาราเสียหายจนเป็นวงกว้างทั่วพื้นที่บ้านอ่างเสือดำ
เมื่อไปถึงจุดป่าสวนยางพบขี้ช้างสดๆ ซึ่งผู้ใหญ่สมบูรณ์ ต้องสั่งให้ทำคนพร้อม เพราะกลิ่นของช้างป่าคุ้งทั่ว ซึ่งคาดว่าช้างป่ากว่า 30 ตัว จะกระจายพักผ่อนรอบบริเวณนี้ และยังพบว่าสภาพต้นยางพาราถูกหักโค่นเสียหายอย่างน่าเศร้า ซึ่งทางผู้ใหญ่สมบูรณ์ บอกว่าเห็นไหมครับ ต้นยางปลูกมาจะเก้าปีแล้ว แต่มาถูกช้างป่าหักโค่นภายในไม่กี่นาทีต่อต้น รวมๆ แล้วต้นยางของชาวบ้านถูกช้างป่าทำลายหักโค่นไปแล้วกว่าหนึ่งพันต้น
ด้านผู้ใหญ่สมบูรณ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงสัปดาห์นี้ มีการผลักดันช้างป่าในหลายพื้นที่โดยรอบทั้งตำบลท่าตะเกียบเอง ทั้งฝั่งตำบลท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ตนเข้าใจดีว่าช่วงนี้ชาวบ้านเกษตรกรต่างต้องระวังป้องกันช้างป่าจะเข้าทำลายนาข้าวที่ใกล้จะถึงฤดูเก็บเกี่ยว ก็พยายามจะทำใจ ทั้งๆ ที่บ้านอ่างเสือดำไม่ไปไล่หรือผลักดันช้างป่าเลย แต่ทำไมต้องเหมือนว่าชาวบ้านอ่างเสือดำต้องมารับเคราะห์ รับความเดือดร้อนจนเกิดความเสียหายเอง ตอนนี้ด้วยเป็นช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่ก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาคือท่านนายอำเภอท่าตะเกียบ นายอำนวย เกษตรสินธ์นุกูล ทราบแล้ว โดยท่านนายอำเภอประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องลงสำรวจให้พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือต่อ